พัฒนารูปแบบการส่งเสริมสุขภาพแรงงานต่างด้าวที่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษสำหรับสัญชาติ เมียนมาร์ ลาว และกัมพูชาในภาคตะวันออกของประเทศไทย

Main Article Content

ณิษาอร พิหูสูตร

บทคัดย่อ

การศึกษาในครั้งนี้จึงได้ถูกพัฒนาขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ 1. เพื่อศึกษาบริบทและนโยบายการ ส่งเสริมสุขภาพในแรงงานต่างด้าวที่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษสำหรับ สัญชาติเมียนมาร์ ลาว และกัมพูชา ภาคตะวันออกของประเทศไทยในปัจจุบัน และ 2. เพื่อศึกษา แนวทางการพัฒนารูปแบบการส่งเสริมสุขภาพแรงงานต่างด้าว โดยใช้กระบวนการวิจัยแบบผสม ผสานวิธี (Mixed-method) ประกอบด้วยกระบวนการเชิงคุณภาพและเชิงปริมาณ สำหรับเชิง คุณภาพดำเนินการเก็บข้อมูลด้วยการสัมภาษณ์โดยมีผู้ให้ข้อมูลหลักประกอบด้วย ผู้ทรงคุณวุฒิด้าน นโยบายการส่งเสริมสุขภาพ 5 คน ผู้ทรงคุณวุฒิด้านจัดหางานแรงงานต่างด้าว 4 คน ตัวแทนผู้ว่าจ้าง แรงงานต่างด้าว 8 คนและตัวแทนหรือหัวหน้าแรงงานต่างด้าว 8 คน รวมทั้งสิ้น 25 คน และวิธีการ ประชุมกลุ่มย่อย กลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย จำนวน 8 คนที่ไม่ซำกับการสัมภาษณ์ โดยทำการคัดเลือก ด้วยวิธีการเจาะจง จากนั้นนำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์ผลตามกระบวนการการวิเคราะห์เชิงเนื้อหา จำแนกข้อมูลในระดับจุลภาค ด้วยการวิเคราะห์คำหลักและการวิเคราะห์สารระบบ สำหรับเชิง ปริมาณดำเนินการเก็บข้อมูลแรงงานต่างด้าวที่ทำงานอยู่ในจังหวัดในภาคตะวันออกทั้งสามสัญชาต ด้วยแบบสอบถามจำนวนทั้งสิ้น 400 คน ระดับความเชื่อมั่นที่ร้อยละ 95 เมื่อเปรียบเทียบอัตราส่วน จากประชากรทั้งหมด 247,584 คน คัดเลือกกลุ่มเป้าหมายด้วยกระบวนการความน่าจะเป็น การสุ่ม ตัวอย่างแบบแบ่งชั้น และการสุ่มตัวอย่างแบบมีระบบ จากนั้นนำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์ผลทางสถิติด้วยการหาค่าความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน One-way ANOVA F-test t-test และ Multiple regression เพื่อทดสอบความแตกต่างของตัวแปร ผลการวิจัยที่ได้สรุปได้่ว่า (1) ด้านนโยบายควรมีการกำหนดแนวทางการส่งเสริมสุขภาพ แรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมาร์ ลาว และกัมพูชา ให้เหมือนกัน จัดให้บริการตามชุดสิทธิประโยชน์ นำเข้าแรงงานต่างด้าวอย่างถูกต้องตามกฎหมาย มีการผ่อนผันสำหรับผู้เข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ดำเนินการลงทะเบียนเข้าสู่ระบบแรงงานต่างด้าวตามมติ คสช.ลงวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2559 ส่งเสริม การสรรหาและจัดจ้างแรงงานต่างด้าวที่เข้าเมืองแบบถูกกฎหมาย และส่งเสริมการใช้สิทธิด้านรักษา พยาบาลด้วยประกันสังคม (2) สำหรับรูปแบบการส่งเสริมสุขภาพแรงงานต่างด้าวพบว่า หากปัจจัย ภายในของตนเองเพิ่มขึ้น (b = 0.692) นโยบายการส่งเสริมสุขภาพเพิ่มขึ้น (b=0.692 ) และปัจจัย ภายนอกเพิ่มขึ้น ( b=0.15) จะส่งผลให้พฤติกรรมการส่งเสริมสุขภาพเพิ่มขึ้น 2.723 ตามไปด้วย ดัง นั้นจึงควรมีการผลักดันด้านนโยบาย ปรับปรุงปัจจัยภายในและนอกให้ดีมากขึ้น ก็จะส่งเสริมสุขภาพ แรงงานต่างด้าว ได้ดีขึ้นไปด้วย

Article Details

ประเภทบทความ
บทความวิจัย