การพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือสำหรับห้องเรียนพิเศษวิทยาศาสตร์สุขภาพของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนวัดสุทธิวราราม กรุงเทพมหานคร

Main Article Content

พัณบงกช ปาณมาลา

บทคัดย่อ

บทความนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษา 1) ประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือให้มีประสิทธิภาพ ตามเกณฑ์ 80/80 2) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือ 3) ผลของพฤติกรรมกลุ่มการเรียนรู้แบบร่วมมือ 4) ความพึงพอใจของนักเรียนต่อการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือ รูปแบบการวิจัยแบบผสานวิธี ใช้แนวคิดการเรียนรู้แบบร่วมมือ LT (Learning Together) พื้นที่วิจัย คือ โรงเรียนวัดสุทธิวราราม กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 35 คน โดยวิธีการเลือกแบบเจาะจง และเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ 1) ชุดกิจกรรม จำนวน 5 ชุด 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์การเรียน 3) แบบสังเกตพฤติกรรมกลุ่มและ 4) แบบสอบถามความพึงพอใจ โดยการวิเคราะห์ข้อมูล หาค่าความสอดคล้อง 80/80,ค่าเฉลี่ย, ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และผลทดสอบก่อนเรียนและ หลังการเรียน โดยการวิเคราะห์เนื้อหาแล้วเขียนบรรยายเชิงพรรณนา ผลการวิจัยพบว่า 1) ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ สำหรับห้องเรียนพิเศษวิทยาศาสตร์สุขภาพ มีประสิทธิภาพ คือ 84.26 / 89.92 2) ผลก่อนเรียนมีค่า (Mean = 37.97, S.D.= 1.17) ผลหลังการเรียนมีค่า (Mean = 47.03, S.D.= 0.78) และผลสัมฤทธิ์ การเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 3) ผลการสังเกตพฤติกรรมของนักเรียน ทีมีต่อชุดกิจกรรมอยู่ในระดับดีและ 4) ผลความพึงพอใจของนักเรียนที๋มีต่อชุดกิจกรรมอยู่ในระดับมากที่สุด

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
ปาณมาลา พ. (2025). การพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือสำหรับห้องเรียนพิเศษวิทยาศาสตร์สุขภาพของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนวัดสุทธิวราราม กรุงเทพมหานคร. วารสารสมาคมพัฒนาวิชาชีพการบริหารการศึกษาแห่งประเทศไทย (สพบท.), 7(4), 285–296. สืบค้น จาก https://so04.tci-thaijo.org/index.php/JAPDEAT/article/view/283171
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

กระทรวงศึกษาธิการ (2560) การจัดระบบบริหารและสารสนเทศภายในสถานศึกษาตามกฎกระทรวง ว่าด้วยระบบ หลักเกณฑ์และวิธีการประกันคุณภาพการศึกษา พ.ศ. 2560. โรงพิมพ์องค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์.

บุญธรรม กิจปรีดาบุรีสุทธิ์. (2553). การวิเคราะห์ทางสถิติเพื่อการวิจัย. เรือนแก้ว.

บุญชม ศรีสะอาด. (2550). วิธีทางสถิติเพื่อการวิจัย. สุวิริยาสาสน.

บุญชม ศรีสะอาด. (2560). การวิจัยเบื้องต้น. สุวิริยาสาสน.

ทิพวรรณ สุขใจรุ่งวัฒนะ และ ธีรศักดิ์ อุณารมณ์เลิศ. (2553). การศึกษาปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการเรียนรู้ที่ดีของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษาเอกชน จังหวัดนครปฐม. วารสารวิจัยการศึกษาศิลปากร, 1(2), 126-139.

พวงรัตน์ ทวีรัตน์. (2550). วิธีการวิจัยทางพฤติกรรมศาสตร์และสังคมศาสตร์ (พิมพ์ครั้งที่ 7). สำนักทดสอบการศึกษาและจิตวิทยา มหาวิทยาลัยศรีนครินทร์ทรวิโรฒ.

พัณบงกช ปาณมาลา และคณะ. (2567). การเรียนรู้ยุคใหม่ในมิติการเลือกอาชีพในปัจจุบันและอนาคต. ในการประชุมวิชาการและนำเสนอผลงานวิจัยระดับชาติ ครั้งที่ 25. พฤศจิกายน 2567. มหาวิทยาลัยเวสเทิร์น.

วิเชียร ธำรงโสตถิศักดิ์. ( 2560). การสะท้อนแนวคิดเกี่ยวกับชุดการเรียนการสอนชุดกิจกรรมการเรียนรู้ และชุดการเรียนรู้. วารสารการศึกษามหาวิทยาลัยนเรศวร, 19(3), 363.

วัลภา วงศ์จันทร์. (2554). ความสัมพันธ์ระหว่างพฤติกรรมการเรียนรู้กับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน: กรณีศึกษานักศึกษาที่เรียนสาขาการเงินระหว่างประเทศ. มหาวิทยาลัยพายัพ.

ศุภกร แก้วลาย และ เจนจิรา มีบุญ, (2558). ความพึงพอใจของนักศึกษาต่อการจัดการศึกษาของวิทยาลัยรัตภูมิ 2558. https://riss.rmutsv.ac.th

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. (2557). คู่มือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2551. สกสค.

สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2553). คู่มือการสร้างเครือข่ายร่วมพัฒนาและการส่งเสริมศักยภาพผู้เรียน. สำนักงานฯ.

สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้. (2554). เปิดขอบฟ้าคุณธรรมจริยธรรม ปีที่ 2. ครีเอทีฟโทน.

Balkcom, S. (1992). Cooperative learning. Education Research Consumer Guide. http://www.ed.gov/pubs/OR/ConsumerGuides/Cooplear.html.

Chance, P. (2009). Learning and behavior. (6th ed.). Wadsworth.

Good, Carter. V. (1973). Dictionary of Education. McGraw Hill.

Hornby, A. F. (2000). Advance learner's dictionary. (6th ed.). Oxford University.

Rowntree, D. (2007). A Dictionary of Education. Harper & Row.

Wehmeier, S. (2000). OXFORD Advanced Learner’s Dictionary (6th ed.). OXFORD University Press.