แนวทางการบริหารจัดการในการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของนักเรียนโรงเรียนห้วยกระเจาพิทยาคม สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากาญจนบุรี
คำสำคัญ:
การบริหารจัดการ, อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์, นักเรียนโรงเรียนห้วยกระเจาพิทยาคมบทคัดย่อ
การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1) สภาพการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของนักเรียนโรงเรียนห้วยกระเจาพิทยาคม สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากาญจนบุรี และ 2) แนวทางการบริหารจัดการในการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของนักเรียนโรงเรียนห้วยกระเจาพิทยาคม กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ นักเรียนโรงเรียนห้วยกระเจาพิทยาคม จำนวน 169 คน โดยใช้การสุ่มตัวอย่างแบบแบ่งชั้นเทียบสัดส่วนจำแนกตามระดับชั้น ผู้ให้ข้อมูลคือ ผู้บริหารสถานศึกษาและครู จำนวน 6 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบสอบถามและแบบสัมภาษณ์แบบมีโครงสร้าง เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถาม และสัมภาษณ์ผู้บริหารสถานศึกษาและครู วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์เนื้อหา ผลการวิจัยพบว่า
- สภาพการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของนักเรียน 1) ด้านการเรียนการสอน นักเรียนใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก 3 อันดับแรก ได้แก่ ใช้ติดต่อกับเพื่อนเกี่ยวกับการเรียน (= 4.19, S.D.= 0.83) ใช้สืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับการเรียน ( = 4.19, S.D.= 0.83) และใช้เมื่อครูอนุญาตให้ใช้ได้ในเวลาเรียน ( = 4.08, S.D.= 0.85) 2) ด้านการนันทนาการ นักเรียนใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก 3 อันดับแรก ได้แก่ ใช้ติดต่อสื่อสารกับเพื่อนและคนอื่น ๆ ในเรื่องทั่วไป ( = 4.28, S.D.= 0.80) ใช้ฟังเพลงจากยูทูปหรือแอพพลิเคชันเพลงทุกวัน ( = 4.21, S.D.= 0.97) และใช้ดูภาพยนตร์ ซีรีส์ ละคร แอนิเมชัน ( = 3.89, S.D.= 0.95)
- แนวทางการบริหารจัดการในการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของนักเรียน 1) ด้านการเรียนการสอน โรงเรียนต้องอำนวยความสะดวกห้องเรียนคอมพิวเตอร์ให้พร้อมต่อการใช้งาน มีการจัดหาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ทันสมัยพอ และให้บริการคอมพิวเตอร์นอกห้องเรียน 2) ด้านการนันทนาการ มีการอบรมให้ความรู้ด้านกฎหมายเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ จัดหาพื้นที่ให้นักเรียนได้แสดงออกอย่างสรรค์
เอกสารอ้างอิง
กระทรวงศึกษาธิการ. (2562). พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2562. กรุงเทพฯ: องค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์.
โกสินทร์ เตชะนิยม. 2565. ปัญหาการติดเกมออนไลน์ของเยาวชนไทย: ข้อมูลเชิงประจักษ์. วิทยาการจัดการ วไลยอลงกรณ์ปริทัศน์. 2(1), 1-17.
ณัฐภัทร กลิ่นจะโป๊ะ. (2558). พฤติกรรมการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศทางการศึกษาเพื่อการเรียนรู้ของนักเรียนระดับมัธยมศึกษา โรงเรียนจระเข้หินสังฆกิจวิทยา (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช).
ปิยะนุช บัวชุม. (2561). การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการบริหารของสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครศรีธรรมราช เขต 4 (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัย ราชภัฏสุราษฎร์ธานี).
พิกุล นามฮุง. (2565). การบริหารการศึกษาในศตวรรษที่ 21 โรงเรียนบ้านต้นสำโรง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครปฐม เขต 1 (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์)
ราณี วงศ์คงเดช. (2561). พฤติกรรมการใช้สื่อของเด็กยุคศตวรรษที่ 21. วารสารวิทยาลัยสงฆ์นครลำปาง. 7(2), 26-36.
เมธาวี จำเนียรและกรกฎ จำเนียร. (2561). ความรู้ ทัศนคติ และพฤติกรรมของนักเรียน จังหวัดนครศรีธรรมราช ในการใช้สื่อออนไลน์ในการเรียน. วารสารบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์. 12(2), 188-195.
ศิลา จงอาจินต์. (2557). การนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาใช้ในการบริหารสถานศึกษา (ออนไลน์). สืบค้นจาก https://www.gotoknow.org/posts/342148
สิทธิชัย ศรีษะย์. (2562). พฤติกรรมการทำกิจกรรมบนสมาร์ทโฟนของนักศึกษาปริญญาตรีมหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต. วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์, มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย
สำนักงานปลัดกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม. (2562). การรู้ดิจิทัล (Digital literacy) (ออนไลน์). สืบค้นจาก https://www.ops.go.th/th/ content _page/item/854-zxfdgsdgs
สำนักงานสถิติแห่งชาติ. (2566). ประชาชนอายุ 6 ปีขึ้นไปที่ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร. กรุงเทพฯ: กองสถิติเศรษฐกิจสำนักงานสถิติแห่งชาติ
อัคริมา บุญอยู่. (2560). Digital Literacy เรื่องใกล้ตัวที่ควรรู้. กรุงเทพฯ: สำนักหอสมุดและศูนย์สารสนเทศวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี กรมวิทยาศาสตร์บริการ.
เอกชัย กี่สุขพันธ์. (2559). การบริหารสถานศึกษายุคดิจิทัล School Management in Digital Era (ออนไลน์). สืบค้นจาก https://www.trueplookpanya.com/education/ content/52232
Krejcie, R.V., & D.W. Morgan. (1970). Determining Sample Size for Research Activities. Educational and Psychological Measurement, 30(3), 607 – 610.
World Health Organization. (2020). Addictive behaviours: Gaming disorder. Systematic Reviews 2020, 9:68
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 สถาบันเทคโนโลยีแห่งสุวรรณภูมิ

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิชาการ สถาบันเทคโนโลยีแห่งสุวรรณภูมิ
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับสถาบันเทคโนโลยีแห่งสุวรรณภูมิ และคณาจารย์ท่านอื่นๆในสถาบันฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว

