มาตรการความร่วมมือการบริหารราชการแบบมีส่วนร่วมเพื่อป้องกันภัยยาเสพติด กรณีศึกษาจังหวัด สุราษฎร์ธานี

บทคัดย่อ

การศึกษามามตรการด้านความร่วมมือบริหารราชการแบบมีส่วนร่วม เพื่อป้องกันยาเสพติด กรณีศึกษาจังหวัดสุราษฎ์ธานี วัตถุประสงค์ของการวิจัยเพื่อ ศึกษาาปัญหาและข้อขัดข้องในการใช้มาตรการทางกฎหมายและมาตรการทางสังคมในการส่งเสริมและสนับสนุนให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดโดยการแข้งข้อมูลข่าวสารพื้นที่ในขังหวัดสุราษฎ์ธานี และสร้างมาตรการในการจูงใจให้ประชาชนในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี และสร้างมาตรการในการจูงใจให้ประชาชนในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีเข้ามามีส่วนร่วในการแจ้งข้อมูลข่าวสารในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดให้มากขึ้น การศึกษาครั้งนี้ใช้วิธีการศึกษาโดยการวิจัยเชิงคุณภาพและการวิจัยเชิงปริมาณ สำหรับการวิจัยเชิงคุณภาพใช้การวิจัยเอกสารและการสัมภาษณ์ประชากรกลุ่มตัวอย่าง โดยประกอบด้วย 2 กลุ่ม  คือ 1) กลุ่มผู้ทรงคุณวุฒิ 2) กลุ่มผู้นำชุมชน ส่วนการวิจัยเชิงปริมาณใช้วิธีศึกษาภาคสนาม โดยสอบถามกลุ่ม โดยประกอบด้วย 2 กลุ่มคือ 1) กลุ่มเจ้าหน้าที่ป้องกันและปราบปรามยาเสพติด 2) กลุ่มอาสาสมัครเครือข่ายป้องกันยาเสพติด ผลการวิจัยเชิงคุณภาพพบว่า มาตรการด้านความร่วมมือการบริหารราชการแบบมีส่วนร่วมเพื่อป้องกันยาเสพติด กรณีศึกษาจังหวัดสุราษฎร์ธานี คือการให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการบริหารราชการแบบมีส่วนร่วมในระดับการปรึกษาหรือให้ข้อมูลข่าวสาร ข้อเท็จจริง และแสดงความคิดเห้นในการป้องกันยาเสพติด การจัดตั้งคณะกรรมการพิจารณาข้อมูลข่าวสารซึ่งประชาชนแจ้งเกี่ยวกับผู้กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด เพื่อพิจารณาคัดกรองข้อมูลผู้กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดว่าถูกต้องหรือไม่ นับวว่าเป็นสิ่งที่ดีในการป้องกันและรปาบปรามยาเสพติดต้องดำเนินการบนพื้นฐานของหลักธรรมาภิบาลและความถูกต้องชอบธรรมการมอบเงินรางวัลให้ และการให้ความคุ้มครองความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของผู้แจ้งและครอบครัวเป็นการสนองและสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้แจ้งข้อมูลในการให้ความร่วมมือในการแจ้งข้อมูลผู็กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดกฎหมายในปัจจุบันเหมาะสมในการให้ความคุ้มครองให้สิทธิประโยชน์ในการแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับผู้กระทำผิดเกี่วกับยาเสพติด เช่น ระเบียบกับผู้กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสะติด เช่นระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการจ่ายเงินสินบนและเงินรางวัลเกี่ยวกับคดียาเสพติดแล้ว พ.ศ. 2537 อาทิเช่น เงินสินบนที่รัฐบาลจ่ายให้แก่ผู้แจ้งความนำจับคดียาเสพติดเป็นต้น การมีกฎหมายเฉพาะในการให้ความคุ้มครองและให้สิทธิประโยชน์แก่ผู้แจ้งข้อมูลเกี่ยวกับยาเสพติดเกี่ยวกับการให้ความคุ้มครองและเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้มากกว่าปัจจุบันก็จะเป็นการสร้างแรงจูงใจให้ประชาชนร่วมมือในการบริหารราชการแบบมีส่วนร่วมป้องกันและปราบปรามยาเสพติดในจังหวัดสุราษฎร์ธานี และเป็นการสร้างความเชื่อมั่นในการปฏิบัติงานของผู้แจ้งข้อมูลเกี่ยวกับยาเสพติดด้วยการเพิ่มสิทธิประโยชน์เพราะหากผู็แจ้งได้รับผลกระทบอย่างใดอย่างหนึ่งอาจเป็นด้านชีวิตหรือทรัพย์สินสิทธิประโยชน์ที่ได้รับก็จะช่วยบรรเทาเยียวยาผลกระทบที่ผู้แจ้งข้อมูลได้รับอันเนื่องมาจากการแจ้งข้อมูลผู้กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด การแจ้งข้อมูลข่าวสารผู้กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดกับเจ้าหน้าที่ของรัฐโดยแจ้งทางโทรศัพท์เป็นวิธีที่ผู้แจ้งเห็นว่าเหมาะสมที่สุด ปลอดภัย และประหยัดค่าใช้จ่ายผู้แจ้งจะต้องมีความสัมพันธ์มาก่อนเพราะหากแข้งข้อมูลผู้กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดต่อเจ้าหน้าที่ที่ตนเองไม่รู้จักไม่มีความสัมพันธ์กันมาก่อนอาจเกิดความไม่ปลอดภัยแก่ผู้แจ้งข้อมูลและความลับอาจจะรั่วไหล หรือชื่อของผู้แจ้งอาจถูกเปิดเผย ซึ่งอาจเกิดความไม่ปลอดภัยแก่ผู้แจ้งได้ในภายหลังเนื่องจากประชาชนขาดความความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมายคุ้มครองพยานในคดีอาญา พ.ศ. 2546 ส่วนการวิจัยเชิงปริมาณจากผลการสอบถามได้ผลดังนี้ (1) ควรให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการบริหารราชการแบบมีส่วนร่วมในระดับให้ข้อมูลข่าวสารร้อยละ 42.10 (2) ควรมีการจัดตั้งคณะกรรมการพิจารณาข้อมูลข่าวสารซึ่งประชาชนแจ้งเกี่ยวกับผู้กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดเพื่อพิจารณาคัดกรองข้อมูลผู้กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดเพื่อพิจารณาตรวจสอบข้อมูลว่าถูกต้องหรือไม่ ร้อยละ 71.90 (3) ควรมอบรางวัลและการให้ความคุ้มครองความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของผู้แจ้งและครอบครัว ร้อยละ 36.80 (4) กฎหมายที่ใช้อยู่ในปัจจุบันเหมาะสมในการให้ความคุ้มครองและให้สิทธิประโยชน์แก่ผู้แจ้งข้อมูลเกี่ยวกับผู้กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ร้อยละ 71.90 (5) ควรมีกฎหมายเฉพาะในการให้ความคุ้มครองและให้สิทธิประโยชน์แก่ผู้แก่ผู้แจ้งข้อมูลเกี่ยวกับยาเสพติดเพราะเป็นการสร้างแรงจูงใจใหประราชนร่วมมือในการบริหารราชการแบบมีส่วนร่วมเพื่อป้องกันยาเสพติดในจังหวัดสุราษฎร์ธานี และสร้างความเชื่อมั่นในการปฏิบัติงานของผู้แจ้งข้อมูลเกี่ยวกับยาเสพติดร้อยละ 86.00 (6) ควรมีการเพิ่มสิทธิและผลประโยชน์ให้แก่ผู้แจ้งข้อมูลผู้กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดมากขึ้นกว่าในปัจจุบันร้อยละ 84.20 (7) หากได้รับข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับยาเสพติดผู้แจ้งจะดำเนินการแจ้งโดยวิธีทางโทรศัพท์ร้อยะ 100.00 (8) ความสัมพันธ์กับเจ้าหน้าที่ร้อยละ 51.60 (9) การมีความรู้เรื่องพระราชบัญญัติคุ้มครองพยานในคดีอาญา พ.ศ. 2546 ร้อยละ 48.40 (10) หากรัฐยืนยันว่า กรณีที่ผู้แจ้งได้แจ้งข้อมูลผู้กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด รัฐจะให้ความคุ้มครองผู้แจ้งและครอบครัวให้ปลอดภัย ผู้แจ้งยินดีแจ้งข่าวทุกครั้งที่ร้อยละ 93.