ปัญหาทางกฎหมายในการวิจัยในมนุษย์
Legal Problems Concerning Research Involving Human Subjects
คำสำคัญ:
วิจัยในมนุษย์, ร่างพระราชบัญญัติวิจัยในคน, กฎนูเรมเบิร์กบทคัดย่อ
บทคัดย่อ
ในปัจจุบันประเทศต่างๆ ทั่วโลกโดยเฉพาะประเทศที่พัฒนาแล้ว ได้มีกฎหมายเกี่ยวกับการวิจัยในมนุษย์และมีการบังคับใช้เพื่อควบคุม ส่งเสริม และพัฒนาวิจัยในมนุษย์ในด้านต่างๆ ทั้งการวิจัยในมนุษย์ทางด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพ และการวิจัยในมนุษย์ทางสังคมศาสตร์ โดยประเทศที่พัฒนาแล้วเหล่านี้ ได้พยายามออกกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับและแนวปฏิบัติในการทำวิจัยในมนุษย์และพยายามผลักดันให้ประเทศกำลังพัฒนาปฏิบัติตามเกี่ยวกับการวิจัยในมนุษย์ในด้านต่างๆ เช่น การวิจัยทางด้านการผลิตยา การวิจัยและทดลองเกี่ยวกับขั้นตอนวิธีการรักษาและการป้องกันโรคต่างๆ การตีพิมพ์ผลงานวิจัยและผลงานทางด้านวิชาการในมนุษย์ จำเป็นจะต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการการวิจัยในมนุษย์ก่อนจึงจะสามารถจดสิทธิคุ้มครอง หรือดำเนินการวิจัยหรือตีพิมพ์ได้ นอกจากนี้ในการกำหนดมาตรการขั้นตอน วิธีการ และแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการวิจัยในมนุษย์ประเทศที่พัฒนาแล้วได้มีการจัดประชุม สัมมนา เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์ขั้นตอน วิธีการ และแนวปฏิบัติออกมาเป็นจำนวนมาก เป็นที่แพร่หลาย และเป็นที่ยอมรับกันทั่วโลก เช่น ปฏิญญาเฮลซิงกิ โดยสมัชชาแพทย์สมาคมโลก (World Medical Association Declaration of Helsinki)
กฎนูเรมเบิร์ก เป็นหลักเกณฑ์จริยธรรมสากลสำหรับการวิจัยในมนุษย์ หลักเกณฑ์จริยธรรมสากลสำหรับการวิจัยทางชีวเวชศาสตร์ที่ใช้ในมนุษย์เป็นอาสาสมัคร ซึ่งจัดทำโดยสภาสหองค์กรสากลด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์ร่วมกับองค์การอนามัยโลก โดยเน้นการป้องกันปัญหาการศึกษาวิจัยในประเทศกำลังพัฒนามิให้ประชาชนตกอยู่ในสถานะเป็นหนูทดลอง เป็นต้น กฎและหลักเกณฑ์ต่างๆที่เกี่ยวกับการวิจัยในมนุษย์มีอีกมายมายหลายที่นำมาเป็นแนวปฏิบัติสำหรับการวิจัยในมนุษย์ สำหรับประเทศไทยการดำเนินการวิจัยในมนุษย์ ยังไม่มีกฎหมายเฉพาะออกมาบังคับใช้ในปัจจุบัน ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้เสนอร่างพระราชบัญญัติการทดลองต่อมนุษย์ พ.ศ.... และต่อมาได้มีการยกร่างยังอยู่ในขั้นตอนพิจารณาจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) คือร่างพระราชบัญญัติวิจัยในคน พ.ศ....โดยมีหลักการคือ เน้นการกำกับดูแลการวิจัยในคนโดยเฉพาะและคุ้มครองสิทธิของบุคคลผู้เข้าร่วมการวิจัย จัดระบบการกำกับดูแลและการวิจัยในคนให้เป็นไปโดยมีประสิทธิภาพ โดยกำหนดให้โดยการวิจัยในคนต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการจริยธรรมการวิจัยประจำสถาบันก่อน กำหนดให้มีองค์กรตามกฎหมายให้มีหน้าที่กำหนดมาตรฐานการทำวิจัยในคนและตรวจตราให้การดำเนินงานการวิจัยในคนเป็นไปตามมาตรฐานที่กฎหมายกำหนด เหตุผลและความจำเป็นดังกล่าวรัฐโดยองค์กรระหว่างรับผิดชอบต้องเร่งดำเนินการออกกฎหมายมาบังคับใช้เป็นการเฉพาะให้รวดเร็วที่สุด เพื่อเป็นมาตรการในการส่งเสริม สนับสนุนและกำกับดูแลระบบการทำวิจัยในมนุษย์ให้ครอบคลุมนอกเหนือจากมาตรฐานคณะกรรมการวิจัยในคน (มคจค.) สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) พ.ศ. ๒๕๕๖ ที่ใช้บังคับและเป็นแนวปฏิบัติอยู่ในปัจจุบัน
เอกสารอ้างอิง
ประมวลกฎหมายแพ่งพาณิชย์
ประมวลกฎหมายอาญา
พระราชบัญญัติกฎหมายแห่งชาติ พ.ศ. 2550
พระราชบัญญัติกฎหมายสุขภาพ พ.ศ. 2551
มาตรการจริยธรรมวิจัยในมนุษย์. (2557). คู่มือการเสนอขอพิจารณาหลักพิจารณาจริยธรรมทางการวิจัยในมนุษย์
วิชัย โชควิวัฒน์. (2560). จริยธรรมการวิจัยในมนุษย์. สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ(สธ.). 15-49.
วิฑูรย์ อึ้งประพันธ์. (2538). ศิลปของฮิปโปเครติส. คลินิก 11 : 709-19.
วิฑูรย์ อึ้งประพันธ์. (2530). ความยินยอมที่ได้รับการบอกกล่าวในเวชปฏิบัติ. นิติเวชสาธกฉบับกฎหมายกับเวชปฏิบัติ,. กรุงเทพฯ: โครงการตำราศิริราช หน้า 104.
วิฑูรย์ อึ้งประพันธ์. (2546). กฎหมายการแพทย์. กรุงเทพฯ: สำนักนิติกรวิญญูชน, หน้า 163.
สำนักงานคณะกรรมการวิจัย (วช.). (2556). มาตรฐานคณะกรรมการจริยธรรมวิจัยในคน(มคจค.). โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หน้า 1-2.
อเนก ยมจินดา. (2540). การทดลองในมนุษย์กับความอาญาฐานทำร้ายร่างกายใน แสวง บุญเฉลิมวิภาสและอเนก ยมจินดา กฎหมายทางการแพทย์. กรุงเทพ, : สำนักพิมพ์วิญญูชน: 243 : 53.
Bassiouni MC.BassesTG. Evrard JT. Anapprisol of human experimentation Law and practice : the need for international regulation of human experimentation. J criminal 1981:72:1597-66.
Health aspects of human right with special reference to development in biology and medicine. Geneva : HO 1976.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิชาการ สถาบันเทคโนโลยีแห่งสุวรรณภูมิ
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับสถาบันเทคโนโลยีแห่งสุวรรณภูมิ และคณาจารย์ท่านอื่นๆในสถาบันฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว

