การสำรวจข้อมูลการกระทำผิดซ้ำของผู้ที่เคยตกเป็นผู้ต้องหาในคดีอาญา
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยเรื่องโครงการสำรวจข้อมูลการกระทำผิดซ้ำของผู้ที่เคยตกเป็นผู้ต้องหาในคดีอาญา มีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์สถานการณืการกระทำผิดซ้ำของประเทศ และจัดทำข้อมูลอัตราการกระทำผิดซ็ำที่เป็นมาตรฐานและน่าเชื่อถือได้ เพื่อเป็นข้อมูลกลางสำหรับการอ้างอิง กลุ่มเป้าหมาย คือ กลุ่มตัวอย่างหรือผู้ที่เคยตกเป็นผู้ต้องหาในคดียาเสพติด คดีประทุษร้ายต่อทรัพย์ และคดีประทุษร้ายต่อชีวิตและร่ายกาย จากกรมคุมประพฤติกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน และกรมราชทัณฑ์ ผลการวิจัย พบว่า
1. สถานการณ์การกระทำผิดของกลุ่มตัวอย่างคดียาเสพติด พบว่า กรมราชทัณฑ์มากที่สุด คือ ร้อยละ 39.2 คดีประทุษร้ายต่อทรัพย์ พบว่า กรมคุมประพฤติ กระทำผิดซ้ำมากที่สุด ร้อยละ 86.0 รองลงมากรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ร้อยละ 21.7 คดีประทุษร้ายต่อชีวิตและร่ายกายพบว่ากรมคุมประพฤติกระทำผิดมากที่สุด ร้อยละ 67.7 รองลงมา กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ร้อยละ 4.5
2.อัตราการกระทำผิดซ้ำของกลุ่มตัวอย่างจาก กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน พบว่า หลังจากพ้นโทษไปแล้ว 1 ปี จะกลับมากระทำผิดซ้ำในคดียาเสพติดมากที่สุด ร้อยละ 61.70 กรมราชทัณฑ์ พบว่า หลักจากพ้นโทษไปแล้ว 6 เดือนจะกลับมากระทำผิดซ้ำในคดียาเสพติดมากที่สุด ร้อยละ 92.31
3. กรมคุมประพฤติ ไม่มีข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับบุคคลที่อยู่ในระบบควบคุมหลัก (Control Institution) จึงทำให้ไม่สามารถนำข้อมูลไปตรวขสอบที่กองทะเบียนประวัติอาชญากรสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ และไม่สามารถจัดทำอัตราการกระทำผิดซ้ำได้ มีเพียงข้อมูลดังนี้ กลุ่มตัวอย่างกลับมากระทำผิดซ้ำมากที่สุด ใน พ.ศ. 2555 ร้อยละ 20.86 รองลงมา คือ พ.ศ. 2548 กระทำผิดซ้ำร้อยละ 18.20 และ พ.ศ. 2554 กระทำผิดซ้ำ ร้อยละ 17.83 ส่วน พ.ศ. ที่กระทผิดซ้ำน้อยที่สุด คือ พ.ศ. 2551 ร้อยละ 10.73
คณะผู้วิจัยได้เสนอแนะแนวทางในการจัดเก็บข้อมูลผุ้กระทำผิดซ้ำไว้ ว่าควรจัดสัมมนาเพื่อจัดตั้งหน่วยงานเจ้าภาพรับผิดชอบ ตั้งแต่การกำหนดคำนิยาม การออกแบบการจัดเก็บ ข้อมูลๆ ที่สำคัญ และเรื่องแนวาทางการประสานงานระหว่างหน่วยงาน เพื่อสร้างกรอบมาตรฐานให้เป็นไปในแนวทางเดียวกันนอกจากนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรให้ความสำคัฐ และตระหนักถึงปัญหาเกี่ยวกับการกระทำความผิดของชาวต่างชาติ เพื่อปรับปรุงหรือกำหนดมาตรการการป้องกันทั้งเชิงรุกและเชิงรับ โดยผู้บริหารควรให้ความสำคัฐการประเมินผล การทบทวนโปรแกรมการปรับปรุงพฤตินิสัย โดยอาศัยฐานข้อมูลผู้ที่เคยตกเป็นเป็นผู้ต้องหาในคดีอาญา และนำมาปรับแผนยุทธศาสตร์ให้สอดคล้องกับปรากฎการณ์สถานการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อปรับปรุงพัฒนาโปรแกรมการปรับปรุงพฤตินิสัย หน่วยงานและเจ้าหน้าที่สามารถปฏิบัติได้อย่างมีประสิทธิผล
Article Details
ต้นฉบับที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารกระบวนการยุติธรรม แต่ความคิดเห็นที่ปรากฏในเนื้อหาของบทความในวารสารกระบวนการยุติธรรม ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนแต่เพียงผู้เดียว
เอกสารอ้างอิง
ชาญคณิต กฤตยา สุริยะมณี และคณะ. (2553). การกระทำผิดซ้ำของเด็กและเยาวชนในคดีความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ในประเทศไทย : แนวทางในการป้องกันและแก้ไขได้โดยอาศัยปัจจัยที่เป็นตัวทำนายทางด้านอาชญาวิทยา. คณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์มหาวิทยาลัยมหิดล สนับสนุนโดยสำนักงานกิจการยุติธรรม กระทรวงยุติธรรม.