การพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการเรียนรู้มุ่งผลลัพธ์(Learning outcome) ของโรงเรียนเทศบาลวัดเชียงยืน
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนารูปแบบระบบประกันคุณภาพภายในของโรงเรียนเทศบาลวัดเชียงยืน การวิจัยและพัฒนา (R&D) กลุ่มเป้าหมายทั้งสิ้น จำนวน 45 คน เครื่องมือได้แก่ แบบสังเกต แบบสัมภาษณ์ แบบทดสอบ และแบบสอบถาม เก็บรวบรวมข้อมูล ทั้งข้อมูลเชิงปริมาณ และเชิงคุณภาพ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลประกอบด้วยการวิเคราะห์เนื้อหา ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และนำเสนอผลโดยพรรณนาความ
ผลการวิจัยพบว่า
1) บุคลากรทุกคนมีความรู้ ความเข้าใจและตระหนักถึงความสำคัญและความจำเป็นของการประกันคุณภาพการศึกษา มีการแต่งตั้งคณะทำงาน มีการกำหนดระบบการประกันคุณภาพการศึกษาแต่ยังขาดการมีส่วนร่วมในทุกระบบที่ชัดเจน
2) การพัฒนารูปแบบการประกันคุณภาพภายในของโรงเรียนเทศบาลวัดเชียงยืน 6 ขั้นตอนคือ 1) การศึกษาและเตรียมการ 2) การวางแผนการประกันคุณภาพการศึกษา 3) การนำแผนการประกันคุณภาพการศึกษาไปใช้ 4) การตรวจสอบ และทบทวน 5) การพัฒนาและปรับปรุงมาตรฐาน 6) การเตรียมการรับการประเมินจากองค์กรภายนอก
3) ผลการนำรูปแบบระบบการประกันคุณภาพภายในไปใช้ทั้ง 6 ด้าน ครูทุกคนมีความมั่นใจมากขึ้น ได้รับการนิเทศอย่างต่อเนื่อง มีความมั่นใจมีความพร้อมให้สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา
4) ผลการประเมินความพึงพอใจของการพัฒนารูปแบบระบบการประกันคุณภาพภายในของโรงเรียนเทศบาลวัดเชียงยืน พบว่า ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานความพึงพอใจของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องที่มีต่อกระบวนการพัฒนารูปแบบระบบประกันคุณภาพภายใน ของโรงเรียนเทศบาลวัดเชียงยืน จำแนกตามรายด้าน พบว่าโดยภาพรวมมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เอกสารอ้างอิง
เก็จกนก เอื้อวงศ์. (2562). การสนทนากลุ่ม : เทคนิคการเก็บข้อมูลเชิงคุณภาพที่มีประสิทธิภาพ.กรุงเทพมหานคร: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.
ณรงค์ แก้วกัญญา. (2555). การพฒันาระบบสารสนเทศงานกจิการนักเรียน โรงเรียนโนนไทยคุรุอุปถัมภ์อำเภอโนนไทยจังหวัดนครราชสีมา. การค้นคว้าอิสระการศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา. มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
ทิศนา แขมมณี. ศาสตร์การสอน: องค์ความรู้เพื่อการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ. พิมพ์ครั้งที่ 6.กรุงเทพมหานคร: ด่านสุทธาการพิมพ์.
ฐิติมา ญาณะวงษา. (2564). หลักสูตรที่เน้นผลลัพธ์: แนวทางใหม่สำหรับหลักสูตรอุดมศึกษาการศึกษาที่เน้นผลลัพธ์ (Outcome-based education). สาขาวิชาหลักสูตรการสอนแลเทคโนโลยีการเรียนรู้ คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
ไพทูรย์ สิลารัตน์.(2564). การศึกษาเชิงผลิตภาพซการเรียนการสอนเพื่อสร้างผลผลิต และนวัตกรรม. กรุงเทพมหานคร :สำนักพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
วลิดา อุ่นเรือน.(2563). การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวทฤษฎีการสร้างความรู้ด้วยการปฏิสัมพันธ์ทางสังคมร่วมกับแนวคิดการเรียนรู้ตามสภาพจริง. หลักสูตรการศึกษาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน. มหาวิทยาลัยนเรศวร.
วินัย ดิสสงค์. (2549). การบริหารโรงเรียนแบบมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษา.กรุงเทพมหานคร :ธารอักษร.
ยุกตนันท์ หวานฉ่ำ. (2555). การบริหารสถานศึกษากับประสิทธิผลของโรงเรียนในอำเภอคลองหลวงสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปทุมธานี เขต 1. วิทยานิพนธ์ปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต. ปทุมธานี: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี.
ลักขณา สริวัฒน์. (2557). จิตวิทยาสำหรับครู. กรุงเทพมหานคร: โอ.เอส. พริ้นติ้งเฮ้าส์.
ศิธาชัย ศรีอุดม. (2558). รูปแบบการบริหารจัดการเรียนรู้ในสถานศึกษา สังกัดเทศบาล. ดุษฎีบัณฑิต สาขาการบริหารการศึกษา ภาควิชาบริหารและพัฒนาการศึกษา. คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร.
สุริยา วิทยาประดิษฐ์. (2561). รูปแบบการสอนตามแนวทางการศึกษามุ่งผลลัพธ์เป็นฐานสำหรับวิชาอิเล็คทรอนิกส์ชีวแพทย์ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร. ภาควิชาวิศวกรรมอิเล็กทรอนิกส์ สถาบันนวัตกรรมมหานคร คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร.
สัญญา สัญญาวิวัฒน์. (2526). การพัฒนาชุมชน. (พิมพ์ครั้ง 3). กรุงเทพมหานคร: ไทยวัฒนาพานิช.
Duke, Daniel, L. (2004). The Challenges of Educational Change. Pearson Education, Inc.
Subban, P. (2006). Differentiated instruction: A research basis.International. Education Journal, 7(7), 935-947. ISSN 1443-1475: Shannon. Research Press.Retrieved April 22, 2019, from http://iej.com.au.
Papert, S. (1993). Mindstorms: Children, Computers, And Powerful Ideas. Basic Books. New York: Harper Collins Publishers, Inc.