การศึกษาสถานภาพ และการสังเคราะห์งานวิจัยสาขาวิชาอาชญาวิทยา และการบังคับใช้กฎหมาย
Article Sidebar
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้เป็นการสังเคราะห์งานวิจัยจากงานวิจัยที่ทำการศึกษาวิจัยในประเทศไทยเกี่ยวข้องกับอาชญาวิทยา และการบังคับใช้กฎหมาย โดยดำเนินการตีพิมพ์ และเผยแพร่ในวารสารวิชาการที่อยู่ในฐานข้อมูลวารสารวิชาการทั้งระดับชาติ และระดับนานาชาติระหว่าง ปี พ.ศ.2550-2564 โดยมีเกณฑ์ในการพิจารณาสืบค้นจากคำสำคัญในขอบเขตของสาขาวิชาการ อาชญาวิทยา และการบังคับใช้กฎหมาย โดยมีวัตถุประสงค์ 1)เพื่อวิเคราะห์ และสังเคราะห์การศึกษาวิจัยในสาขาอาชญาวิทยา และการบังคับใช้กฎหมาย ใช้วิธีการดำเนินการวิจัย รวมทั้งผลการศึกษาของการวิจัย องค์ประกอบของอาชญากรรม และการบังคับใช้กฎหมาย 1) ผู้เสียหาย จำนวน 102 เรื่อง และเหยื่ออาชญากรรม 70. เรื่อง ผู้กระทำผิด จำนวน 1,089 เรื่อง และโดยการสืบค้นจาก คำสำคัญ (key word terms) ตามหัวข้อที่กำหนดโดย the Academy of Criminal Justice Sciences (ACJS) ประจำปี 2022 พบว่าหัวข้อที่ขาดหายไปจากงานวิจัยในประเทศไทยที่มีการเผยแพร่ในวารสารวิชาการ ได้แก่ หัวข้อที่เกี่ยวกับ Theories of Crime and Criminality ซึ่งเป็นหัวข้อที่สนใจในการทดสอบ และพัฒนาทฤษฎีที่อธิบายสาเหตุและปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรม และพฤติกรรมที่ผิดกฎหมาย และหัวข้อ Correlates of Crime and Victimization ซึ่งเป็นหัวข้อที่สนใจความสัมพันธ์ของอาชญากรรม และการตกเป็นเหยื่ออาชญากรรม ข้อค้นพบ มีการนำผลงานวิจัยไปใช้ในเชิงนโยบายในการร่างกฎหมายต่าง ๆ รวมทั้งมาตรการที่จะออกมาใช้พบว่าต้องมีการทำงานวิจัยรองรับเสมอ การของบประมาณของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการบังคับใช้กฎหมาย ต้องใช้รูปแบบการวิจัยเพื่อประเมินผลการดำเนิน นอกจากนี้มีการเผยแพร่งานวิจัยเป็นไปตามเกณฑ์ของสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา และเป็นตัวชี้วัดตามมาตรฐานภาระงานของอาจารย์ตามผลงานทางวิชาการ
Article Details
อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ปรากฏในวารสารนี้ เป็นความรับผิดชอบของผู้เขียน ซึ่งสมาคมนักวิจัยไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยเสมอไป การนำเสนอผลงานวิจัยและบทความในวารสารนี้ไปเผยแพร่สามารถกระทำได้ โดยระบุแหล่งอ้างอิงจาก "วารสารสมาคมนักวิจัย"
เอกสารอ้างอิง
จีรวัฒน์ ธนทัตพงศา และเสกสัณ เครือคำ. (2563). การบริหารจัดการเกี่ยวกับการบังคับใช้กฎหมายของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับน้ำมันเชื้อเพลิงในพื้นที่ภาคตะวันออกของประเทศไทย, วารสารกระบวนการยุติธรรม,13(1), 37-55.
ปาณิภา สุขสม. (2558). แนวคิดทางสังคมวิทยากับการศึกษาอาชญากรรม, วารสาร มจร สังคมศาสตร์ปริทรรศน์, 3(4), 293-306.
พรชัย ขันตี. (2553). ทฤษฎีอาชญาวิทยา: หลักการ งานวิจัยและนโยบายประยุกต์, กรุงเทพมหานคร: สุเนตร์ฟิล์ม.
สุภาพ วัยนิพิฐพงศ. (2542). การมีส่วนร่วมของสมาชิกแจ้งข่าวอาชญากรรมในการป้องกันอาชญากรรมในเขตจังหวัดนครปฐม. วิทยานิพนธ์รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยราชภัฎนครปฐม.
สำนักงานยุติธรรม. (2553).ประมวลกฎหมายอาญา, (กรุงเทพมหานคร. : บริษัทไชโย เอเอ จํากัด
Bentham J. (1990). Securities against Misrule and other Constitutional Writings for Tripoli and Greece, ed. Schofield P. Oxford: Clarendon Press.
Garofalo, R. (1947). The Psychoanalytic Approach to Juvenile Deliquency .London: kegan Paul.
J.W. Coleman et all. (2002). Social Problems, (New York: Longman.
Translates in Thai Reference
Office of Justice. (2010). Criminal Code, (Bangkok: Chaiyo AA Company Limited.
Suksom P. (2010). Sociological Concept and Crime Study, Journal of MCU Social Science Review, 3(4), 293-306 (in thai).
Thanathatphongsa J. & Khruakham S. (2020). Law Enforcing Management for Police Officers to Prevent and Suppress the Fuel-related-Offenses in the Eastern Region of Thailand, Journal of Thai Justice System, 13(1), 37-55 (in thai).
Wainipitphong, S. (1999). Participation of crime informants in crime prevention in Nakhon Pathom Province. Master of Public Administration Thesis Nakhon Pathom Rajabhat University. (in thai).
