การศึกษาประสิทธิผลการเล่นไวโอลินระดับพื้นฐาน ด้วยวิธีการร้องโน้ตสากลแบบโดย้ายที่

บทคัดย่อ

การวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงทดลอง มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาแบบเรียน และแบบฝึกการเล่นไวโอลิน โดยใช้วิธีการร้องโน้ตแบบโดย้ายที่ และเพื่อศึกษาประสิทธิผลของการเล่นไวโอลิน โดยใช้การร้องโน้ตแบบโดย้ายที่ที่ผู้วิจัยได้พัฒนาขึ้น

ประชากรที่ใช้ในการศึกษาได้แก่ นักเรียนอายุ 13-15 ปี ที่เรียนไวโอลินในอำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย จำนวน 20 คน กลุ่มตัวอย่างคือนักเรียนจำนวน 5 คน โดยใช้การเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย บทเรียน แบบฝึกหัดการเขียน การร้องโน้ต และการเล่นไวโอลิน โดยการใช้โน้ตสากลแบบโดย้ายที่ บทเพลงฝึกหัดสำหรับการเล่นไวโอลินระดับพื้นฐาน แบบทดสอบระหว่างเรียน และหลังเรียน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ร้อยละ และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน

ผลการวิจัยพบว่า นักเรียนที่เรียนแบบฝึกหัดการร้องโน้ตสากลแบบโดย้ายที่ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นทั้ง 5 คน สามารถเล่นบทเพลงที่กำหนด ทั้งระดับเสียงและจังหวะในระดับถูกต้องมาก ถึงถูกต้องมากที่สุด โดยมีนักเรียนที่เล่นบทเพลงได้ในระดับถูกต้องมากที่สุดจำนวน 4 คน และนักเรียนที่เล่นบทเพลงได้ในระดับถูกต้องมากจำนวน 1 คน ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้คือ นักเรียนจำนวนร้อยละ 70 ของจำนวนผู้เรียนที่เรียนจากแบบฝึกหัดการร้องโน้ตสากลที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น สามารถเล่นบทเพลงที่กำหนด ทั้งระดับเสียงและจังหวะในระดับถูกต้องมาก ถึงถูกต้องมากที่สุด

A study of effectiveness of learning basic violin playing by using “movable do” method

The purpose of this experimental research were to develop the violin exercises using the method of singing movable Do and to study the efficiency of the violin playing that used the violin exercises that was developed by the researcher. The sample group consisted of five violin students, ages 13 to 15, from Chiang Rai, Thailand, selected by purposive sampling. The research instruments used in this study included lessons, exercises, singing (using movable Do), songs and playing at the beginner level, and tests that were prepared by the researcher. Data analysis is indicated by mean, standard deviation and percentage. Results showed that all 5 students who learned to play violin by using this method could play the assigned pieces correctly, four excellently and one a little less well. Therefore, the hypothesis was confirmed that 70% of students who used this method of study achieved excellent results.