การพัฒนารูปแบบการประเมินสมรรถนะด้านการสอนของครูในโรงเรียนประถมศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ในภาคตะวันออก
คำสำคัญ:
การพัฒนารูปแบบการประเมินสมรรถนะบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุปะสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพและปัญหาการประเมินสมรรถนะด้านการสอนของครู ในโรงเรียนประถมศึกษา 2) เพื่อสร้างและพัฒนารูปแบบการประเมินสมรรถนะด้านการสอนของครู ในโรงเรียนประถมศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานในด้านตะวันออก 3) เพื่อประเมินรูปแบบการประเมินสมรรถนะด้านการสอนของครูในโรงเรียนประถมศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานในภาคตะวันออก มีวิธีการดำเนินการวิจัย 3 ขั้นตอน ดังนี้ ขั้นตอนที่ 1 ศึกษา สภาพและปัญหาการประเมินสมรรถนะด้านการสอนของครูโรงเรียนประถมศึกษา โดยวิธีการสัมภาษณ์ผู้อำนวยการโรงเรียนประถมศึกษา ครูเชี่ยวชาญสอนในระดับประถมศึกษา ขั้นตอนที่ 2 การสร้างและพัฒนารูปแบบการประเมินสมรรถนะด้านการสอนของครูในโรงเรียนประถมศึกษา ใช้วิธีการวิเคราะห์องค์ประกอบ โดยเก็บรวบรวมข้อมูลจากตัวอย่าง จำนวน 112 คน โดยวิธีเฉพาะเจาะจง ประกอบด้วยผู้อำนวยการโรงเรียนประถมศึกษาระดับเชี่ยวชาญ จำนวน 42 คน และครูเชี่ยวชาญการสอนในระดับประถมศึกษา จำนวน 70 คน ทำการวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยันด้วยโปรแกรมลิสเรล นำผลที่ได้สร้างแบบสอบถาม ตรวจสอบความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหาโดยผู้ทรงคุณวุฒิ การวิเคราะห์ค่าสัมประสิทธ์แอลฟาครอนบาดได้ค่า 0.97 และวิเคราะห์ข้อมูลตรวจสอบความสอดคล้องของโมเดลกับข้อมูลเชิงประจักษ์ และจัดทำคู่มือการใช้รูปแบบการประเมินสมรรถนะด้านการสอนของครู ขั้นตอนที่ 3 การประเมินรูปแบบการประเมินสมรรถนะด้านการสอนของครูในโรงเรียนประถมศึกษา โดยวิธีการทดลอง
ผลการศึกษา 1) สภาพปละปัญหาการประเมินสมรรถนะด้านการสอนของครู พบว่า มีการประเมินการสอนของครูปีละ 1- 2 ครั้งแต่เป็นการประเมินภาพรวมของฝ่ายบริหาร ความไม่พร้อมทางเอกสาร ขาดเครื่องมือและรูปแบบที่ชัดเจน ครูขาดแคลนสื่อนวัตกรรมที่ทันสมัย ไม่สามารถจัดการเรียนการสอนแบบบูรณาการ การบริหารจัดการไม่เป็นระบบ ไม่ครอบคลุมทุกเรื่อง 2) การสร้างและพัฒนารูปแบบการประเมิน สมรรถนะด้านการสอน โมเดลมีความสอดคล้อง กับข้อมูลเชิงประจักษ์ ( χ2 = 193.63 p = , df = 105 , GFI = 0.946 , AGFI = 0.912 , R MSEA = 0.047X) 3) ผลการสร้างและประเมินคู่มือการใช้รูปแบบการประเมินสมรรถนะด้านการสอนของครูผลการประเมินพบว่า มีความเหมาะสม ผลการวิเคราะห์ข้อมูลเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด มิว่าตั้งแต่ร้อยละ80ถึงร้อยละ100
ข้อค้นพบการประเมินสมรรถนะการสอนของครู มี 5 องค์ประกอบ 1) การมุ่งผลสัมฤทธ์ในการปฏิบัติงาน 2) การบริหารที่ดี 3) การพัฒนาตนเอง 4) การทำงานเป็นทีม 5) จริยธรรมและจรรยาบรรณวิชาชีพครู การประเมินองค์ประกอบหนึ่งจะส่งผลต่อองค์ประกอบอื่นๆ ดังนั้น การดำเนินการพร้อมกันทุกองค์ประกอบเพื่อพัฒนาการสอนของครูต่อไป
เอกสารอ้างอิง
ชัชรินทร์ ชวนวัน. (2554). Competency กับการนำไปใช้พัฒนาบุคคล. ค้นเมื่อ 23 มีนาคม 2555, จาก http//www.nidtep.go.th/files/100956-21.pdf
ดนัย เทียนพุฒ. (2550). ความสามารถในทรรศนะ ดร.ดนัย เทียนพุฒ.กรุงเทพฯ : บริษัท เอ.อาร์.อินเฟอร์เมชั่น แอน พับลิเคชั่น จำกัด.
ทิศนา แขมมณี. (2530). การทดลองใช้รูปแบบการฝึกทักษะการทำงานกลุ่ม สำหรับนักเรียนระดับประถมศึกษา. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ธำรงศักดิ์ คงคาสวัสดิ์. (2549). Competency ภาคปฏิบัติเขาทำกันอย่างไร?. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์ สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี (ไทย-ญี่ปุ่น).
นงลักษณ์ วิรัชชัย. (2541). เอกสารประกอบการาสอนวิชาสถิติการศึกษาและแนวโน้ม. กรุงเทพ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, คณะครุศาสตร์, ภาควิชาวิจัยการศึกษา.
นิสดารก์ เวชยานนท์.(2553).Competency-Based Approach.พิมพ์ครั้งที่ 4 กรุงเทพฯ: บริษัท เดอะกราฟิโก ซิสเต็มส์ จำกัด.
นครชัย ชาญอุไร.(2551).สมรรถนะคืออะไร.บทความสาขาวิจัยและการประเมินผลการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์.มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
บุญชม ศรีสะอาด. (2533). การพัฒนาการวิจัยโดยใช้รูปแบบ. วารสารการวิจัยทางการศึกษา, 20(2), 1-6
ปฐมพงศ์ ศุภเลิศ.(2551). สมรรถนะของผู้ประกอบวิชาชีพทางการ.เข้าถึงเมื่อ 4 กุมภาพันธ์ 2551.
ประพันธ์ คำมูล.(2543).”ครูมืออาชีพ,” วิชาการ. (12 ธันวาคม 2543):13
เยาวดี (รางชัยกุล) วิบูลย์ศรี.(2542).การประเมินโครงการ.กรุงเทพฯ:สำนักพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
รัศมี สีหะนันท์. (2551). วิจัยและประเมินผลการศึกษา.มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี.
วนิดา ภูวนารถนุรักษ์.(2552) “สมรรถนะครูไทย” วารสารคำแหง 26,ฉบับพิเศษ (ตุลาคม-ธันวาคม):69-79
ศิริชัย กาญจนวาสี. (2550). ทฤษฎีการประเมิน. พิมพ์ครั้งที่ 5. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์-แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ศิริชัย กาญจนวาสี. (2545). ทฤษฎีการประเมิน. (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2545). พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์-พริกหวานกราฟฟิค.
สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน. (2548). การปรับใช้สมรรถนะในการบริหารทรัพยากรมนุษย์.ค้นเมื่อ 14 ธันวาคม 2552, จาก http://ocsc.go.th/veform/ PDF/Competency.pdf
สำนักงานเลขาธิการคุรสภา, สำนักมาตรฐานวิชาชีพ.(2548). มาตรฐานวิชาชีพทางการศึกษา. กรุงเทพฯ : สำนักงานเลขาธิการคุรสภา.
สุกัญญา รัศมีธรรมโชติ. (2547). Competency: เครื่องมือการบริหารที่ปฏิเสธไม่ได้.วารสาร Productivity World, 9 (53), 17-79.
สุกัญญา รัศมีธรรมโชติ. (2547). แนวทางการพัฒนาศักยภาพมนุษย์ด้วย Competency-Based learning. กรุงเทพฯ: สถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ.
สุกัญญา รัศมีธรรมโชติ. (2551).การจัดการทรัพยากรมนุษย์ด้วย Competency Based HRM.พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ : บริษัท ซีเอ็ดยูเคชั่น จำกัด (มหาชน).
สุรชัย พรหมพันธ์.(2554).องค์ประกอบของสมรรถนะ.กรุงเทพฯ : ปัญญาชน.
Bloom, B. S. (1976). Human characteristics and school learning . New York: McGraw-Hill.
Boyatzis, R. E. (1982). The competent manager: A model for effective Performance. New York: John Wiley & Sons.
Dubois,David D.and other.(2004).Competency-Based Human Resource Management. The United State of America:Davies-Black Publishing,a division of CPP,Inc.
Klendauer, R., Berkovich, M., Gelvin, R., Leimeister, J. M., & Krcmar, H.(2012).Towards a Competency model for requirements analysis. Information Systems Journal , 22, 475-503.
Mc Lagan, P . (1997). Competencies: The next generation. Training and Development, 51(5), 40-47.
McClelland, D. C. (1973). “Testing for competence rather than for intelligence”. American Psychologist, 28, 1-14.
O’Hagan, K. (1996). Competence in social work practice: A practical, guide for professional. London: Prentice-Hall.
Parry, S. B. (1996). “The quest for competencies”. Training, 33(7), 48-54.
Parsons,J.K.(2004). Organization and management in school perspectives for practicing teacher and governors.2nded.London: Longman.
Shermon, G. (2004). Competencies base HRM: A strategic resource for Competencies mapping. New Delhi, India: McGraw-Hill.
Spencer, M. L., & Spencer, M. S. (1993). Competency at work: Models for Superior performance. New York: John Wiley & Son.
Western Australia Government, Department of Educational and Training. (2004). Teacher competency framework. Retrieved December 20, 2006, from http:www.det.wa.gov.au/_education/cps/doer/teacher_Competency_framwork/pdf
Worthen, B. R., & Sander, J. R. (1973). Eduation evaluation: Theory and Practice. Worthington, OH: Charles J. Jones.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิชาการ สถาบันเทคโนโลยีแห่งสุวรรณภูมิ
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับสถาบันเทคโนโลยีแห่งสุวรรณภูมิ และคณาจารย์ท่านอื่นๆในสถาบันฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว

