แรงจูงใจในการปฏิบัติงานของผู้บริหารสถานศึกษาในกลุ่มเครือข่ายพัฒนาคุณภาพการศึกษาสะเมิง 3 สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 2
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1) ศึกษาแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของผู้บริหารสถานศึกษา ในกลุ่มเครือข่ายพัฒนาคุณภาพการศึกษาสะเมิง 3 สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 2 2) ศึกษาแนวทางการพัฒนาแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของผู้บริหารสถานศึกษาในกลุ่มเครือข่ายพัฒนาคุณภาพการศึกษาสะเมิง 3 สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 2 รูปแบบการวิจัยแบบผสมผสาน โดยประชากรในการวิจัยจำนวน 121 คน และกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย กำหนดขนาดตามตารางของเครจซีและมอร์แกน ซึ่งได้กลุ่มตัวอย่างทั้งหมด 92 คน แบ่งเป็นผู้บริหารสถานศึกษา 6 คน และครูผู้สอน 86 คน ส่วนผู้ทรงคุณวุฒิที่ให้ข้อมูลในการสัมภาษณ์เลือกแบบเฉพาะเจาะจงมีจำนวน 6 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบสอบถาม ค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.76 และ แบบสัมภาษณ์ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์เนื้อหา
ผลการวิจัยพบว่า
1) การศึกษาแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของผู้บริหารสถานศึกษาในกลุ่มเครือข่ายพัฒนาคุณภาพการศึกษาสะเมิง 3 สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่
เขต 2 โดยรวมอยู่ในระดับมาก
2) แนวทางการพัฒนาแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของผู้บริหารสถานศึกษา ในกลุ่มเครือข่ายพัฒนาคุณภาพการศึกษาสะเมิง 3 สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 2 ด้านความกระตือรือร้น: ควรมีความตั้งใจในการปฏิบัติงาน แสดงความอดทนและไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค แก้ปัญหาได้อย่างรวดเร็วและเด็ดขาด ด้านความรับผิดชอบต่อตนเอง: ควรปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ ยอมรับความผิดพลาดที่เกิดขึ้น รับผลประโยชน์ร่วมกัน ค้นหาแนวทางแก้ไขปัญหาและปรับปรุงพัฒนางานให้ดีขึ้น ด้านความทะเยอทะยาน: ควรพัฒนาตนเองให้มีความรู้และความสามารถในระดับที่สูงขึ้น บริหารงานอย่างมีเป้าหมายสู่ความสำเร็จ ด้านความกล้าเสี่ยง: ควรเป็นบุคคลที่ชอบปฏิบัติงานที่ท้าทายความสามารถของตนเอง โดยตัดสินใจบนพื้นฐานข้อมูลสารสนเทศที่ถูกต้อง ด้านการวางแผนงาน: ควรกำหนดนโยบายและเป้าหมายที่ชัดเจนในแผนปฏิบัติการประจำปี แต่งตั้งคณะทำงาน นิเทศ กำกับติดตามผลการดำเนินงาน ปรับปรุงพัฒนา และรายงานผลต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ด้านความมีเอกลักษณ์: ควรมีบุคลิกภาพที่ภูมิฐาน มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ และสามารถปรับตัวให้ทันต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เอกสารอ้างอิง
จารุวรรณ อะคะปัน. (2558). การศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างแรงจูงใจใฝ่ สัมฤทธิ์ของผู้บริหารโรงเรียน กับประสิทธิผลการบริหารงานของโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตากเขต 1. ครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา. มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร.
จักรพันธ์ สุทธิยาภรณ์. (2561). แรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ในการปฏิบัติงานของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพัทลุง เขต 1. วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตร มหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา. มหาวิทยาลัยหาดใหญ่.
ดรรชนี จิตคำรพ. (2561). แรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ในการปฏิบัติงานของผู้บริหารสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 16. วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา. มหาวิทยาลัยหาดใหญ่.
บุญชม ศรีสะอาด. (2554). การวิจัยเบื้องต้น. (พิมพ์ครั้งที่9). กรุงเทพมหานคร : สุวีริยาสาส์นจำกัด.
พิมพ์ชนก ทองเงิน. (2564). แรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ในการปฏิบัติงานของผู้บริหารสถานศึกษา
สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสตูล. สารนิพนธ์ศึกษาศาตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารสถานศึกษา. มหาวิทยาลัยหาดใหญ่.
พีระกรณ์ ทะชิตะสิงห์. (2566). การศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ของผู้บริหาร สถานศึกษากับบรรยากาศองค์การ ของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
ประถมศึกษา สกลนคร เขต 1. วารสารมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม, 17(1), 201-216.
ภพกมล มุขศรี. (2556). การศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์กับการบริหารงาน บุคคล ของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา พระนครศรีอยุธยาเขต 2. วิทยาพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา. มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา.
โรงเรียนกลุ่มเครือข่ายพัฒนาคุณภาพการศึกษาสะเมิง 3. (2565). แผนปฏิบัติการประจำปี
งบประมาณ พ.ศ. 2566.เชียงใหม่.
สร้อยกัญญา โพธิสมภาพวงษ์. (2557). ความสัมพันธ์ระหว่างความฉลาดทางอารมณ์ของ ผู้บริหารสถานศึกษากับประสิทธิผลการบริหารสถานศึกษาตามทัศนะของผู้บริหารสถานศึกษาและครูสังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสิงห์บุรี. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาบริหารการศึกษา. ลพบุรี. มหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี.