การสร้างความรู้จากรูปแบบเกษตรประณีตเพื่อพัฒนาอาชีพสู่ความยั่งยืน: กรณีศึกษาสมาชิกเครือข่ายปราชญ์ชาวบ้านจังหวัดบุรีรัมย์
Main Article Content
บทคัดย่อ
งานวิจัยการสร้างความรู้จากรูปแบบ “เกษตรประณีต” ซึ่งเป็นการทดลองทำเกษตรผสมผสาน ในพื้นที่
ขนาดเล็ก ก่อนที่จะขยายสู่พื้นที่ขนาดใหญ่ เป็นกรณีศึกษาจากสมาชิกเครือข่ายปราชญ์ชาวบ้านจังหวัดบุรีรัมย์ มี
วัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาการแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่าง ความรู้ฝังลึกและความรู้ชัดแจ้งซึ่งนำไปสู่รูปแบบของความ
รู้ใหม่ ซึ่งมี 4 กระบวนการ คือ (1) การแลกเปลี่ยนความรู้ที่ฝังอยู่ในตัวของสมาชิก (2) การแลกเปลี่ยนความรู้ที่ฝัง
อยู่ในตัวของสมาชิกออกมาสู่ภายนอกชุมชนให้รับรู้ (3) การนำความรู้ชัดแจ้งมาเชื่อมโยงกันอย่างเป็นระบบเพื่อให้ทัน
ต่อการเปลี่ยนแปลง และ (4) การนำความรู้ชัดแจ้งเพื่อพัฒนาสู่ความรู้ฝังลึก 2) ศึกษารูปแบบของการทำเกษตร
ประณีต ด้วยการวิจัยเชิงคุณภาพ โดยการใช้แบบสัมภาษณ์เชิงลึก การสังเกตแบบมีส่วนร่วม และการสนทนากลุ่มย่อย
ทำการศึกษาระหว่างปี 2551-2553
ผลการศึกษาพบว่า กระบวนการของการแลกเปลี่ยนความรู้ที่ฝังอยู่ในตัวสมาชิก สามารถเกิดขึ้นได้ระหว่าง
การแลกเปลี่ยนกระบวนคิด และการประชุม สำหรับกระบวนการที่สองและสามเกิดขึ้นระหว่างการดำเนินกิจกรรม
และขั้นตอนสุดท้ายซึ่งเป็นกระบวนการนำความรู้ชัดแจ้งเพื่อพัฒนาสู่ความรู้ฝังลึก พบได้จากการนำไปปฏิบัติจริงของ
สมาชิกทั้งในและนอกเครือข่าย ซึ่งในรูปแบบของการจัดการความรู้เกษตรประณีตนั้น พบว่ามี 3 รูปแบบ 1) แบบ
พออยู่พอกิน รูปแบบนี้เกษตรกรผลิตเพื่อการบริโภคในครัวเรือนเป็นหลัก 2) แบบเหลืออยู่เหลือกิน รูปแบบนี้เน้น
การผลิตเพื่อการบริโภคครัวเรือน และการจำหน่าย และ3) แบบก้าวหน้า เป็นรูปแบบการผลิตที่ตั้งอยู่บนฐานของ
ความรู้ เกษตรกรจะผลิตเพื่อการบริโภค และสร้างรายได้เป็นหลักให้ครอบครัว ซึ่งแต่ละรูปแบบจะมีลักษณะการ
จัดการความรู้ในแต่ละกิจกรรมที่ต่างกัน นอกจากนั้นยังพบว่าหัวใจสำคัญในการยอมรับความรู้ใหม่จากรูปแบบ
“เกษตรประณีต” ผู้ปฏิบัติต้องมีความเชื่อมั่น และศรัทธาในรูปแบบ อีกทั้งหากมีกิจกรรมการสร้างแรงบันดาลใจ
อย่างต่อเนื่อง และมีผู้นำที่เข้มแข็งจะทำให้เกิดความยั่งยืนในอาชีพตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง
Article Details
บทความที่ปรากฏในวารสารนี้ เป็นความรับผิดชอบของผู้เขียน ซึ่งสมาคมนักวิจัยไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยเสมอไป การนำเสนอผลงานวิจัยและบทความในวารสารนี้ไปเผยแพร่สามารถกระทำได้ โดยระบุแหล่งอ้างอิงจาก "วารสารสมาคมนักวิจัย"
เอกสารอ้างอิง
และตัวชี้วัด. นนทบุรี. มูลนิธิเกษตรกรรมยั่งยืน (ประเทศไทย).
บุญดี บุญญากิจ และคณะ. (2547). กรอบความคิดการจัดการความรู้. กรุงเทพฯ: สถาบันเพิ่ม
ผลผลิตแห่งชาติ.
ไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม. (2547). การจัดการความรู้ กับการจัดการทางสังคม ใน ความรู้ท้องถิ่น: การ
จัดการความรู้สู่การจัดการทางสังคม. กรุงเทพฯ: วิทยาลัยการจัดการทางสังคม.
วิจารณ์ พานิช. (2549). การจัดการความรู้ฉบับนักปฏิบัติ. กรุงเทพฯ: สถาบันส่งเสริมการจัดการ
ความรู้เพื่อสังคม.
วิฑูรย์ เลี่ยนจำรูญ. (2535). เกษตรกรรมทางเลือก หนทางรอดเกษตรกรรมไทย. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์
เกษตรกรรมทางเลือก.
สุทธินันท์ ปรัชญพฤทธิ์. (2550). การจัดการความรู้มหาชีวาลัยอีสาน. บุรีรัมย์: มหาชีวาลัยอีสาน.
เสรี พงศ์พิศ. (2549). เศรษฐกิจพอเพียง การพัฒนาที่ยั่งยืน. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์พลังปัญญา.
อภิชัย พันธเสน . (2544). พุทธเศรษฐศาสตร์. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์อมรินทร์.
อภิสิทธิ์ ธรรมรงวรางกูร. (2549). รายงานประจำปีโครงการพัฒนาชุมชนภาคอีสานเพื่อการเสริม
สร้างสุขภาพอย่างยั่งยืน. ขอนแก่น. มูลนิธิพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี
จังหวัดขอนแก่น.
Polanyi, M. (1966), “The Tacit Dimension, London: Routledge & Kegan Paul
Senge, P. M. (1990). The Fifth Discipline: The Age and Practice of the Learning
Organization. London: Century Business.
Nonaka, I. & Takeuchi, H. (1995). The Knowledge-Creating Company: How Japanese
companies create the dynamics of innovation. Oxford University Press. The USA.