การบริหารงานแนะแนวของสถานศึกษาในยุคดิจิทัล สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาอุบลราชธานี อำนาจเจริญ
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพการบริหารงานแนะแนวของสถานศึกษาในยุคดิจิทัล 2) เปรียบเทียบสภาพการบริหารงานแนะแนวของสถานศึกษาในยุคดิจิทัล จำแนกตามตำแหน่งประสบการณ์ทำงาน และขนาดสถานศึกษา และ 3) แนวทางการบริหารงานแนะแนวในยุคดิจิทัล สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาอุบลราชธานี อำนาจเจริญ กลุ่มตัวอย่างได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษาและครูผู้รับผิดชอบงานแนะแนว รวม 118 คน กลุ่มเป้าหมายที่ใช้สัมภาษณ์ จำนวน 6 คน เครื่องมือวิจัยคือแบบสอบถามและแบบสัมภาษณ์แบบมีโครงสร้าง สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่าที (t-test) และการทดสอบค่าเอฟ (F-test) และการวิเคราะห์เชิงเนื้อหา ผลการวิจัยพบว่า 1) สภาพการบริหารงานแนะแนวของสถานศึกษาในยุคดิจิทัล โดยรวมและรายด้านอยู่ในระดับมาก 2) การบริหารงานแนะแนวของสถานศึกษาในยุคดิจิทัล แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 เมื่อจำแนกตามตำแหน่ง ประสบการณ์ทำงาน และขนาดสถานศึกษา 3) แนวทางการบริหารงานแนะแนวในยุคดิจิทัล ได้แก่ ด้านบริการศึกษาและรวบรวมข้อมูล ใช้ระบบดิจิทัลอย่างมีจริยธรรม ด้านบริการสนเทศ พัฒนาแพลตฟอร์มและสื่อประชาสัมพันธ์ทันสมัย ด้านการให้คำปรึกษา จัดช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ปลอดภัย ด้านการจัดวางตัวบุคคล ใช้เทคโนโลยีวิเคราะห์ศักยภาพและวางแผนกับภาคีเครือข่าย และด้านการติดตามผล ใช้แพลตฟอร์มดิจิทัลติดตามและประเมินผลต่อเนื่อง เพื่อพัฒนาระบบแนะแนวให้มีประสิทธิภาพยั่งยืน
Article Details
เอกสารอ้างอิง
กฎกระทรวง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการจัดระบบงานและกิจกรรมในการแนะแนวให้คำปรึกษาและฝึกอบรมแก่นักเรียน นักศึกษา และผู้ปกครอง พ.ศ. 2548. (6 มกราคม 2549). ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม 123 ตอน 1 ก หน้า 26.
คมเพชร ฉัตรศุภกุล และสาลี่ ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา. (2557). การแนะแนวเบื้องต้น. สำนักพิมพ์ไทยวัฒนาพานิช.
ชนากานต์ นุริตานนท์. (2567). สภาพการบริหารงานแนะแนวของโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาศรีสะเกษ ยโสธร. วารสารสมาคมพัฒนาวิชาชีพการบริหารการศึกษาแห่งประเทศไทย (สพบท.), 6(2), 57-75.
ธนารักษ์ สารเถื่อนแก้ว และสุพิน ใจแก้ว. (2566). การใช้เทคโนโลยีเพื่อการแนะแนวในโรงเรียน. วารสารวิชาการ สถาบันเทคโนโลยีภาคตะวันออกแห่งสุวรรณภูมิ, 2(1),1-16.
นุชลี จันทรังษี. (2566). ปัจจัยที่ส่งผลต่อประสิทธิผลการดำเนินงานแนะแนวในโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสกลนคร. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร.
ปนัดดา สิงห์โต. (2564). แนวทางการบริหารงานแนะแนวในโรงเรียนขยายโอกาส สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครสวรรค์ เขต 2. วารสารวิจยวิชาการ, 4(3), 61-74.
เผชิญ ชินป่า. (2565). การศึกษาสภาพและแนวทางการบริหารงานแนะแนวในโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาศรีสะเกษ ยโสธร. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี.
พระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546. (2 ตุลาคม 2546). ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม 120 ตอน 95 ก หน้า 26.
สุกัญญา เบ็ญจะขันธ์. (2566). การศึกษาสภาพการบริหารงานแนะแนวของสถานศึกษาขยายโอกาส สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 1. วารสารบัณฑิตวิทยาลัยพิชญทรรศน์, 18(3), 113-129.
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาอุบลราชธานี อำนาจเจริญ. (2567). รายงานผลการดำเนินงานประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567. https://drive.google.com/file/d/1es6xwGOBKbj_MPMKMYY06e0u1AYMDOP2/view
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2559). ระบบการแนะแนวในโรงเรียน. โรงพิมพ์ชุมชนสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.
อรินทรา อยู่หลาบ. (2560). การบริหารกับการดำเนินงานแนะแนวของโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 9. วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยศิลปากร.
อัมเรศ เนตาสิทธิ์. (2563). การแนะแนวและการใช้เทคโนโลยีในการแนะแนว. สำนักพิมพ์ดีเซมเบอรี่.