การพัฒนาองค์ประกอบของการบริหารสถานศึกษาด้วยแนวคิดการเพิ่มทักษะและ การเรียนรู้ใหม่ (Upskill and Reskill) ของโรงเรียนสังกัดเทศบาล

Main Article Content

วาสนา สมใจ
กฤษดา ผ่องพิทยา

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ของการวิจัยเพื่อการศึกษาความต้องการจำเป็นขององค์ประกอบการบริหารสถานศึกษาด้วยแนวคิดการเพิ่มทักษะและการเรียนรู้ใหม่ (Upskill and Reskill) ของโรงเรียนสังกัดเทศบาล วิธีดำเนินการวิจัย ศึกษาองค์ประกอบของการบริหารสถานศึกษาด้วยแนวคิดการเพิ่มทักษะและการเรียนรู้ใหม่ (Upskill and Reskill) ของโรงเรียนสังกัดเทศบาล โดยศึกษาเอกสารงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง และวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงสำรวจ ตรวจสอบและยืนยันองค์ประกอบ และ วิเคราะห์ความต้องการจำเป็นขององค์ประกอบการบริหารสถานศึกษาด้วยแนวคิดการเพิ่มทักษะและการเรียนรู้ใหม่ (Upskill and Reskill) ของโรงเรียนสังกัดเทศบาล ผลการวิจัย พบว่า องค์ประกอบของการบริหารสถานศึกษาด้วยแนวคิดการเพิ่มทักษะและการเรียนรู้ใหม่ (Upskill and Reskill) ของโรงเรียนสังกัดเทศบาล ประกอบด้วย 5 องค์ประกอบ เรียงตามลำดับค่า PNI modified ดังนี้ 1) ด้านการบริหารการเปลี่ยนแปลง (PNI modified = 0.142) 2) ด้านระบบจัดการการเรียนรู้ (PNI modified = 0.109) 3) ด้านการเรียนรู้ตลอดชีวิต (PNI modified = 0.091) 4) ด้านการเรียนรู้แบบร่วมมือ (PNI modified = 0.089) และ 5) ด้านการคิดแก้ปัญหาเชิงวิพากษ์ (PNI modified = 0.077)

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
สมใจ ว., & ผ่องพิทยา ก. (2025). การพัฒนาองค์ประกอบของการบริหารสถานศึกษาด้วยแนวคิดการเพิ่มทักษะและ การเรียนรู้ใหม่ (Upskill and Reskill) ของโรงเรียนสังกัดเทศบาล. วารสารสมาคมพัฒนาวิชาชีพการบริหารการศึกษาแห่งประเทศไทย (สพบท.), 7(4), 405–420. สืบค้น จาก https://so04.tci-thaijo.org/index.php/JAPDEAT/article/view/285144
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น. (2566). แผนการกระจายอำนาจด้านการศึกษาสู่ท้องถิ่น พ.ศ. 2566-2570. โรงพิมพ์องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก.

กระทรวงศึกษาธิการ. (2566). นโยบายการศึกษาและการเรียนรู้ตลอดชีวิต. โรงพิมพ์องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก.

ธนาพล บัวคำโคตร และ ไพบูลย์ ลิ้มมณี. (2563). แนวทางพัฒนาครูด้านการจัดการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 โดยใช้แนวคิดชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 33. วารสารมหาจุฬานาครทรรศน์, 7(8), 89-103.

นราภรณ์ สโรดม. (2564). การพัฒนาหลักสูตรปรับกรอบความคิดแบบเติบโตในการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารของครู ตามทฤษฎีแห่งตนของดเว็ค. วิทยานิพนธ์ปริญญาการศึกษาดุษฎีบัณฑิต มหาวิทยาลัยนเรศวร.

บุญชม ศรีสะอาด. (2560). การวิจัยและพัฒนารูปแบบการจัดการศึกษา. มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.

ปิติณัช ราชภักดี. (2566). การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนแบบผสมผสานตามแนวความคิดการเรียนรู้ร่วมกันและการเรียนรู้โดยใช้กรณีศึกษาเป็นฐานเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน การคิดแก้ปัญหา ทักษะการทำงานเป็นทีม และเจตคติต่อวิชาชีพพยาบาลสำหรับนักศึกษาพยาบาล. วิทยานิพนธ์ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร.

ปิ่นมุก.เสนาดิสัย (2567). การวิจัยและพัฒนากระบวนการบริหารชุมชนแห่งการเรียนรู้เชิงวิชาชีพเพื่อเสริมสร้างสมรรถนะในการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูระดับประถมศึกษา: พหุกรณีศึกษาโรงเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน. ดุษฎีนิพนธ์ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต มหาวิทยาลัยสยาม.

เมธิกานต์ นนทะสร.(2560). กลยุทธ์การบริหารการเปลี่ยนแปลงที่มีประสิทธิผลของสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ. วารสารบริหารการศึกษามศว, 14(27), 123 - 132.

ยุทธชัย จริตน้อม. (2564). การพัฒนารูปแบบการบริหารเพื่อการเป็นชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพของโรงเรียนประถมศึกษา สังกัดสำนักงานศึกษาธิการภาค 11. วิทยานิพนธ์ปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิต มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร.

รัตดาวรรณ วงค์คำจันทร์, วาโร เพ็งสวัสดิ์, และเอกลักษณ์ เพียสา. (2568). การศึกษาองค์ประกอบการบริหารการเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์ของผู้บริหารโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา. วารสารวิจัยวิชาการ, 8(2), 145–153.

วลิดา อุ่นเรือน. (2563). การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวทฤษฎีการสร้างความรู้ด้วยการปฏิสัมพันธ์ทางสังคมร่วมกับแนวคิดการเรียนรู้ตามสภาพจริง เพื่อส่งเสริมความสามารถในการจัดการเรียนรู้ที่เน้นความแตกต่างระหว่างบุคคลสำหรับนักศึกษาครู. วิทยานิพนธ์ปริญญาการศึกษาดุษฎีบัณฑิต บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยนเรศวร.

ศิริชัย กาญจนวาสี. (2562). ทฤษฎีการประเมิน (พิมพ์ครั้งที่ 10). สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาการศึกษาท้องถิ่น. (2567). รายงานสถานการณ์การศึกษาท้องถิ่นไทย ปี 2567. สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาการศึกษาท้องถิ่น.

สุวิมล ว่องวาณิช. (2562). การวิจัยประเมินความต้องการจำเป็น (พิมพ์ครั้งที่ 3). สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

อนุชา นาคสกุล. (2566). การพัฒนาศักยภาพสถานศึกษาสังกัดเทศบาล: บทเรียนและแนวทางการพัฒนา. สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.

Ataie, F., Shah, A., Bagheri, F., Ali, N. I., Mohammadgholipour, M., Rezaie, B., & Shaikh, H. (2018). Web 2.0-based collaborative learning framework promoting lifelong learning: Developing sustainability competencies. International Journal of Engineering & Technology, 7(2.34), 89–92. https://www.sciencepubco.com/index.php/IJET

Dani Ramdani, Herawati Susilo, Suhadi, and Sueb. (2022). The effectiveness of collaborative learning on critical thinking, creative thinking, and metacognitive skill ability: Meta-analysis on biological learning. European Journal of Educational Research, 11(3), 1607-1628. https://doi.org/10.12973/eu-jer.11.3.1607

Hargreaves, A., & Fullan, M. (2022). Professional capital: Transforming teaching in every school. Teachers College Press.

Kotter, J. P. (2019). Leading change: Why transformation efforts fail and succeed. Harvard Business Review Press.

Martinez, C. (2024). Lifelong Learning and Adaptive Education Systems: A Framework for 21st Century Schools. International Review of Education Management, 12(2), 78-95.

Pechenkina, E., & Branigan, E. (2018). Re-thinking LMS change: Designing authentic learning environments to improve lecturers' digital literacy. In ASCILITE 2018 Proceedings

(p. 234–238). Deakin University.

Serkan Aslan and Birsel Aybek. (2020). Testing the effectiveness of interdisciplinary curriculum-based multicultural education on tolerance and critical thinking skill. International Journal of Educational Methodology, 6(1), 43-55. https://doi.org/10.12973/ijem.6.1.43

Tabachnick, B. G., & Fidell, L. S. (2019). Using multivariate statistics (7th ed.). Pearson.