การศึกษาผลสัมฤทธิ์การเรียนรู้ผ่านวิธีการเรียนแบบร่วมมือและการเรียนร่วมกัน กรณีศึกษา รายวิชาการออกแบบนิทรรศการและพิพิธภัณฑ์

Main Article Content

ฐิติพรรณ เกินสม

บทคัดย่อ

การวิจัยมีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนากระบวนการเรียนการสอนด้วยกลยุทธ์การเรียนแบบร่วมมือและการเรียนร่วมกันผ่านโครงงานของนักศึกษาระดับปริญญาตรี รายวิชาการออกแบบนิทรรศการและพิพิธภัณฑ์ 2) เพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์การเรียนรายวิชาการออกแบบนิทรรศการและพิพิธภัณฑ์ด้วยกลยุทธ์การเรียนแบบร่วมมือ และการเรียนร่วมกันผ่านโครงงานของนักศึกษาระดับปริญญาตรี และ 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของผู้เรียนด้วยกลยุทธ์การเรียนแบบร่วมมือ และการเรียนร่วมกันผ่านโครงงานของนักศึกษาระดับปริญญาตรี กลุ่มประชากร 49 คน หน่วยงานของผู้วิจัย ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นการจัดเตรียมผ่านแผนการจัดการเรียนรู้รายวิชาการออกแบบนิทรรศการและพิพิธภัณฑ์ที่จัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือ และการเรียนร่วมกันผ่านผลงานแบบโครงงาน ได้แก่ ก) แบบประเมินโครงงานแบบรูบริค ข) แบบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ค) แบบประเมินความพึงพอใจ การวิเคราะห์ข้อมูลใช้สถิติร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่า 1) ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือ และการเรียนร่วมกันผ่านผลงานแบบโครงงาน ส่งผลให้ผู้เรียนมีความเข้าใจ เกิดการคิด การหาแนวทางในการสืบค้นข้อมูล เพื่อนำไปวิเคราะห์ข้อมูล สร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง และส่งผลต่อผู้สอนให้ทราบถึงปัญหา ความท้าทายในการจัดการเรียนการสอน และทางการแก้ไขปัญหา 2) ผลประเมินการจัดกิจกรรมการเรียนแบบร่วมมือและการเรียนร่วมกันผ่านผลงานแบบโครงงาน พบว่า ผู้เรียนได้ทำโครงงานตามความสนใจ กระตุ้นความสนใจและลงมือปฏิบัติด้วยตนเอง จึงสร้างประสบการณ์และความรู้เพิ่มขึ้นจากการค้นคว้าข้อมูลจากแหล่งสืบค้นต่าง ๆ รวมทั้งการอภิปรายความรู้ร่วมกันในกลุ่มและนำเสนอผลงาน ผลผลิตโครงงานมีระดับพัฒนาการเพิ่มขึ้น 3) ผลสัมฤทธิ์การเรียนรู้โครงงานมีระดับคะแนนเฉลี่ยของทั้ง 4 โครงงานเป็นร้อยละ 83, 89, 91, 99 ตามลำดับ และผลสัมฤทธิ์การเรียนรู้แบบปรนัยด้านเนื้อหาเกินกว่าร้อยละ 80 4) ผลประเมินความพึงพอใจต่อกิจกรรมการเรียนแบบร่วมมือและการเรียนร่วมกันผ่านผลงานแบบโครงงานของนักศึกษาภาพรวมอยู่ในระดับมาก ที่ระดับคะแนน 4.38  การอภิปรายผล คือ ผู้เรียนส่วนใหญ่มีทักษะการทํางานกลุ่มที่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง มีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมไปในทิศทางที่ดีขึ้น รวมถึงมีเจตคติการทํางานกลุ่มที่ดีโดยพัฒนาเพิ่มขึ้น ส่งผลให้นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนการสอนโดยใช้การเรียนแบบร่วมมือ และมีผลการเรียนผ่านเกณฑ์ในระดับดี

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
เกินสม ฐ. (2022). การศึกษาผลสัมฤทธิ์การเรียนรู้ผ่านวิธีการเรียนแบบร่วมมือและการเรียนร่วมกัน กรณีศึกษา รายวิชาการออกแบบนิทรรศการและพิพิธภัณฑ์. Asian Creative Architecture, Art and Design, 34(1), 21–35. สืบค้น จาก https://so04.tci-thaijo.org/index.php/archkmitl/article/view/257155
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

กัมปนาท คูศิริรัตน์, นุชรัตน์ นุชประยูร และเธียรธาดา หิรัญญะ ชาติธาดา. (2562). การจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐาน เพื่อบูรณาการชิ้นงานรายวิชาคู่ขนานของนักศึกษาระดับปริญญาตรี. วารสารบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์. 13(2), 14-29.

เขมณัฏฐ์ มงศิริธรรม. (2554). การบูรณาการวิธีการเรียนแบบร่วมมือกับการเรียนร่วมกัน. วารสารกลุ่มมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์. Veridian E-Journal SU. 4(1), 435-444.

ทิศนา แขมมณี. (2550). รูปแบบการเรียนการสอน: ทางเลือกที่หลากหลาย. พิมพ์ครั้งที่ 4. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

เทพกัญญา พรหมขัติแก้ว. (2557). ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน (Project-Based Learning). เข้าถึงได้จาก: http://physics.ipst.ac.th/wpcontent/uploads/sites/2/2015/05/IPST_Mag188_ProjectBased.pdf.

พรพร โยธาวงษ์. (2561). ผลสัมฤทธิ์จากการเรียนแบบห้องเรียนกลับด้านร่วมกับการสอนแบบบรรยายในวิชาการจัดการฟาร์มของนักศึกษาระดับปริญญาตรีสาขาวิชาการจัดการเทคโนโลยีฟาร์ม. Panyapiwat Journal. 10, 252-261.

พิมพ์ลดา กมลศิริธนพงษ์, นาตยา ปิลันธนานนท์ และศุภฤกษ์ ทานาค. (2561). การพัฒนาสัมฤทธิ์ผลการเรียนรู้ทักษะและเจตคติ การทำงานกลุ่มของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาที่ 1 โรงเรียนรัตนโกสินทร์สมโภชบางขุนเทียนโดยใช้การเรียนแบบร่วมมือในรายวิชาสร้างสรรค์งานกระดาษกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี. วารสารศึกษาศาสตร์ปริทัศน์. 33(1), 167-177.

รัตนาภรณ์ ทรงนภาวุฒิกุล. (2560). การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ด้วยการให้คะแนนแบบรูบริค: Scoring Rubrics. Chandrakasem Rajabhat University Journal of Graduate School. 12(1), 1-14.

ลริตา บุญทศ และศิริพงษ์ เพียศิริ. (2558). การศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและความสามารถในการประกอบอาหารประจำชาติอาเซียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยการจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน. Journal of Education Khon Kaen University (Graduate Studies Research). 9(1), 95-102.

วัชรา เล่าเรียนดี. (2550). เทคนิคและยุทธวิธีพัฒนาทักษะการคิด การจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ. นครปฐม: คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร.

วิจิตรา ผาผึ้ง. (2556). การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนความสามารถในการแก้ปัญหาและการถ่ายโยงการเรียนรู้โดย ใช้โปรแกรมบทเรียนแบบบูรณาการกับการเรียนปกติเรื่องการสร้างเว็บเพจของนักศึกษาระดับประกาศนียบัตร วิชาชีพชั้นปีที่ 2 สาขาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ. Chophayom Journal. 24, 43-60.

สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง. (2560). หลักสูตรสถาปัตยกรรมศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาสถาปัตยกรรมภายใน (หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. 2560) สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง. เข้าถึงได้จาก: https://www.arch.kmitl.ac.th/interior/b-inte.

Brookhart, S. M. (2013). How to Create and Use Rubrics for Formative Assessment and Grading. Alexandria, VA: ASCD, 2013.

Davidson, N., Major, C. H. and Michaelsen, L. K. (2014). Small-group learning in higher education—cooperative, collaborative, problem-based, and team-based learning: an introduction by the guest editors. Journal on Excellence in College Teaching. 25(3&4), 1-6.

Joyce, B & Weil, M. (1996). Models of Teaching. 3rd ed. Englewood Cliffs, N.J.: Prentice-Hall.

Krajcovicova, B. and Capay, M. (2012). Project based education of computer science using cross-curricular relations. Procedia-Social and Behavioral Sciences. 47, 54-61.

Sharan, Y., & Sharan, S. (1990). Group investigation expands cooperative learning. Educational leadership. 47(4), 17-21.