ภาวะผู้นำ จิตวิญญาณในการทำงาน ผลการปฏิบัติงาน และบรรษัทภิบาล Leadership, Workplace Spirituality, Job Performance and Good Corporate Governance

Main Article Content

รัตติกรณ์ จงวิศาล

Abstract

การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาโครงสร้างความสัมพันธ์ระหว่างภาวะผู้นำ จิตวิญญาณในการทำงาน  ผลการปฏิบัติงาน และบรรษัทภิบาลของผู้บริหารระดับกลาง เก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างผู้บริหารระดับกลางในกลุ่มบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) จำนวน 240 คน โดยใช้แบบวัดมาตราส่วนประมาณค่าแบบรายงานตนเอง ประกอบด้วย แบบวัดภาวะผู้นำ แบบวัดจิตวิญญาณในการทำงาน แบบวัดผลการปฏิบัติงาน และแบบวัดบรรษัทภิบาล โดยแบบวัดนี้ได้มีการหาคุณภาพของเครื่องมือโดยการหาค่าความเที่ยงตรง (Validity) ค่าความเชื่อมั่น (Reliability) และค่าอำนาจจำแนก (Discrimination power) ผลการทดสอบโดยการวิเคราะห์โมเดลสมการโครงสร้าง พบว่า ภาวะผู้นำส่งผลโดยมีอิทธิพลทางบวกต่อ  จิตวิญญาณในการทำงาน และผลการปฏิบัติงาน จิตวิญญาณในการทำงานส่งผลโดยมีอิทธิพลทางบวกต่อบรรษัทภิบาล บรรษัท    ภิบาลส่งผลโดยมีอิทธิพลทางบวกต่อผลการปฏิบัติงาน ภาวะผู้นำส่งผลทางอ้อมต่อบรรษัทภิบาลโดยส่งผ่านตัวแปรจิตวิญญาณในการทำงาน ภาวะผู้นำส่งผลทางอ้อมต่อผลการปฏิบัติงาน โดยส่งผ่านตัวแปรจิตวิญญาณในการทำงาน และบรรษัทภิบาล จิตวิญญาณในการทำงานส่งผลทางอ้อมต่อผลการปฏิบัติงานโดยส่งผ่านบรรษัทภิบาล ภาวะผู้นำสามารถอธิบายความแปรปรวนของจิตวิญญาณในการทำงานได้ร้อยละ 37 นอกจากนี้ ภาวะผู้นำและจิตวิญญาณในการทำงานสามารถอธิบายความแปรปรวนของบรรษัทภิบาลได้ร้อยละ 71 และภาวะผู้นำ จิตวิญญาณในการทำงานและบรรษัทภิบาลสามารถอธิบายความแปรปรวนของผลการปฏิบัติงานได้ร้อยละ 69 จากผลของการวิจัยดังกล่าว องค์การจึงควรให้ความสำคัญกับการพัฒนาภาวะผู้นำ จิตวิญญาณในการทำงานและบรรษัทภิบาล เพื่อส่งเสริมให้ผลการปฏิบัติงานของผู้บริหารระดับกลางสูงขึ้น

Article Details

Section
Articles