พฤติกรรมการเปิดรับสื่อและความเข้าใจต่อพระราชบัญญัติคุ้มครอง ข้อมูลส่วนบุคคลของการประชาสัมพันธ์ สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี
Article Sidebar
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อศึกษาพฤติกรรมการเปิดรับสื่อของประชาชนที่มีต่อการประชาสัมพันธ์ของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีว่าเข้าถึงข้อมูลหรือไม่ ศึกษาทัศนคติของประชาชนที่มีต่อกฎหมายพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและแนวทางการประชาสัมพันธ์ของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เป็นการวิจัยเชิงสำรวจ ศึกษาจากกลุ่มตัวอย่างผู้ที่อยู่ในเขตกรุงเทพฯ จำนวน 405 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูป เพื่อหาค่าเฉลี่ย ร้อยละ ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่า ANOVA ผลการวิจัยพบว่า เป็นเพศชายอายุ 13-23 อาชีพ นักเรียน,นักศึกษา พฤติกรรมการเปิดรับสื่อพบว่าความถี่ในการเปิดรับสื่อ1-5ชั่วโมง จากสื่อ Page Facebook เปิดรับข่าวสารเกี่ยวกับพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลจากสื่อ Page Facebook มีช่องทางในการรับข่าวสารผ่านทางโซเชียลเน็ตเวิร์คทั่วไป โดยมีความถี่ในการเปิดรับข่าวสารเกี่ยวกับพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล 1 ครั้งต่อสัปดาห์ และมีความคิดเห็นว่า เห็นด้วยกับพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ทัศนคติและความเข้าใจในการประชาสัมพันธ์ของพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลพบว่าค่าเฉลี่ยรวม 3.69 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.93 อยู่ในระดับมากคือการคุ้มครองข้อมูลต่างๆของตัวบุคคล รองลงมาเรื่องการปฏิบัติตามกฎหมายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และการเห็นด้วยกับกฎหมายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ความพึงพอใจจากการเปิดรับสื่อประชาสัมพันธ์ อันดับแรกคือ ความพึงพอใจต่อความสะดวกในการค้นหา รองลงมาคือความทันสมัยของเนื้อหา อันดับ 3 คือ ปริมาณของเนื้อหาในภาพรวมจะมีค่าเฉลี่ยรวม 3.60 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.97 หมายถึง มาก
Article Details
อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ปรากฏในวารสารนี้ เป็นความรับผิดชอบของผู้เขียน ซึ่งสมาคมนักวิจัยไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยเสมอไป การนำเสนอผลงานวิจัยและบทความในวารสารนี้ไปเผยแพร่สามารถกระทำได้ โดยระบุแหล่งอ้างอิงจาก "วารสารสมาคมนักวิจัย"
เอกสารอ้างอิง
กิตติยา เด่นชัย. (2557). พฤติกรรมการใช้และการรับรู้ข้อมูลผ่านสื่อสังคมออนไลน์ที่มีผลต่อการตัดสินใจเลือกแหล่งท่องเที่ยวและสถานที่พักของนักท่องเที่ยวชาวไทยในเมืองพัทยา(ศศม.)สาขาวิชาการจัดการอุตสาหกรรมบริการและการท่องเที่ยว.มหาวิทยาลัยกรุงเทพ.
กัณฑ์พร กรรณสูตร. (2553). การรับรู้ โครงการประชาสัมพันธ์นโยบายเรียนฟรี 15 ปี ของรัฐบาล: กรณีศึกษาผู้ปกครองนักเรียนในโรงเรียนอาชีวศึกษาเอกชนจังหวัดสมุทรปราการ.วารสารศาสตรมหาบัณฑิต (การจัดการสื่อสารองค์กร)คณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
จิรายุทธ์ สนดา. (2559). ภาพลักษณ์ของการท่องเที่ยวและการรับรู้การประชาสัมพันธ์ทางการตลาดที่ส่งผลต่อการกลับมาเที่ยวซ้ำของนักท่องเที่ยวไทยในจังหวัดจันทบุรี. (บธ.ม.)บัณฑิตวิทยาลัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ.
ณพงศ์ รัตนพรสุวรรณ. (2023). ความรู้ความเข้าใจของกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของประชาชนในเขตกรุงเทพมหานคร.วารสาร Roi Kaensarn Academi 8(9) (2023). 200-208.
ปรมะ สตะเวทิน. (2546). หลักนิเทศศาสตร์. (พิมพ์ครั้งที่ 10). กรุงเทพฯ : ภาพพิมพ์.
พรทิพย์ วรกิจโภคาทร. (2546). การวิจัยเพื่อการประชาสัมพันธ์.กรุงเทพฯ:โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.
รัตนาวดี ศิริทองถาวร. (2546). การประชาสัมพันธ์ธุรกิจ.กรุงเทพฯ:สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
สิริวรรณ ประสิทธิ์ศักดิ์. (2547). การเปิดรับ การรับรู้และความคิดเห็นของประชาชนในเขตกรุงเทพมหานครที่มีต่อภาพยนตร์โฆษณาชุด “คิด-เพื่ออนาคต”ของเครือซิเมนต์ไทย.วารสารศาสตรมหาบัณฑิต (การบริหารสื่อสารมวลชน). คณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน.มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
สำนักบริหารทะเบียน กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย.(ออนไลน์). (2565). สถิติประชากรกรุงเทพมหานคร.สืบค้นจาก https://stat.bora.dopa.go.th/new_stat/file/63/stat_c63.xlsx [12 มิถุนายน 2566]
Klapper, Joseph T. (1960). The Effect of Mass Communication. New York: The Free Press.
PDPA.PRO (ออนไลน์). (2566). สรุปPDPAพร้อมแนะแนวทาง. สืบค้นจาก https://pdpa.pro/blogs [6 มิถุนายน 2566]
Schramm, W. (1973). Channels and Audiences. In Handbook of communication. Chicago: Rand Mcnally College Publishing.
Translate Thai Reference.
Denchai. K. (2014). Behavior in using and perceiving information through social media that affect the decision making in choosing tourist attractions and accommodation of Thai tourists in Pattaya (M.A.) Department of Service Industry and Tourism Management. Bangkok University.
Kanchanasut. K. (2010). Perception of the government's 15-year free education policy public relations project: A case study of parents of students in private vocational schools in Samut Prakan Province. Master of Journalism (Organizational Communication Management), Faculty of Journalism and Mass Communication, Thammasat University.
Office of the Registrar, Department of Provincial Administration, Ministry of Interior. (Online). (2022). Population statistics of Bangkok. Retrieved from https://stat.bora.dopa.go.th/new_stat/file/63/stat_c63.xlsx [12 June 2023]
Prasitsak. S. (2004). The reception, awareness and opinions of people in Bangkok towards the advertisement film series "Think-for-the-Future" of Siam Cement Group. Master of Journalism (Mass Communication Management). Faculty of Journalism and Mass Communication. Thammasat University.
Rattanapornsuwan. N.( 2023). Knowledge and understanding of personal data protection laws of citizens in Bangkok. Roi Kaensarn Academi Journal 8(9) (2023). 200-208.
Satawetin. P. (2003). Principles of Communication Arts. (10th ed.). Bangkok: Image Printing.
Sirithongthawon R. (2003). Business public relations. Bangkok: Chulalongkorn University Press.
Sonada. J. (2016). Tourism image and marketing public relations perception that affect the repeat visits of Thai tourists in Chanthaburi Province. (M.B.A.) Graduate School, Bangkok University.
Worakitphokathon. P. (2003). Research for public relations. Bangkok: Kasetsart University Printing House.
