การป้องกันและแก้ไขปัญหาการตกเป็นเหยื่อความรุนแรงของกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ

Main Article Content

เทวัญ วิวัฒน์พัฒนกุล
อารณีย์ วิวัฒนาภรณ์
นวภัทร ณรงค์ศักดิ์

บทคัดย่อ

การศึกษาวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ ในประเด็นความรุนแรงทางกาย ความรุนแรงทางเพศ และ   ความรุนแรงทางจิตใจเท่านั้น มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาพฤติกรรม รูปแบบหรือลักษณะความรุนแรงที่เกิดขึ้น กับกลุ่ม LGBT (2) ศึกษาสาเหตุของการตกเป็นเหยื่อความรุนแรงของกลุ่ม LGBT และ (3) เสนอแนวทางการป้องกัน และแก้ไขปัญหาการตกเป็นเหยื่อความรุนแรงของกลุ่ม LGBT โดยใช้วิธีการสัมภาษณ์แบบกึ่งโครงสร้างจากผู้ให้ข้อมูลสำคัญ 4 กลุ่ม ได้แก่ (1) LGBT ที่ตกเป็นเหยื่อความรุนแรงจากสมาคมฟ้าสีรุ้งแห่งประเทศไทยมูลนิธิเครือข่ายเพื่อนกะเทยเพื่อสิทธิมนุษยชน และมูลนิธิซิสเตอร์ ที่มีประวัติและประสบการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นครั้งหนึ่งในช่วงชีวิต จำนวน 5 คน (2) ผู้ต้องขังในเรือนจำพิเศษพัทยา ที่มีฐานความผิดต่อร่างกาย และหรือความผิดเกี่ยวกับเพศ ที่กระทำต่อบุคคล LGBT จำนวน 5 คน (3) บุคคลสาธารณะ บุคคลที่เป็นที่รู้จัก หรือบุคคลทั่วไปที่เป็น LGBT ซึ่งไม่ได้ตกเป็นเหยื่อความรุนแรง ที่มีประสบการณ์ความรุนแรงของบุคคลรอบข้างที่เป็น LGBT จำนวน 5 คน และ (4) นักวิชาการหรือนักสิทธิมนุษยชนความหลากหลายทางเพศ LGBT และนักอาชญาวิทยาที่มีประสบการณ์ในการทำงานไม่น้อยกว่า 10 ปี จำนวน 5 คน จำนวนรวมทั้งสิ้น 20 คน ผลการศึกษาวิจัยพบว่า เป้าหมายที่ตกเป็นเหยื่อความรุนแรง คือ กลุ่ม LGBT โดยเฉพาะเกย์ หรือคนข้ามเพศ ถูกกระทำความรุนแรงจากคนในครอบครัว เพื่อนหรือแฟน และบุคคลที่รู้จักกันเป็นครั้งแรกผ่านสื่อสังคมออนไลน์ และ แอปพลิเคชั่น ซึ่งรูปแบบหรือลักษณะความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับเหยื่อ มี 5 รูปแบบ ได้แก่ ความรุนแรงทางกาย ความรุนแรง     ทางเพศ ความรุนแรงทางจิตใจ ความรุนแรงทางวาจา และความรุนแรงทางสังคม โดยความรุนแรงดังกล่าว ส่งผลกระทบกับเหยื่อ ใน 3 ด้าน คือ ด้านจิตใจ ร่างกาย และสังคม รวมทั้งส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของเหยื่อ ทำให้เกิดความกลัว เครียด สิ้นหวัง กลายเป็นคนเก็บตัวจนนำไปสู่ภาวะ PTSD ซึ่งผู้กระทำความรุนแรง คือ กลุ่มที่มีอคติ และไม่เข้าใจในความหลากหลายทางเพศ กลุ่มผู้ปกครองที่ไม่ยอมรับบุตรหลาน และกลุ่มที่มีความเกลียดกลัวคนรักเพศเดียวกัน ทั้งนี้ มีสาเหตุมาจากความไม่เข้าใจ ความเกลียดชัง การไม่ยอมรับ ทัศนคติความเหงา ความเชื่อใจที่มีต่อบุคคลที่รู้จักกันเป็นครั้งแรก ความหึงหวง ลักษณะทางกายภาพที่อ่อนแอกว่าของ LGBT และการที่เคยถูกกระทำความรุนแรงมาก่อน โดยแนวทางแก้ไขปัญหาความรุนแรง ต้องได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม LGBT และคนในชุมชนที่ไม่ใช่ LGBT เพื่อสนับสนุน และขับเคลื่อนประเด็น LGBT ในการเปลี่ยนแปลงกฎหมายและนโยบาย รวมทั้งหน่วยงานที่ให้การช่วยเหลือเหยื่อในปัจจุบัน ต้องสามารถช่วยเหลือได้จริง เข้าถึงได้ง่าย และควรมีการจัดตั้งสมาคมหรือมูลนิธิ เพื่อช่วยเหลือเหยื่อความรุนแรงไปจนสุดกระบวนการยุติธรรมได้ อีกทั้งสถาบันครอบครัว สถาบันการศึกษาต้องให้ความรู้ ความเข้าใจ ปลูกฝังเด็กและเยาวชนในเรื่องของความหลากหลายทางเพศ รวมถึงควรมีการเพิ่มเติมสิทธิต่าง ๆ ในด้านการรับรองอัตลักษณ์ทางเพศสภาพ สิทธิขั้นพื้นฐาน สิทธิการแต่งงานในเพศเดียวกัน และสิทธิสุขภาพที่มีความจำเป็นต่อ LGBT

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
วิวัฒน์พัฒนกุล เ. ., วิวัฒนาภรณ์ อ. . ., & ณรงค์ศักดิ์ น. . . (2023). การป้องกันและแก้ไขปัญหาการตกเป็นเหยื่อความรุนแรงของกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ. วารสารกระบวนการยุติธรรม, 16(3), 89–110. สืบค้น จาก https://so04.tci-thaijo.org/index.php/JTJS/article/view/259380
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

มหาวิทยาลัยมหิดล, Plan International ประเทศไทย และองค์การยูเนสโก สำนักงานกรุงเทพฯ. (2557). รายงานผลการวิจัยการรังแกต่อกลุ่มนักเรียนที่เป็นหรือถูกมองว่าเป็นคนข้ามเพศหรือคนรักเพศเดียวกัน ในโรงเรียนระดับมัธยมศึกษา: รูปแบบ ความชุก ผลกระทบ แรงจูงใจ และมาตรการป้องกันใน 5 จังหวัดของประเทศไทย. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยมหิดล.

ลดาวัลย์ ใยมณี. (2563). แนวนโยบายและการบังคับใช้กฎหมายอาชญากรรมที่เกิดจากความเกลียดชังในประเทศไทย. วารสารสถาบันวิชาการป้องกันประเทศ, 11(1), 24-32.

สำนักงานปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์, กองพัฒนานโยบายและนวัตกรรมทางสังคม. (2564). รายงานสถานการณ์และแนวโน้มทางสังคม ความรุนแรงในครอบครัว. ค้นเมื่อ 2 เมษายน 2565, จาก https://opendata.nesdc.go.th/dataset/violence-in-family

สิทธิพัฒน์ เฉลิมยศ. (2551). แนวทางในการผลักดัน การสร้างมาตรการป้องกันแก้ไขปัญหาการตกเป็นเหยื่ออาชญากรรมของเกย์ในกรุงเทพมหานคร. ปริญญานิพนธ์ปริญญาดุษฎีบัณฑิต. มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต.

เสกสัณ เครือคำ. (2558). อาชญากรรม อาชญาวิทยา และงานยุติธรรมทางอาญา. นครปฐม: เพชรเกษมการพิมพ์.

Argun, U. & Daglar, M. (2016). Examination of routine activities theory by the property crime. International Journal of Human Sciences, 13(1), 1188-1198.

Carson, L. C. (2017). Transgender women’s perceptions and experience of sexual violence and views of rape crisis center resources.Doctoral dissertation. Indiana University of Pensylvania.

Doerner, W. G., & Lab, S. P. (2012). Victimology (6th ed.). Massachuetts: Anderson publishing.

Dowling, K. B. (2016). Homophobic bullying: Understanding teacher, LGBTQ youth, and advocate perspectives. Doctoral dissertation. University of Toronto.

Federal Bureau of Investigation. (2021). FBI releases updated 2020 hate crime statistics. Retrieved April 2, 2022, from https://www.fbi.gov/news/pressrel/press-releases/fbi-releases-updated-2020-hate-crime-statistics

Government of Newfoundland and Labrador. (2017). Defining violence and abuse. Retrieved October 7, 2017, from http://www.gov.nl.ca/VPI/types/

Grand Canyon University. (2019). 3 Modern theories of victimology. Retrieved October29, 2020, from https://www.gcu.edu/blog/criminal-justice-government-and-public-administration/3-modern-theories-victimology

Holmes, S. E. (2019). LGBTQ+ students and campus sexual violence: prevalence rates and the effect of expansive demographic questions. Doctor aldissertation. University of Southern Maine.

Meena, T. (2016). Crimeprevention through environmental design: A critical perspectives of environmental criminology. International Journal of Law, 2(5), 1-6.

Walsh, A. (2012). Criminology: The essentials. California: Sage.

World Health Organization. (2017). Definitionand typology of violence. Retrieved October 7, 2017, from http://www.who.int/violenceprevention/approach/definition/en/