ปัจจัยเชิงสาเหตุของพฤติกรรมการสร้างนวัตกรรมในการทำงาน ที่มีต่อผลการปฏิบัติงานของบุคลากรสายวิจัยและพัฒนา กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม

ผู้แต่ง

  • มนัชยา จันทเขต มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ
  • มานพ ชูนิล มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ
  • ปิ่นกนก วงศ์ปิ่นเพ็ชร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ

คำสำคัญ:

พฤติกรรมสร้างนวัตกรรมในการทำงาน, การรับรู้ความสามารถตนเองเชิงนวัตกรรม, ภาวะผู้นำตนเอง, การคาดหวังผลลัพธ์, ผลการปฏิบัติงาน

บทคัดย่อ

บทความฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาอิทธิพลของปัจจัยเชิงสาเหตุของพฤติกรรมการสร้างนวัตกรรมในการทำงานที่มีต่อผลการปฏิบัติงานของบุคลากรสายวิจัยและพัฒนา กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ผู้วิจัยใช้วิธีการวิจัยเชิงปริมาณและใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบชั้นภูมิ กลุ่มตัวอย่างในการวิจัย คือ บุคลากรสายวิจัยและพัฒนาสังกัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม โดยเป็นบุคลากรด้านวิจัยและพัฒนาสังกัดโครงสร้างจากหน่วยงานวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ที่มีพันธกิจหลักในการดำเนินการวิจัย จำนวน 560 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสอบถาม ซึ่งแบบสอบถามมีค่าความเชื่อมั่นตั้งแต่ .863 ถึง .961 ผู้วิจัยวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติโดยใช้การวิเคราะห์โมเดลสมการโครงสร้าง (Structural Equation Modeling : SEM) ผลการวิจัยพบว่า 1) โมเดลความสัมพันธ์เชิงเหตุและผลของพฤติกรรมการสร้างนวัตกรรมในการทำงานของบุคลากรสายวิจัยและพัฒนามีความสอดคล้องกับข้อมูลเชิงประจักษ์ (c2 = .014, df = 1, p = .906, RMSEA = .000, CFI = 1.000, GFI = 1.000 และ AGFI = 1.000) 2) การรับรู้ความสามารถของตนเองเชิงนวัตกรรม ภาวะผู้นำตนเอง การคาดหวังผลลัพธ์ มีอิทธิพลทางตรงเชิงบวกต่อพฤติกรรมการสร้างนวัตกรรมในการทำงานอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ตัวแปรสาเหตุเหล่านี้สามารถอธิบายความแปรปรวนของพฤติกรรมการสร้างนวัตกรรมในการทำงานได้ร้อยละ 55.10 3) พฤติกรรมการสร้างนวัตกรรมในการทำงานมีอิทธิพลทางตรงต่อผลการปฏิบัติงานอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 โดยมีค่าอิทธิพลเท่ากับ .537 4) ปัจจัยเชิงเหตุทั้งหมด ได้แก่ การรับรู้ความสามารถของตนเองเชิงนวัตกรรม ภาวะผู้นำตนเอง การคาดหวังผลลัพธ์ ส่งผ่านพฤติกรรมการสร้างนวัตกรรมในการทำงานสามารถร่วมกันอธิบายผลการปฏิบัติงานได้ร้อยละ 60

เอกสารอ้างอิง

ชูศรี วงศ์รัตนะ. (2560). เทคนิคการสร้างเครื่องมือวิจัย : แนวทางการนำไปใช้อย่างมืออาชีพ. กรุงเทพมหานคร: อมรการพิมพ์.

ธัชกร ภูวพัฒนดล. (2562). ยุทธศาสตร์การพัฒนาสถาบันการศึกษาขั้นสูงของกองทัพบกสู่การเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ในยุคประเทศไทย 4.0. วารสารศรีปทุมปริทัศน์ ฉบับมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์, 19(2), 22-34.

วิกาวี วัฒนวิจารณ์. (2557). ความสัมพันธ์ระหว่างการรับรู้ความสามารถของตนเอง ความคิดสร้างสรรค์กับพฤติกรรมสร้างนวัตกรรม: กรณีศึกษากลุ่มบริษัทผู้ให้บริการด้านการสร้างแบรนด์แบบครบวงจรแห่งหนึ่ง. ใน สารนิพนธ์บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต สาขาวิชาบริหารธุรกิจ. มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.

สำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ. (2562). สถิติข้อมูลวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม. เรียกใช้เมื่อ 8 สิงหาคม 2562 จาก http://stiic.sti.or.th/stat/

Bandura, A. (1991). Self-efficacy mechanism in physiological activation and health-promoting behavior. In J. Madden, IV (Ed.), Neurobiology of learning, emotion and affect (pp. 229-269). New York: Raven.

De Jong, J. P. & Den Hartog, D. N. (2010). Measuring innovative work behavior. Creativity and Innovation Management, 19(1), 23-26.

Gerber, E. et al. (2012). Developing an Innovation Self-Efficacy Survey. Seattle, WA.: Frontiers in Education Conference.

Hair, J. et al. (2014). Multivariate Data Analysis. (7th ed.). United States of America: Pearson New International Edition.

Hooper, D. et al. (2008). Structural Equation Modelling: Guidelines for Determining Model Fit. The Electronic Journal of Business Research Methods, 6(1), 53-60.

Horne, D. (2013). Leading Others Starts with Leading One’s Self. Retrieved August 2, 2019, from https://medium.com

Houghton, J. D. et al. (2012). The abbreviated self-leadership questionnaire (ASLQ): A more concise measure of self-leadership. International Journal of Leadership Studies, 7(2), 216-232.

Hsiao, H. C. et al. (2011). The Impact of Self-efficacy on Innovative Work Behavior for Teachers. International Journal of Social Science and Humanity, 1(1), 31-36.

Manz, C. C. & Neck, C. P. (2004). Mastering self-leadership: Empowering yourself for personal excellence. (3rd ed.). Upper Saddle River, NJ: Pearson Prentice Hall.

Sosik, J. J. & Jung, D. I. (2010). Full range leadership development: Pathways for people, profit and planet. New York: Routledge.

Teimouri, H. et al. (2009). The Role of Self-Leadership in Innovation and Creativity Employee. The International Journal of Knowledge, Culture, and Change Management: Annual Review, 9(1), 49-62.

Woodman, R. W. (2008). Creativity and Organizational Change: Linking Idea and Extending Theory. Handbook of Organization Creativity. New York: Taylor & Francis Group.

Yeoh, K. et al. (2013). A Conceptual Review of Innovative Work Behavior in Knowledge Intensive Business Services among Knowledge Workers in Malaysia. International Journal of Business, Humanities and Technology, 3(2), 91-99.

Yuan, F. & Woodman, R. W. (2010). Innovative Behavior in the Workplace: The Role of Performance and Image Outcome Expectations. Academy of Management Journal, 53(2), 323-342.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

12/29/2021

รูปแบบการอ้างอิง

จันทเขต ม. ., ชูนิล ม. ., & วงศ์ปิ่นเพ็ชร์ ป. . (2021). ปัจจัยเชิงสาเหตุของพฤติกรรมการสร้างนวัตกรรมในการทำงาน ที่มีต่อผลการปฏิบัติงานของบุคลากรสายวิจัยและพัฒนา กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม. วารสารมานุษยวิทยาเชิงพุทธ, 6(12), 15–30. สืบค้น จาก https://so04.tci-thaijo.org/index.php/JSBA/article/view/255316

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย