แรงจูงใจในการซื้อหุ้นคืนและผลกระทบต่อการตัดสินใจยุติโครงการหุ้นทุนซื้อคืนของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและตลาดเอ็ม เอ ไอ

Main Article Content

นราทิพย์ ทับเที่ยง

Abstract

การศึกษานี้สำรวจแรงจูงใจที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อหุ้นคืนของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และตลาดเอ็ม เอ ไอ ที่ทำการซื้อหุ้นคืน เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2544 จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2552 รวม 64 บริษัท 70 โครงการ ผลการศึกษาพบว่า บริษัทตัดสินใจซื้อหุ้นคืนโดยมีแรงจูงใจสำคัญ 3 อันดับแรก ได้แก่ ผู้บริหารเชื่อว่าราคาหุ้นของบริษัทต่ำกว่าที่ควรจะเป็น, ราคาหุ้นของบริษัทต่ำกว่าราคาตามปัจจัยพื้นฐานและเพื่อเพิ่มกำไรต่อหุ้น ซึ่งเป็นการตัดสินใจซื้อหุ้นคืนตามสมมติฐานการส่งสัญญาณ (Information Signalling Hypothesis) สำหรับการศึกษาในประเด็นการปรับตัวของราคาหุ้นภายหลังการซื้อหุ้นคืนจนถึงวันสิ้นสุดโครงการและผลกระทบต่อการตัดสินใจยุติโครงการซื้อหุ้นคืนของ  27 บริษัทหรือ 28 โครงการที่ยุติโครงการภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2552 ผลการศึกษาพบว่า ราคาหุ้นมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น 12 บริษัท มีเพียง 4 บริษัทที่ตัดสินใจจำหน่ายหุ้นทุนซื้อคืนมีผลกำไร โดยบันทึกในบัญชีส่วนเกินหุ้นทุนซื้อคืนและทำให้ส่วนของผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้น อีก 8 บริษัทตัดสินใจลดทุน ทั้งที่โดยแนวคิดควรจำหน่ายหุ้นทุนซื้อคืนมีผลกำไร แต่บริษัทมีเหตุผลอื่นนอกเหนือจากประเด็นผลกระทบต่องบการเงิน ได้แก่ ต้องการรักษาราคาหุ้นที่สูงเช่นในปัจจุบันหรือต้องการป้องกันการครอบงำกิจการ ทั้งนี้พบว่า ราคาหุ้นมีการปรับตัวลดลง 15 บริษัท โดย 4 บริษัทยุติโครงการโดยขายมีผลกำไรบันทึกในบัญชีส่วนเกินหุ้นทุนซื้อคืนนับเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง หากรอจนจบโครงการจะมีผลขาดทุนเนื่องจากราคาหุ้นปรับตัวลดลง ทั้งนี้มี 3 บริษัทตัดสินใจยุติโครงการโดยการจำหน่ายหุ้นทุนซื้อคืนมีผลขาดทุนทำให้กำไรสะสมยังไม่ได้จัดสรรลดลง และส่วนใหญ่ 8 บริษัทตัดสินใจยุติโครงการโดยการลดทุน โดยพิจารณาผลกระทบต่องบการเงิน ณ วันลดทุนที่ทำให้ส่วนของผู้ถือหุ้นไม่เปลี่ยนแปลง แม้ทุนจดทะเบียนและทุนชำระแล้วจะลดลง แต่กำไรสะสมยังไม่ได้จัดสรรสุทธิเพิ่มขึ้นเป็นสำคัญ

Article Details

Section
Articles