การท่องเที่ยวกับความเชื่อในเรื่องท้าวเวสสุวัณของนักท่องเที่ยวชาวไทย กรณีศึกษา วัดจุฬามณี ตำบลบางช้าง อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม

Main Article Content

ชนิษฐา ใจเป็ง

บทคัดย่อ

การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1. ศึกษาพฤติกรรมและแรงจูงใจของนักท่องเที่ยวชาวไทยในแหล่งท่องเที่ยวที่มีความเชื่อในเรื่องท้าวเวสสุวัณ กรณีศึกษา วัดจุฬามณี 2. ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยส่วนบุคคลกับพฤติกรรมการท่องเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยวที่มีความเชื่อในเรื่องท้าวเวสสุวัณ ซึ่งเป็นการวิจัยเชิงปริมาณ โดยการแจกแบบสอบถามกับ ตัวอย่าง จำนวน  428 คน วิเคราะห์ด้วยสถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ ค่าความถี่ ร้อยละ และสถิติการทดสอบไคสแควร์ กำหนดนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ  0.05


ผลการศึกษาพบว่าพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เดินทางมาท่องเที่ยวโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อไหว้อธิษฐานขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เดินทางด้วยรถส่วนตัวเป็นส่วนใหญ่ จำนวนครั้งที่มา 2-3 ครั้ง ส่วนมากเดินทางมาท่องเที่ยวช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ โดยเดินทางร่วมกับครอบครัว และคู่รัก/สามี,ภรรยา ทั้งนี้แรงจูงใจในการเดินทางท่องเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยวที่มีความเชื่อในเรื่องท้าวเวสสุวัณ ณ วัดจุฬามณีภาพรวมอยู่ในระดับมาก ทั้งทางด้านแรงจูงใจด้านกายภาพ ด้านวัฒนธรรม/ความเชื่อ และด้านอารมณ์และความรู้สึก ผลการศึกษาความสัมพันธ์พบว่า ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยส่วนบุคคลกับพฤติกรรมการท่องเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยวที่มีความเชื่อในเรื่องท้าวเวสสุวัณ ผลการทดสอบไคสแควร์ ในภาพรวมพบว่า ปัจจัยส่วนบุคคลแตกต่างกัน มีพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยว สัมพันธ์กันในบางด้าน ที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติ 0.05

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
ใจเป็ง ช. (2022). การท่องเที่ยวกับความเชื่อในเรื่องท้าวเวสสุวัณของนักท่องเที่ยวชาวไทย กรณีศึกษา วัดจุฬามณี ตำบลบางช้าง อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม. วารสาร มจร.หริภุญชัยปริทรรศน์, 6(2), 111–126. สืบค้น จาก https://so04.tci-thaijo.org/index.php/JMHR/article/view/261190
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม. (2557). คูมือแนวทางการดำเนินงานโครงการส่งเสริมการทองเที่ยวเส้นทางแสวงบุญในมิติทางศาสนา ป 2557. กรุงเทพฯ: สำนักงานพัฒนาคุณธรรมจริยธรรม กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม.

ฉลองศรี พิมลสมพงศ์. (2544). อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว. กรุงเทพฯ: คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.

ดวงทิพย์ นากระโทก. (2563). แรงจูงใจทางการท่องเที่ยวเชิงศาสนาในศาสนสถานที่มีชื่อเสียงในการอธิษฐานขอพรเรื่องความรักในกรุงเทพมหานคร. บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ

นรินทร์สิรี เชียงพันธ์. (2560). ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวเพศหญิง ชาวต่างชาติที่เดินทางท่องเที่ยวในกรุงเทพมหานคร. (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ กรุงเทพฯ.

ประเมศฐ พิชญพันธเดชา. (2561). การจัดการการทองเที่ยวเชิงศาสนาของเกาะฮองกงที่มีอิทธิพลต่อนักท่องเที่ยวชาวไทย. วิทยานิพนธปริญญาศิลปศาสตรมหาบัณฑิต. สาขาวิชาการจัดการมรดกวัฒนธรรมและอุตสาหกรรมสรางสรรค วิทยาลัยนวัตกรรม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ยโสธารา ศิริภาประภากร, สุทัศน ประทุมแกว และสุริยา คลังฤทธิ์. (2562).การส่งเสริมด้านการทองเที่ยวตามเส้นทางแสวงบุญในมิติทางศาสนา :กรณีการทองเที่ยวเชิงวัฒนธรรมด้านศาสนา วัดโยธาประสิทธิ์ ตำบลนอกเมือง อำเภอเมืองสุรินทร จังหวัดสุรินทร. ใน การประชุมวิชาการระดับชาติ การท่องเที่ยวและการโรงแรมร่วมสมัย ครั้งที่ 6 "ท่องเที่ยวโรงแรม ร่วมเสริม ร่วมสร้าง ร่วมสมัย"คณะการท่องเที่ยวและการโรงแรม มหาวิทยาลัยมหาสารคาม, จังหวัดมหาสารคาม 278 - 286

วรพรรณ สงัดศรี. (2558). แรงจูงใจของนักท่องเที่ยวที่ส่งผลต่อการตัดสินใจท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม

ในชุมชนบ้านหนองขาว จังหวัดกาญจนบุรี. (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). จุฬาลงกรณ์

มหาวิทยาลัย, กรุงเทพฯ.

สถาพร เกียรติพิริยะ และคณะ (2564). ปัจจัยที่ส่งผลต่อการตัดสินใจท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์และวันหยุดต่อเนื่องของคนวัยทำงาน. วารสารมหาจุฬานาครทรรศน์. 7(12), 178-196

สุทธิดา พงศ์สุทธิ และคณะ (2564) ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์วัฒนธรรมของประเพณีบุญสารทเดือนสิบจังหวัดนครศรีธรรมราช.วารสารพุทธสังคมวิทยาปริทรรศน์. 6(4), 141-157

อรรถพงศ ศรีตะลาลัย และชวลีย ณ ถลาง. (2563). การทองเที่ยวเชิงวัฒนธรรมในด้านความเชื่อเรื่อง “พญานาค” ของนักท่องเที่ยวชาวไทยในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (จังหวัดอุดรธานี - จังหวัดหนองคาย -จังหวัดบึงกาฬ -จังหวัดนครพนม) ประเทศไทย. วารสารวิทยาลัยดุสิตธานี,14 (1), 53-74