รูปแบบความสัมพันธ์เชิงสาเหตุพฤติกรรมการทำงานเป็นทีมของนักเรียน ระดับประถมศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา ร้อยเอ็ด เขต 3

ผู้แต่ง

  • หนึ่งฤทัย มะลาไวย์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
  • อรพินทร์ ชูชม มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
  • นริสรา พึ่งโพธิ์สภ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ

คำสำคัญ:

รูปแบบความสัมพันธ์เชิงสาเหตุ, พฤติกรรมการทำงานเป็นทีม, นักเรียนระดับประถมศึกษา

บทคัดย่อ

บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาความสัมพันธ์เชิงสาเหตุของความฉลาดทางอารมณ์ แรงจูงใจในการทำงาน การสนับสนุนทางสังคมของครู เจคติต่อพฤติกรรม        การทำงานเป็นทีม และการรับรู้ความสามารถของตนเองในการทำงานเป็นทีมที่มีต่อพฤติกรรมการทำงานเป็นทีมของนักเรียนระดับประถมศึกษา 2) สร้างแผนภาพเส้นทางและน้ำหนักของตัวแปรเชิงสาเหตุของพฤติกรรมการทำงานเป็นทีมของนักเรียนระดับประถมศึกษา การวิจัยนี้ใช้การวิจัยเชิงปริมาณ โดยกลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาร้อยเอ็ด เขต 3 จำนวน 350 คน ได้จากการสุ่มแบบหลายขั้นตอน เครื่องมือในการวิจัย คือแบบสอบถาม ซึ่งมีความตรงเชิงเนื้อหาอยู่ระหว่าง 0.6 - 1.00 และ      มีค่าความเที่ยง อยู่ระหว่าง 0.72 - 0.84 สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ สถิติพรรณนา และ         การวิเคราะห์แบบจำลองโครงสร้าง ผลการวิจัย พบว่า 1) แบบจำลองโครงสร้างของความฉลาดทางอารมณ์ แรงจูงใจในการทำงาน การสนับสนุนทางสังคมของครู เจคติต่อพฤติกรรม       การทำงานเป็นทีม และการรับรู้ความสามารถของตนเองในการทำงานเป็นทีม ที่มีต่อพฤติกรรมการทำงานเป็นทีม พบว่ามีความสอดคล้องกับข้อมูลเชิงประจักษ์ ( gif.latex?\chi2 = 199.25, df = 77, RMR = 0.51, CFI = 0.98, GFI = 0.93, NFI = 0.97, RMSEA = 0.067) 2) จากการสร้างแผนภาพเส้นทางและน้ำหนักของตัวแปรเชิงสาเหตุของพฤติกรรมการทำงานเป็นทีมของนักเรียนประถมศึกษา พบว่า ได้รับอิทธิพลจากความฉลาดทางอารมณ์ แรงจูงใจในการทำงาน เจคติต่อพฤติกรรมการทำงานเป็นทีมการสนับสนุนทางสังคมของครู และการรับรู้ความสามารถ       ของตนเองในการทำงานเป็นทีม มีค่าอิทธิพลรวม 0.37, 0.35, 0.03, 0.24, 0.26 และอธิบายความแปรปรวนได้ร้อยละ 85

เอกสารอ้างอิง

กรกนก บุญชูจรัส. (2552). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อการทำงานเป็นทีมของพัฒนากรในพื้นที่ความรับผิดชอบของศูนย์ศึกษาพัฒนาชุมชน จังหวัดเพชรบุรี. ใน วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการศึกษาตลอดชีวิตและการพัฒนามนุษย์. มหาวิทยาลัยศิลปากร.

กรมสุขภาพจิต. (2543). อีคิว: ความฉลาดทางอารมณ์. กรุงเทพมหานคร: สำนักพัฒนาสุขภาพจิต กรมสุขภาพจิต.

กระทรวงศึกษาธิการ. (2551). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551. กรุงเทพมหานคร: ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.

จิวีณา พีชะพัฒน์. (2554). ผลของการรับรู้ความสามารถของตนเองและการรับรู้การสนับสนุนทางสังคมต่อสุขภาวะในวัยรุ่นตอนต้น. เรียกใช้เมื่อ 21 ธันวาคม 2563 จาก https://smarterlifebypsychology.com/2019/09/30/social-support-การสนับสนุนทางสังคม/

ทิศนา แขมมณี. (2545). กลุ่มสัมพันธ์เพื่อการทำงานและการจัดการเรียนการสอน. กรุงเทพมหานคร: นิชินแอดเวอร์ไทซิ่งกรู๊ฟ.

ทิศนา แขมมณี. (2554). รูปแบบการเรียนการสอน:ทางเลือกที่หลากหลาย. (พิมพ์ครั้งที่ 7). กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

ปลื้มจิตร บุญพึ่ง. (2559). ปัจจัยที่ส่งผลต่อพฤติกรรมการทำงานเป็นทีมของพนักงานสายปฏิบัติการวิชาชีพและบริหารทั่วไป มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี. วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์, 35(6), 135-147.

ปวีณา คําพุกกะ. (2553). โมเดลเชิงสาเหตุของประสิทธิผลของทีมของชมรมนิสิตนักศึกษาที่มีความฉลาดทางอารมณ์ของกลุ่มเป็นตัวแปรส่งผ่าน: การวิจัยเชิงศึกษาเปรียบเทียบ. ใน ดุษฎีนิพนธ์ครุศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิธีวิทยาการวิจัยการศึกษา. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

พิมพันธ์ เดชะคุป. (2558). การจัดการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21. (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

ไพฑูรย์ สินลารัตน์. (2557). เติบโตเต็มตามศักยภาพสู่ศตวรรษที่ 21 ของการศึกษาไทย. กรุงเทพมหานคร: วิทยาลัยครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์.

วันทนา วัฒนธรรม. (2557). ปัจจัยทางจิตลักษณะและสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมการทำงานเป็นทีมมีประสิทธิภาพของพนักงานเครือเดอะมอลล์กรุ๊ป. ใน วิทยานิพนธ์วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาการวิจัยพฤติกรรมศาสตร์ประยุกต์. มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.

ศันสนีย์ ชูเชื้อ. (2546). ปัจจัยที่ส่งผลต่อการทำงานเป็นทีมของพนักงานมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์. ใน วิทยานิพนธ์บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต สาขาการจัดการ. มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์.

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาร้อยเอ็ด เขต 3. (2562). รายงานผลการดำเนินงานปีงบประมาณ 2562. ร้อยเอ็ด: สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาร้อยเอ็ด เขต 3.

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาร้อยเอ็ด เขต 3. (2563). จำนวนโรงเรียนในสังกัด ปีการศึกษา 2563. เรียกใช้เมื่อ 21 มิถุนายน 2563 จาก http://www.roiet3. go.th/index.php/

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาร้อยเอ็ด เขต 3. (2564). แผนพัฒนาการศึกษาขั้นพื้นฐาน ระยะ 5 ปี พ.ศ. 2561 - 2564. ร้อยเอ็ด: สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาร้อยเอ็ด เขต 3.

สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2559). แผนการศึกษาชาติ พ.ศ. 2560 - 2574. กรุงเทพมหานคร: พริกหวานกราฟฟิค.

สุเทพ เหลาแตว. (2556). ปัจจัยที่ส่งผลต่อการทำงานเป็นทีมตามความคิดเห็นของครูสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมาเขต 4. ใน วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต สาขาการบริหารการศึกษา. มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.

สุวิมล ติรกานันท์. (2550). การสร้างเครื่องมือวัดตัวแปรในการวิจัยทางสังคมศาสตร์: แนวทางสู่การปฏิบัติ. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

อนุชา แก้วหลวง. (2545). ปัจจัยที่มีผลต่อประสิทธิภาพการทำงานเป็นทีมของอาจารย์ สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล วิทยาเขตภาคพายัพ (เจ็ดยอด). กรุงเทพมหานคร: สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล วิทยาเขตภาคพายัพ.

อังศินันท์ อินทรกำแหง และวรสรณ์ เนตรทิพย์. (2555). รูปแบบความสัมพันธ์เชิงสาเหตุด้านบุคคลและสภาพแวดล้อมในงานที่มีต่อพฤติกรรมบริการงานสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคของบุคลากรทางการแพทย์. วารสารพฤติกรรมศาสตร์, 18(1), 34-48.

Bandura, A. (1997). Self-Efficacy: The Exercise of Control. New York: W.H. Freeman and Company.

Bandura, A. (2000). Self-efficacy: The foundation of agency. New York: Lawrence Erlbaum Associates Publishers.

Cobb, S. (1976). Social support as a moderator of life stress. Psychosomatic Medicine, 38(1), 300-311.

Dawkins, S. l. (2014). New directions in Psychological Capital research: A critical analysis and theoretical and empirical extensions to individual- and team-level measurement. Australia: The Tasmanian School of Business & Economics University of Tasmania.

Diamantopouos, A. & Siguaw, A. D. (2000). Introduction LISREL: A guide for the uninitiated. London: Sage Publication.

Eriken, E. H. (1993). Childhood and Society. New York: Norton.

Fiechtner, S. B. & Davis, E. A. (2016). Republication of “Why some groups fail: A survey of students’ experiences with learning groups”. Journal of Management Education, 40(1), 12-29.

Goleman, D. (1998). Working with emotional intelligence. New York: Bantam Books.

Havighurst, R. J. (1972). Developmental tasks and education. (3rd ed.). New York: McKay.

Joreskog, K. & Sorbom, D. (1993). LISREL 8: Structural Equation Modelling with the SIMPLIS Command Language. Chicago: Scientific Software International Inc.

Kelloway, E. K. (1998). Using LISREL for structural equation modeling: A researcher's guide. New York: Sage Publications.

Kline, R. B. (1998). Principles and Practice of Structural Equation Modeling. New York: The Guilford Press.

Lin, N. (1979). Social support, stressful life events, and illness: A model and an empirical test. Journal of Health and Social Behavior, 20(1), 108-118.

McGuire, W. J. (1985). Attitudes and Attitude Change. ใน Lindzey, G. & Aronson, E. (Eds.). Handbook of Social Psychology. (3rd ed.). New York: Random House.

Tasa, K. et al. (2007). The development of collective efficacy in teams: a multilevel and longitudinal perspective. Journal of applied psychology, 92(1), 7-27.

Taylor, S. E. (2011). Social support: A review. The Handbook of Health Psychology. New York: Oxford University Press.

Ted, B. et al. (2017). Emotional intelligence and personality traits as predictors of undergraduate occupational therapy students’ teamwork skills: A cross-sectional study. British Journal of Occupational Therapy, 80(7), 432-439.

Woodcock, M. & Francis, D. (1994). Teambuilding Strategy. (2nd ed). Cambridge: Cambridge University Press.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

05/31/2022

รูปแบบการอ้างอิง

มะลาไวย์ ห., ชูชม อ. ., & พึ่งโพธิ์สภ น. . (2022). รูปแบบความสัมพันธ์เชิงสาเหตุพฤติกรรมการทำงานเป็นทีมของนักเรียน ระดับประถมศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา ร้อยเอ็ด เขต 3. วารสารมานุษยวิทยาเชิงพุทธ, 7(5), 349–365. สืบค้น จาก https://so04.tci-thaijo.org/index.php/JSBA/article/view/258782

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย