การเพิ่มคุณค่าผลผลิตน้ํานมของโคนมสาวโดยใช้วิธีการเลี้ยงแบบแยกฝูง
Article Sidebar
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงทดลอง มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาและเปรียบเทียบผลผลิตน้ํานม พฤติกรรม การกินอาหารโดยรวม ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อผลผลิตปริมาณน้ํานม สมการถดถอยสําหรับการทํานายปริมาณน้ํานม และ รายได้เชิงธุรกิจที่ได้จากผลผลิตน้ํานมของโคนมสาวท้องแรกระหว่างกลุ่มที่เลี้ยงแบบแยกฝูง (กลุ่มทดลอง) จํานวน 24 ตัว และ กลุ่มที่เลี้ยงแบบรวมฝูง (กลุ่มควบคุม) จํานวน 24 ตัว โดยใช้เวลาในการทดลอง 8 สัปดาห์ ข้อมูลที่ได้จากการทดลองถูกนําไปวิเคราะห์ด้วยค่าสถิติได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่าที่แบบ One Sample t-test และ Independent Sample t-test การคํานวณสมการถดถอยเชิงเส้นตรง และ การอิน ทิกรัลเพื่อคํานวณค่าปริมาณน้ํานมใน 307 วัน ส่วนข้อมูลจากแบบสอบถาม สถิติที่ใช้คือสหสัมพันธ์ถดถอยพหุคูณ แบบสเต็ปไวซ์ ผลการวิจัยพบว่า 1) ในสัปดาห์แรก กลุ่มโคนมสาวที่เลี้ยงแบบแยกฝูง กับ ที่เลี้ยงแบบรวมฝูง ให้ ผลผลิตน้ํานมไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสําคัญที่ระดับ .05 2) ในช่วงสัปดาห์ที่ 2-8 กลุ่มโคนมที่เลี้ยงแบบแยกฝูงให้ ปริมาณน้ํานมสูงกว่ากลุ่มที่เลี้ยงแบบรวมฝูงอย่างมีนัยสําคัญที่ระดับ .05 3) ในช่วง 8 สัปดาห์ กลุ่มโคสาวที่เลี้ยงด้วย วิธีแยกฝูงให้ผลผลิตน้ํานมโดยเฉลี่ยเท่ากับ 17.23 กิโลกรัม/วัน/ตัว ส่วนกลุ่มที่เลี้ยงแบบแยกฝูงให้น้ํานมโดยเฉลี่ย เท่ากับ 14.66 กิโลกรัม/วัน/ตัว และพบว่า กลุ่มที่เลี้ยงด้วยวิธีแยกฝูงให้ปริมาณน้ํานมสูงกว่ากลุ่มที่เลี้ยงแบบรวมฝูง ร้อยละ 17.53 และเมื่อเปรียบเทียบกับเกณฑ์ร้อยละ 10 ที่ตั้งไว้ อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ .05 4) ในช่วงการ ทดลอง 8 สัปดาห์ กลุ่มโคนมสาวที่เลี้ยงแบบแยกฝูงมีพฤติกรรมการกินอาหารโดยรวมสูงกว่ากลุ่มโคนมสาวที่เลี้ยง แบบแยกฝูงอย่างมีนัยสําคัญที่ระดับ .05 5) จากการทดสอบที่ระดับความเชื่อมั่น 95% พบว่า ผลผลิตปริมาณน้ํานม ของกลุ่มโคสาวที่เลี้ยงแบบแยกฝูงจะมีปริมาณเพิ่มขึ้น ถ้าอุณหภูมิในบริเวณที่เลี้ยงนั้นลดต่ําลง และ มีการเอาใจใส่ ดูแลเป็นอย่างดี 6) สมการถดถอยเชิงเส้นตรง (Linear Regression Equation) สําหรับใช้ในการคํานวณปริมาณ ผลผลิตน้ํานมของโคนมสาวที่เลี้ยงแบบแยกฝูงในรอบปีการให้น้ํานม (307 วัน) จากการทดลองและยังไม่มีการ พิจารณาปัจจัยอื่นๆ ประกอบคือ y = -0.02x + 17.23 (เมื่อ y = ปริมาณผลผลิตน้ํานมรวม และ X = จํานวนวันที่ ให้นม] 7) โคสาวท้องแรกที่เลี้ยงแบบแยกฝูง ในรอบปีการให้นม (307 วัน) สามารถสร้างรายได้โดยเฉลี่ย 73,609 บาทต่อตัว ในขณะเดียวกันโคสาวที่เลี้ยงด้วยวิธีรวมฝูง สร้างรายได้โดยเฉลี่ย 61,095 บาทต่อตัว นอกจากนี้ยังพบว่า โคสาวที่เลี้ยงด้วยวิธีแยกฝูง สามารถสร้างรายได้สูงกว่ากลุ่มที่เลี้ยงด้วยวิธีรวมฝูงมากถึงร้อยละ 20.50 ต่อตัว
Article Details
บทความที่ปรากฏในวารสารนี้ เป็นความรับผิดชอบของผู้เขียน ซึ่งสมาคมนักวิจัยไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยเสมอไป การนำเสนอผลงานวิจัยและบทความในวารสารนี้ไปเผยแพร่สามารถกระทำได้ โดยระบุแหล่งอ้างอิงจาก "วารสารสมาคมนักวิจัย"
เอกสารอ้างอิง
Albright, J. L. (1978). Social consideration in grouping cows in large dairy herd management. In C.J.
Wilcox & H.H. Van Horn, (edn.). pp. 757-779. Gainesville, Florida: University Press of Florida.
__(1993). “Feeding behavior of dairy cattle.” Journal of Dairy Science. 76, 485-498.
Bolton, K. (2010). Economic of lactating dairy cow grouping strategies. Wisconsin: University of Wisconsin- Extension, Cooperative Extension Center for Dairy Profitability.
Coppock, C. E. (1977). "Feeding methods and grouping systems.” Journal Dairy Science, 60, 1327 -1336.
Dado, R. (1994). “Nutrition,” Journal of Dairy Science. 77, 132 - 144. De Vries, T. J, & Von
Keyserlingk, M. A. G. (2006). “Feed stalls affect the social and feeding behavior of lactating dairy cows.” Journal of Dairy Science, 89(9), 3522-31.
Earleywine, T. J. (2001). Profitable dietary grain concentrations and grouping strategies in dairy herds. Ph.D. Dissertation, University of Wisconsin - Madison. Food and Agriculture Organization. (2011). FAOSTAT. “Food outlook 2011.” Retrieved August 20, 2011,
from http://www. fao.org/ Gabriella A. Varga. (2003). “Do we need two closed up dry cow groups?” Advances in Dairy Technology, 15, 331.
Grant, R. J., & Albright, J. L. (1997). Dry matter intake as effecting by cow-grouping and behavior. In Proceedings of the 58th Minnesota Nutrition Conference, pp. 93-103, Bloomington, Min nesota: University of Minnesota.
Grant, R. J., & Albright, J. L. (2000). “Feeding behavior.” Farm Animal Metabolism and Nutrition: J.P.F.D = Mello, ed., Wallingford, Oxon, UK: CABI.
Grant, R. J., & Albright, J. L. (2001). Effect of animal grouping on feeding behavior and intake of dairy cattle. Journal Dairy Science 84, E156-E163.
Hasegawa, N., Nishiwaki, A., & Sugawara, K. (1997). “The effect of social exchange between two groups of lactating primiparous heifers on milk production, dominance order, behavior, and adrenocortical response.” Applied Animal Behavior Science.” 51, 15 – 27.
Nordlund, K., Cook, N. & Oetgel, G. (2006) Commingling dairy cows: Pen moves, stocking density, and health. Madison, Wisconsin: Department of Medical Sciences, School of Veterinary Medicine, University of Wisconsin.
McGilliard, M.L., Swisher, J.M., & James, R.E. (1983). “Grouping lactating cows by nutritional Requirements". Journal Dairy Science, 66, 1084-1093.
Cook, N. B., Nordlund, K. N. & Oetgel, G. R. (2004). Solving fresh cow problem: The importance of cow behavior, Page 248-253 In proceedings of 8th Dairy Symposium of the Ontario large herd Operators, March 9-11, London, Ontario
Olofsson, J. (1999). “Competition for total mixed diets fed for, adlibitum intake.” Journal Dairy Science, 82, 69 - 79.
Ostergaard S., Thomson P. T., (2010). “Separate housing for one month after calving improves production and health in primiparous cows but not in multiparous cows.” Journal Dairy Science, 93(8), 3535-3541.
Phillips C. S., Rind M. I. (2001). “The effects on production and behavior of mixing uniparous and multiparous cows.” Journal Dairy Science, 84, 2424-2429.
