แนวทางการจัดการนวัตกรรมของอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ภายหลังสภาวะวิกฤต์จากการแพร่ระบาดของโรคโคโรนาไวรัส19 จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

บทคัดย่อ

งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 3 ประการ  1) เพื่อศึกษาการจัดการนวตกรรมของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในสภาวะวิกฤต์ ภายหลังจากการแพร่ระบาดของโรค โคโรนาไวรัส 19 จังหวัดประจวบคีรีขันธ์  2) เพื่อศึกษา ความสัมพันธ์  ระหว่างการจัดการนวัตกรรมของอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ กับ ปัจจัยที่มีผลต่อการจัดการนวตกรรม ของธุรกิจ อสังหาริมทรัพย์ 3) เพื่อศึกษาแนวทางการจัดการนวตกรรมของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ภายหลัง สภาวะวิกฤต์ การแพร่ระบาดของโรค โคโรนาไวรัส 19

             การวิจัยครั้งนี้ใช้ระเบียบวิธีวิจัยแบบผสมผสาน เริ่มจากการวิจัยเชิงคุณภาพ ด้วยการสัมภาษณ์ เจาะลึกผู้ให้ข้อมูลสำคัญ จำนวน 17 ราย วิเคราะห์ข้อมูลด้วยการวิเคราะห์แก่นสาระ  การวิจัยเชิงปริมาณ กลุ่มตัวอย่างได้แก่ผู้บริโภค ผู้ประกอบการและ พนักงานโครงการอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 400 คน  ในจังหวัด ประจวบคีรีขันธ์ ใช้แบบสอบถามรวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ ข้อมูลด้วย สถิติ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน การวิเคราะห์ ค่า ที  การวิเคราะห์การเบี่ยงเบนทางเดียว สัมประสิทธิสหสัมพันธ์ เพียรสัน และสมการถดถอยเชิงพหุ

             ผลการวิจัย 1) ด้านการจัดการนวตกรรมของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ภายหลังจากการแพร่ระบาดของโรค โคโรนาไวรัส 19 จังหวัดประจวบคีรีขันธ์  พบว่า อยู่ในระดับมาก 2) ด้านความสัมพันธ์ระหว่างการจัดการนวตกรรมของธุรกิจ อสังหาริมทรัพย์ กับ ปัจจัยที่มีผลต่อการจัดการนวตกรรม พบว่า มีความสัมพันธ์เชิงบวกอย่างมีนัยสำคัญ 3) ปัจจัยที่มีผลต่อการจัดการนวตกรรมสามารถพยากรณ์การจัดการนวตกรรมของรธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ใด้ร้อยละ 39.0 และแนวทางการจัดการ นวตกรรมของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ประกอบด้วย ปัจจัยด้านสภาวะทางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม เทคโนโลยี สภาพแวดล้อม และกฎหมายปัจจัยด้าน องค์ประกอบขององค์กรนวัตกรรม  ปัจจัยนวัตกรรมกระบวนการ ปัจจัยนวัตกรรมการตลาด และการจัดการเชิงกลยุทธ์