สัมฤทธิผลการนำนโยบายการคลังไปปฏิบัติระหว่างปีพุทธศักราช 2544-2554
Article Sidebar
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1)ความแตกต่างบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2540 และพ.ศ. 2550ในหมวด การเงิน การคลังและงบประมาณด้านกรอบความยั่งยืนทางการคลัง ตลอดจนข้อบกพร่อง และวิธีแก้ไขรัฐธรรมนูญ
2) นโยบายการคลังเพื่อความยั่งยืน ขณะเกิดวิกฤตเศรษฐกิจและการแก้ไข ภายใต้การบริหารของ พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ 3) สัมฤทธิผลด้านฐานะการคลังในการนำนโยบายการคลังไปปฏิบัติระหว่างปี 2544-2554ทั้งนี้ได้ใช้การวิจัยเชิงคุณภาพและกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจงเป็นนักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญด้านการคลัง 30 คน โดยออกแบบการสัมภาษณ์เจาะลึกแบบมีโครงสร้าง และการกรอกแบบสอบถามแบบเปิดและใช้การ พรรณนาเป็นหลักโดยข้อค้นพบ มีดังนี้
วัตถุประสงค์ข้อ1)พบว่า มีความแตกต่างสาระสำคัญแห่งหมวดการเงิน การคลัง และงบประมาณ เป็นรายมาตราส่วนข้อบกพร่องพบว่าในภาระผูกพันทางการเงินเกี่ยวกับรายจ่าย และภาระหนี้ไม่มีการ แสดงมูลหนี้หรือรายจ่ายที่เกิดจากช่องว่างของกฏหมาย และวิธีแก้ไขได้แก่ 1. รัฐบาลควรจัดทำนโยบาย แผนงาน สำหรับงบประมาณภาระผูกพันหรือรายจ่ายในเรื่องนั้นๆไว้ล่วงหน้าโดยเฉพาะนโยบายกึ่งการคลังหรือนอกบัญชี งบประมาณ และเปิดเผยข้อมูลที่เป็นหนี้ภาระผูกพันฯต่อสาธารณชน 2.ปฎิรูปทางการเมือง ให้ประชาชนมีสิทธิและมี อำนาจในการจัดตั้งองค์กรกลาง 3.รัฐบาลควรจัดทำรายงานจำนวนเงินภาษีอากรที่รัฐสูญเสียไปอันเนื่องมาจากการ ลดหย่อนต่อรัฐสภาวัตถุประสงค์ข้อ 2) พบว่า รัฐบาลทั้งสองต่างใช้นโยบายการคลังและการก่อหนี้สาธารณะเพื่อ กระตุ้นเศรษฐกิจ และเสนอนโยบายกึ่งการคลังเพื่อสร้างความนิยมและความพึงพอใจต่อประชาชน และรักษากรอบ วินัยทางการคลังอย่างยั่งยืนไว้ได้ ส่วนวัตถุประสงค์ข้อ 3) พบว่า สัมฤทธิผลด้านฐานะการคลังสิ้นปีงบประมาณ ปี พ.ศ.2546- 2549 แข็งแกร่งมากขึ้นเกินหนึ่งแสนล้านบาท และระหว่างปี พ.ศ.2551-2554 ยิ่งแข็งแกร่งมากกว่าปี พ.ศ.2540
Article Details
บทความที่ปรากฏในวารสารนี้ เป็นความรับผิดชอบของผู้เขียน ซึ่งสมาคมนักวิจัยไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยเสมอไป การนำเสนอผลงานวิจัยและบทความในวารสารนี้ไปเผยแพร่สามารถกระทำได้ โดยระบุแหล่งอ้างอิงจาก "วารสารสมาคมนักวิจัย"
เอกสารอ้างอิง
ธันยกร จันทร์สาส์น .(2554). ประสิทธิภาพการดำเนินงานของธนาคารพาณิชย์ในประเทศไทยระหว่างปี พ.ศ.2543-2552 วารสารสมาคมนักวิจัย,16(2),51
พัชรี มินระวงศ์ (2551). ตัวแปรทางเศรษฐกิจกับความยั่งยืนทางการคลังของประเทศไทย.ดุษฏีนิพนธ์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง. กรุงเทพมหานคร
สาวิตรี สัจจาภินันท์ อัศวานุชิต,วรพัฒน์ เจนสวิสดิชัย, บุณยวรรณ หมั่นวิชาชัย และวิลดา มีแย้ม. (2545). ความยั่งยืนทางการคลังกับเป้าหมายเงินเฟ้อ : การผสมผสานโยบายที่เหมาะสม. สัมมนาวิชาการประจำปี2545ธนาคารแห่งประเทศไทย.
สมบูรณ์ วัฒนาอาษากิจ.(2546).ความยั่งยืนทางการคลัง และหนี้สาธารณะของไทย.วิทยานิพนธ์มหาบัณฑิตคณะเศรษฐศาสตร์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
พรรณิลัย นิติโรจน์.(2551).การนำนโยบายการจัดระเบียบหาบเร่แผงลอยกรุงเทพมหานครไปปฏิบัติ.ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต(รัฐประศาสนศาสตร์),มหาวิทยาลัยรามคำแหง.
พรรณี สถาวโรดม.(2544)."การสร้างความยั่งยืนทางการคลังภายหลังวิกฤติเศรษฐกิจ"เอกสารวิจัยส่วนบุคคลของนักศึกษาหลักสูตรป้องกันราชอณาจักร(วปอ.)รุ่นที่44 วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร
Leachman,L.L.,Bester,A.,Roses,G.&Lang,P.(2005).”Multicointegration sustainability of fiscal practices and the role of fiscal institutions. Economic Inquiry,43(2), 454-466 Polito,V.&Wickens, M. (2007). Measuring Fiscal Stance .”Discussion Paper 2007/14,Department of Economics, University of York. Noppadol Burannathannung &ChairatPoonpapidul. (2001). External debt dynamic and current Accountsustainability.
The paper Present in Bank of Thailand Sympposiun,Bangkok, Retrieved April 10 2012,from http://www.ams.cmu.ac.th/pub/law/tamanoon50/gist/166_170.htm
Puangpeth,P.(2001).“Fiscal Vulnerability.”Master of Economics (English Language Program) Faculty of Economics,Thammasat University,
