สภาโจ๊ก...นวัตกรรมการสร้างสาระบันเทิงทางการเมือง

Main Article Content

พนม ปีย์เจริญ

บทคัดย่อ

การวิจัยนี้มีวตั ถปุ ระสงค์เพื่อ ศึกษาปัจจยั ทีม่ คี วามสมั พนั ธ์กับการดำรงอย่ขู องรายการสภาโจ๊ก...นวัตกรรม
การสร้างสาระบันเทิงทางการเมือง โดยได้ทำการศึกษาวิจัยผ่านกรอบแนวคิดโดยประยุกต์ใช้กรอบแนวความคิด
การสื่อสารตามพื้นฐาน S-M-C-R: (S-Sender, M- Message, C-Channel, R-Receiver) ของเดวิด เค เบอร์
โล (Berlo, 1960). ซึ่งเป็นการวิจัยเชิงคุณภาพผสมกับการวิจัยเชิงปริมาณ กลุ่มตัวอย่างได้แก่ประชาชนที่มีอายุ 18
ปีขึ้นไป ที่พักอาศัยอยู่ในกรุงเทพมหานคร จำนวน 1,688 คน และนักวิชาการ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสื่อสารมวลชน
สาขารายการโทรทัศน์ 8 คน ผู้ผลิตและผู้เชียวชาญด้านสาระบันเทิง 8 คน ผู้ร่วมรายการสภาโจ๊ก 18 คน เครื่อง
มือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลได้แก่แบบสอบถาม และการสัมภาษณ์เชิงลึก การตรวจสอบข้อมูลเชิงคุณภาพใช้
วิธีตรวจสอบข้อมูลแบบสามเส้า (Triangulation) โดยพิจารณาจากแหล่งข้อมูลบุคคลที่แตกต่างกัน 3 กลุ่ม ดังกล่าว
หากได้ข้อมูลที่เหมือนกันแสดงว่าข้อมูลน่าเชื่อถือได้ การวิจัยเชิงปริมาณวิเคราะห์ข้อมูลด้วยเชิงสถิติค่าร้อยละและค่าความถี่
ผลการวิจัยพบว่า ปัจจัยด้านรูปแบบรายการ ด้านผู้ดำเนินรายการและผู้ร่วมรายการ ด้านเนื้อหาสาระ
ของรายการ ด้านประโยชน์ต่อการพัฒนาในระบอบประชาธิปไตย ด้านกลยุทธ์การบริหารจัดการมีความสัมพันธ์กับ
การดำรงอยู่ของรายการสภาโจ๊ก จากการวิจัยยังพบอีกว่าปัจจัยที่สัมพันธ์กับการพัฒนารายการสภาโจ๊กได้แก่ ปัจจัย
ด้านรูปแบบรายการที่มีความแปลกแตกต่างจากรายการสาระบันเทิงโดยทั่วไป ด้านผู้ดำเนินรายการ ผู้ร่วมรายการ
และเนื้อหาสาระของรายการด้วยการนำเสนอข้อมูลข่าวสารทางการเมือง เศรษฐกิจสังคมที่เป็นสาระหนักมีความ
ตึงเครียด มาทำให้เป็นสาระบันเทิงที่สนุกสนานน่าติดตามสอดคล้องกับอัตลักษณ์ของคนไทย

Article Details

ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

กาญจนา แก้วเทพ. (2545). ทฤษฎีและแนวทางการศึกษา.กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์ศาลาแดง.
จินตนา บุญบงการ และ ณัฏฐพันธ์ เขจรนันทน์. (2544). การจัดการเชิงกลยุทธ์. กรุงเทพมหานคร: ซีเอ็ดยูเคชั่น.
จิราภรณ์ เจริญเดช. ( 2548 ). การแปลงสิทธิอำนาจตามรายการวิทยุนายก ฯ ทักษิณ คุยกับประชาชน ศึกษากรณี
วิกฤตความรุนแรง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้. วารสารศาสตร์มหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์,กรุงเทพมหานคร.
ฐิตินัน บุญภาพ. (2542). วิสัยทัศน์โทรทัศน์ไทย หลังปี ค.ศ.2000 (พ.ศ. 2543-2568). วิทยานิพนธ์ วารสารศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาสื่อสารมวลชน บัณฑิตวิทยาลัยมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
นันทนา นันทวโรภาส. (2548). การสื่อสารทางการเมือง : ศึกษากรณี การรณรงค์ หาเสียงเลือกตั้งทั่วไปของพรรคไทยรักไทย. ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, กรุงเทพมหานคร.
นันทิยา หุตานุวัตร และ ณรงค์ หุตานุวัตร. (2542). SWOT การวางแผนกลยุทธ์ ธุรกิจชุมชน. ฝ่ายผลิตและบริการเอกสาร สำนักวิทยบริการ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี.
นิวัติ โชติวงษ์. (2544). เครื่องมือและแนวคิดทางการบริหารจัดการเชิงกลยุทธ์. กรุงเทพมหานคร: รอยัลเพรสแอนแพค.
บุญเลิศ เย็นคงคา. (2547). การจัดการเชิงกลยุทธ์. กรุงเทพ: วี.เจ.พริ้นติ้ง.
ประยุทธ วรรณอุดม และ มงคล คำดวง. (2547) . ศักยภาพและกลยุทธ์การสื่อสารเพื่อการพัฒนา
ท้องถิ่นแบบสาระบันเทิงของหมอลำ. สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย , กรุงเทพมหานคร.
ปาริชาต สถาปิตานนท์ สโรบล, กิตติ กันภัย, กาญจนา แก้วเทพ. (2543). มองสื่อใหม่ มองสังคมใหม่.คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย , กรุงเทพมหานคร .
พัทธนันท์ เด็ดแก้ว. (2544). การศึกษาเปรียบเทียบการรับชมรายการโทรทัศน์ประเภทสาระความรู้และสาระบันเทิง
การจดจำได้ และการนำไปใช้ประโยชน์. นิเทศศาสตร์มหาบัณฑิต, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, กรุงเทพมหานคร.
ภูมิพลอดุลยเดชมหาราช, พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหา. (2518). พระราชดำรัส. ค้นเมื่อ 7เมษายน 2553, จาก http://www.siamtv.us/detail/tv5history.html),http://www1.mod.go.th/opsd/dstcweb/gst/img/S9.pdf
สมชาย ภคภาสวิวัฒน์. (2548). การบริหารเชิงกลยุทธ์.กรุงเทพ: อมรินทร์.
สมยศ นาวีการ. (2543). การบริหารเชิงกลยุทธ์และนโยบายธุรกิจ. กรุงเทพมหานคร: บรรณกิจ
สุรพงษ์ โสธนะเสถียร. (2545). หลักและทฤษฎีการวิจัยทางสังคมศาสตร์. กรุงเทพมหานคร: ประสิทธิภัณฑ์แอนด์พริ้นติ้ง.
สุรพล วิรุฬหรักษ์, เจนภพ จบกระบวนวรรณ, และบุญเลิศ นาจพินิจ. (2539). ลิเก. สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ, กรุงเทพ.ฯ
เสถียร เชยประดับ. (2551). การสื่อสารการเมือง และประชาธิปไตยในสังคมพัฒนาแล้ว . กรุงเทพมหานคร:จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, กรุงเทพมหานคร.
Bandura, A. (1977). Social learning theory. Englewood Cliffs, NJ: Prentice-Hall.
Berlo, D. K. (1960). The process of communication: An introduction to theory and practice.
New York: Holt, Rinehart and Winston,
Kaid, L. L., Gerstlé, J. & Sanders, K. R. (Eds.). (1991). Mediated politics in two cultures: Presidential
campaigning in the United States and France. New York: Praeger.
Martilla, J. & James, J. (1977). ‘Importance-performance analysis’. Journal of Marketing, 41(1), 77-79.
Mc Quail, D. (1986). Diversity in political communication: Its sources, forms and future. In P. Golding,
G. Murdock & P. Schlesinger (Eds.), Communicating politics: Mass communications and the
political process (133-149). Leicester: Leicester University Press.
Mc Nair, B. (1999). An introduction to political communication. New York: Rout ledge
Singhal , A., & Rogers, E. M. (1999). Entertainment-Education: A Communication Strategy for Social
Change. Mahwah, NJ: Lawrence Erlbaum Associates
Singhal, A., Cody, M. J., Rogers E. M., & Sabido, M. (Eds.). (2004). Entertainment-Education and social
change. New Jersey: Lawrence Erlbaum associates.