Inquiry and Metacognitive Strategy to Enhance Students’ Concepts in Electricity

Authors

  • Punnipa Yongthanasarakun คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

Keywords:

Inquiry, Metacognitive Strategy, Concepts in Electricity

Abstract

          This research was aimed to enhance students' concepts in electricity Through the Inquiry approach supplemented with metacognitive strategy. The target group was 28 grade 9th students and it was conducted in the 2th Semester academic year 2019, Thoen Wittaya School, Lampang Thailand. The research tools were 1) lesson plans which employed the inquiry approach and metacognitive strategies i.e., planning, self- reguration and evaluation. 2) a 30 -item multiple choices concept test to measure concept of (1) simple electric circuit (2) voltage and current relationship in Simple circuit, and (3) electric circuit in the Household. The Class Average Normalized Gain <g>) was used to data and additional interviewing was conducted. The results that the overall implying that the student’s conceptual understanding enhanced in medium level.

References

ชุติปภา วรเดชนันทสกุล และคณะ. (2561). แนวทางการนิเทศเพื่อพัฒนาและส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุก. [ระบบออนไลน์], แหล่งที่มา : https://backend.ubn1.go.th/uploads/ files/supervisor/Download/active_learning.pdf. สืบค้นเมื่อ 12 กรกฎาคม 2563.

ดวงหทัย กาศวิบูลย์. (2561). การส่งเสริมอภิปัญญาของนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่สาขาสังคมศาสตร์ (ระยะที่ 1): การประเมินอภิปัญญา. มหาวิทยาลัยเชียงใหม่: เชียงใหม่.

พจนา ทรัพย์สมาน. (2559). การจัดการเรียนรู้โดยให้ผู้เรียนแสวงหาและค้นพบความรู้ด้วยตนเอง.กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

วิจารณ์ พานิช. (2556). วิถีสร้างการเรียนรู้เพื่อศิษย์. (พิมพ์ครั้งที่ 3). กรุงเทพมหานคร: ฝ่ายโรงพิมพ์ บริษัท ตถาตา พับลิเคชั่น.

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. (2561). ผลการประเมิน PISA 2018 การอ่าน คณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ (ฉบับสมบูรณ์). [ระบบออนไลน์], แหล่งที่มา https://pisathailand.ipst.ac.th/pisa/reports/. สืบค้นเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2563.

สถาพร พฤฑฒิกุล. (2559). การจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning, การอบรม โครงการจัดการความรู้ (Knowledge Management), คณะเทคโนโลยีการเกษตร มหาวิทยาลัยบูรพา วิทยาเขตสระแก้ว.

สมประสงค์ เสนารัตน และคณะ. (2562). ปัจจัยที่ส่งผลต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักศึกษาครู. วารสารบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฎสกลนคร. ปีที่ 16 ฉบับที่ 75 ตุลาคม – ธันวาคม 2562.

สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2562). แนวทางการนิเทศเพื่อพัฒนาและส่งเสริม การจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ตามนโยบายลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้. [ระบบออนไลน์], แหล่งที่มา http://academic.obec.go.th/ images/ document/ 1603180137_d_1.pdf. สืบค้นเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2563.

สิโรตม์ บุญเลิศ. (2559). ผลการใช้รูปแบบการเรียนการสอน 5E ร่วมกับกลวิธีการสะท้อนอภิปัญญาที่มีผลต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนมโนมติวิทยาศาสตร์และอภิปัญญาของผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย. ปริญญานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยทักษิณ.

ไอนิง เจ๊ะเหลาะ และคณะ. (2558). การศึกษามโนมติที่คลาดเคลื่อน เรื่อง แรง และกฎการเคลื่อนที่ของผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้. วารสารนราธิวาสราชนครินทร์ สาขามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์. ปีที่ 2 ฉบับที่ 1 มกราคม-มิถุนายน 2563.

อัสมา มือลี. (2559). ผลของการจัดการเรียนรู้ด้วยกลยุทธ์ทางอภิปัญญาและปัญหาปลายเปิดที่มีต่อความสามารถในการใช้กลยุทธ์อภิปัญญาและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ของผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานราธิวาส เขต 2. ปริญญานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน.มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์.

Beyer, B. K. (1987). Practical strategies for the teaching of thinking. Boston: Allyn & Bacon.

Engelhardta, P. V., and Beichner, R. J. (2004). Students’ understanding of direct current resistive electrical circuits. American Journal of Physics. 72(1): 98–115.

National Research Council (NRC). (2000). Science Teaching Reconsidered: A Handbook. Washington, DC: The National Academies Press.

Downloads

Published

2022-06-30

How to Cite

Yongthanasarakun, P. (2022). Inquiry and Metacognitive Strategy to Enhance Students’ Concepts in Electricity. Lampang Rajabhat University Journal, 11(1), 66–75. retrieved from https://so04.tci-thaijo.org/index.php/JLPRU/article/view/249035