การสร้างแบบทดสอบและการวัดระดับความรู้เกี่ยวกับธรรมาภิบาล ของสหกรณ์: กรณีศึกษาสหกรณ์ออมทรัพย์ กรมชลประทาน จำกัดการสร้างแบบทดสอบและการวัดระดับความรู้เกี่ยวกับธรรมาภิบาล ของสหกรณ์: กรณีศึกษาสหกรณ์ออมทรัพย์ กรมชลประทาน จำกัด
คำสำคัญ:
การสร้างแบบทดสอบ, การวัดระดับความรู้, ธรรมาภิบาล, สหกรณ์ออมทรัพย์, กรมชลประทานบทคัดย่อ
บทความวิจัยฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) สร้างแบบทดสอบและวัดความรู้เกี่ยวกับ ธรรมาภิบาลของสหกรณ์ และ 2) วัดระดับความรู้เกี่ยวกับธรรมาภิบาลของสหกรณ์คณะกรรมการและเจ้าหน้าที่สหกรณ์ออมทรัพย์กรมชลประทาน เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ 1) กลุ่มที่ใช้ในการตรวจสอบคุณภาพเครื่องมือคือ คณะกรรมการและเจ้าหน้าที่ของสหกรณ์ออมทรัพย์การสื่อสารแห่ง ประเทศไทย จำกัด จำนวน 60 คน ซึ่งได้มาจากการเลือกแบบเจาะจง 2) กลุ่มที่ใช้วัดระดับความรู้เกี่ยวกับธรรมาภิบาลคือ คณะกรรมการและเจ้าหน้าที่สหกรณ์ออมทรัพย์กรมชลประทาน จำกัด จำนวน 30 คน ซึ่งได้มาจากการสุ่มอย่างง่าย ตรวจสอบคุณภาพของแบบทดสอบด้านความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหาโดยผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 3 ท่าน ด้านความยาก อำนาจจำแนก และความเชื่อมั่น วิเคราะห์ระดับความรู้ด้วยวิธีแปลงคะแนนดิบเป็นเปอร์เซ็นไทล์ (Percentile) และคะแนนทีปกติ (Normalized T-Score) ผลการวิจัยพบว่า 1) คุณภาพของแบบทดสอบวัดความรู้เกี่ยวกับธรรมาภิบาลของสหกรณ์ ด้านความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหามีค่าดัชนีความสอดคล้องตั้งแต่ 0.67-1.00 ความยากมีค่าตั้งแต่ 0.25 - 0.73 อำนาจจำแนกมีค่าตั้งแต่ 0.40 - 0.80 และความเชื่อมั่นมีค่าเท่ากับ 0.87 รวมแบบทดสอบที่ผ่านเกณฑ์ 26 ข้อ 2) ผลการวัดระดับความรู้เกี่ยวกับธรรมาภิบาลของสหกรณ์ พบว่า ในภาพรวมคณะกรรมการและเจ้าหน้าสหกรณ์ออมทรัพย์กรมชลประทาน จำกัด มีความรู้อยู่ในระดับ ปานกลาง เมื่อพิจารณารายด้านพบว่า ด้านหลักประสิทธิผล หลักประสิทธิภาพ หลักการตอบสนอง หลักภาระรับผิดชอบ หลักการมีส่วนร่วม หลักการมอบอำนาจ หลักนิติธรรม คณะกรรมการและเจ้าหน้าที่มีความรู้อยู่ในระดับปานกลาง ด้านหลักความโปร่งใส และหลักความเสมอภาคคณะกรรมการและเจ้าหน้าที่มีความรู้ในระดับดี
บทความวิจัยฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) สร้างแบบทดสอบและวัดความรู้เกี่ยวกับ ธรรมาภิบาลของสหกรณ์ และ 2) วัดระดับความรู้เกี่ยวกับธรรมาภิบาลของสหกรณ์คณะกรรมการและเจ้าหน้าที่สหกรณ์ออมทรัพย์กรมชลประทาน เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ 1) กลุ่มที่ใช้ในการตรวจสอบคุณภาพเครื่องมือคือ คณะกรรมการและเจ้าหน้าที่ของสหกรณ์ออมทรัพย์การสื่อสารแห่ง ประเทศไทย จำกัด จำนวน 60 คน ซึ่งได้มาจากการเลือกแบบเจาะจง 2) กลุ่มที่ใช้วัดระดับความรู้เกี่ยวกับธรรมาภิบาลคือ คณะกรรมการและเจ้าหน้าที่สหกรณ์ออมทรัพย์กรมชลประทาน จำกัด จำนวน 30 คน ซึ่งได้มาจากการสุ่มอย่างง่าย ตรวจสอบคุณภาพของแบบทดสอบด้านความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหาโดยผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 3 ท่าน ด้านความยาก อำนาจจำแนก และความเชื่อมั่น วิเคราะห์ระดับความรู้ด้วยวิธีแปลงคะแนนดิบเป็นเปอร์เซ็นไทล์ (Percentile) และคะแนนทีปกติ (Normalized T-Score) ผลการวิจัยพบว่า 1) คุณภาพของแบบทดสอบวัดความรู้เกี่ยวกับธรรมาภิบาลของสหกรณ์ ด้านความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหามีค่าดัชนีความสอดคล้องตั้งแต่ 0.67-1.00 ความยากมีค่าตั้งแต่ 0.25 - 0.73 อำนาจจำแนกมีค่าตั้งแต่ 0.40 - 0.80 และความเชื่อมั่นมีค่าเท่ากับ 0.87 รวมแบบทดสอบที่ผ่านเกณฑ์ 26 ข้อ 2) ผลการวัดระดับความรู้เกี่ยวกับธรรมาภิบาลของสหกรณ์ พบว่า ในภาพรวมคณะกรรมการและเจ้าหน้าสหกรณ์ออมทรัพย์กรมชลประทาน จำกัด มีความรู้อยู่ในระดับ ปานกลาง เมื่อพิจารณารายด้านพบว่า ด้านหลักประสิทธิผล หลักประสิทธิภาพ หลักการตอบสนอง หลักภาระรับผิดชอบ หลักการมีส่วนร่วม หลักการมอบอำนาจ หลักนิติธรรม คณะกรรมการและเจ้าหน้าที่มีความรู้อยู่ในระดับปานกลาง ด้านหลักความโปร่งใส และหลักความเสมอภาคคณะกรรมการและเจ้าหน้าที่มีความรู้ในระดับดี
เอกสารอ้างอิง
กรมส่งเสริมสหกรณ์. (2561). คำแนะนำสหกรณ์สีขาวด้วยธรรมาภิบาล (Online). เรียกใช้เมื่อ 9 มิถุนายน 2562 จาก http://office.cpd.go.th/dfcs/images/Center/3. GoodGovernance/2561 /2.pdf
ชัยวุฒิ เขมะรังสี. (2561). การศึกษาหลักธรรมาภิบาลของสหกรณ์ออมทรัพย์ในประเทศไทย. วารสารการเมือง การบริหาร และกฎหมาย, 11 (3), 353 – 377.
ธนายุทธ ไชยธงรัตน์. (2561). การวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงสำรวจของการทุจริตคอร์รัปชันในการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ. วิศวกรรมสารฉบับวิจัยและพัฒนา, 29 (3), 5 – 14.
ธิดารักษ์ ลือชา. (2563). การพัฒนารูปแบบการป้องกันการทุจริตในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น. วารสารมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ สาขามนุษย์ศาสตร์และสังคมศาสตร์, 7 (1), 128 – 142.
นภธร ศิวารัตน์. (2561). ทิศทางการคอร์รัปชั่นในประเทศไทย. วารสารสถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฎมหาสารคาม, 5 (2).
ปทุมมา ไชยบุญ. (2559). การนำหลักธรรมาภิบาลมาใช้ในการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ เทศบาลตำบลขุนทะเล จังหวัดนครศรีธรรมราช. ใน วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาการบริหารและพัฒนาสังคม. มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.
ปธาน สุวรรณมงคล. (2556). การบริหารงานภาครัฐกับการสร้างธรรมาภิบาล. กรุงเทพมหานคร: บริษัทแก่นจันทร์การพิมพ์ จำกัด.
ปัญจพร ทองเล็ก. (2563). การพัฒนาแบบวัดความถนัดทางวิชาชีพบัญชีออนไลน์. วารสารวิจัย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย, 12 (2), 263-274.
พิชิต ฤทธิ์จรูญ. (2556). หลักการวัดและประเมินผลการศึกษา. (พิมพ์ครั้งที่ 8). กรุงเทพมหานคร: บริษัท เฮ้าส์ ออฟ เคอร์มิสท์ จำกัด.
ไพศาล วรคำ. (2554). การวิจัยทางการศึกษา = Educational Research. (พิมพ์ครั้งที่ 3). มหาสารคาม: ตักสิลาการพิมพ์.
เยาวดี รางชัยกุล วิบูลย์ศรี. (2556). การวัดผลและสร้างแบบสอบวัดผลสัมฤทธิ์. (พิมพ์ครั้งที่ 11). กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ศิริชัย กาญจนวาสี. (2556). ทฤษฎีการทดสอบแบบดั้งเดิม. (พิมพค์รั้งที่7). กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
สมชาย วรกิจเกษมสกุล. (2548). เอกสารประกอบการสอน รายวิชา หลักการวัดและประเมินผลทางการศึกษา. ใน ดุษฎีนิพนธ์การศึกษาดุษฎีบัณฑิต สาขาการวิจัยและพัฒนาหลักสูตร. มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี.
สหกรณ์ออมทรัพย์กรมชลประทาน. (2561). ประกาศสหกรณ์ออมทรัพย์กรมชลประทาน จำกัด เรื่องกำหนดแผนกลยุทธ์ ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2562 - 2565. 29 พฤศจิกายน 2561.
สัมฤทธิ์ ยศสมศักดิ์ และคณะ. (2561). ธรรมาภิบาลกับการประยุกต์ใช้ในสังคมไทย. กรุงเทพมหานคร: ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอ็ม.ที.เพรส.
สำนักงานคณะกรรมการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ. (2562). รายงานประจำปี สำนักงาน ป.ป.ท. เรียกใช้เมื่อ 12
มิถุนายน 2562 จาก https://www.pacc.go.th/ pacc_2015/uploads/files/annual_report/annual_ report2019.pdf
สุรเดช อรัญเวช. (2563). การบริหารตามหลักธรรมาภิบาลของทัณฑสถานหญิง จังหวัดนครราชสีมา. วารสารวิชาการ สถาบันวิทยาการจัดการแห่งแปซิฟิค, 6 (3), 308 – 315.
อ้อมใจ วงษ์มณฑา. (2563). พฤติกรรมการปฏิบัติงานตามหลักธรรมาภิบาลของบุคลากรสายสนับสนุน มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์. วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัย สงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี, 31 (3), 162-177.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2022 วารสารสังคมศาสตร์และมานุษยวิทยาเชิงพุทธ

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.




