การจัดการปัญหาราคาผลไม้ตกต่ำในพื้นที่ภาคตะวันออก
Main Article Content
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาสภาพปัญหาราคาผลไม้ตกต่ำในพื้นที่ภาคตะวันออก (2) ศึกษาปัญหาใน การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาสภาพปัญหาราคาผลไม้ตกต่ำในพื้นที่ภาคตะวันออก (2) ศึกษาปัญหาในการดำเนินการนโยบายของภาครัฐในการแก้ไขปัญหาราคาผลไม้ตกต่ำ และ (3) ศึกษาแนวทางการจัดการปัญหาราคาผลไม้ตกต่ำในพื้นที่ภาคตะวันออก โดยใช้การวิจัยเชิงคุณภาพ ด้วยวิธีการสัมภาษณ์แบบเชิงลึก จากกลุ่มผู้ให้ข้อมูลสำคัญจำนวน 27 คน จากสำนักงานเกษตรจังหวัด หอการค้าจังหวัด ผู้นำท้องถิ่น เกษตรกร และพ่อค้าคนกลาง ใช้การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพด้วยวิธีการจำแนกข้อมูล ผลการศึกษา พบว่า (1) ด้านสภาพปัญหาราคาผลไม้ตกต่ำ มีสาเหตุมาจาก การกระจุกตัวของผลไม้ คุณภาพสินค้า ต้นทุนการผลิต สภาพภูมิอากาศ ปริมาณผลผลิตและความต้องการ และ การกำหนดราคาของพ่อค้าคนกลาง (2) ด้านปัญหาในการดำเนินนโยบายของภาครัฐในการแก้ไขปัญหาราคาผลไม้ตกต่ำ มาจาก 2.1) ภาครัฐขาดการวางแผนในระยะยาว 2.2) ภาครัฐมีกฎระเบียบที่ซับซ้อนทำให้เกิดการล่าช้า และ 2.3) การทำงานร่วมกันและความสัมพันธ์ระหว่างองค์กรที่เกี่ยวข้อง (3) ด้านแนวทางการจัดการราคาผลไม้ตกต่ำ มีวิธีการ ดังนี้ 3.1) ด้านการผลิต เกษตรกรต้องผลิตสินค้าที่มีคุณภาพตรงต่อความต้องการของตลาดด้วยการจัดการคุณภาพด้วยหลักการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี (GAP) และมีการรวมกลุ่มของเกษตรกร 3.2) ด้านการตลาด ควรเพิ่มช่องทางการขายผลผลิตผ่านช่องทางออนไลน์ พร้อมนำนวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ที่คงสภาพความสดของผลผลิตเพื่อการส่งออกมาใช้ 3.3) ด้านการแปรรูป เป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลผลิต อาทิ ทุเรียนผง ที่สามารถนำเอามาขึ้นรูปใหม่ได้รวมทั้งการแช่แข็งผลในรูปผลสดและแบบแกะเนื้อแล้วเพื่อการส่งออก รวมถึงการทำอบแห้ง และ 3.4) ด้านการกระจายสินค้า พัฒนาระบบบริการโลจิสติกส์ที่รวดเร็วครบวงจรตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง เพื่อรักษาคุณภาพของผลผลิตให้คงความสดใหม่ ลดความเสียหายของผลผลิต ลดระยะเวลาในการขนส่ง
Article Details
- ผู้เขียนต้องยินยอมปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กองบรรณาธิการวารสารกำหนด และผู้เขียนต้องยินยอมให้บรรณาธิการ แก้ไขความสมบูรณ์ของบทความได้ในขั้นตอนสุดท้ายก่อนเผยแพร่
- ลิขสิทธิ์บทความเป็นของผู้เขียน แต่วารสารเทคโนโลยีภาคใต้คงไว้ซึ่งสิทธิ์ในการตีพิมพ์ครั้งแรก โดยเหตุที่บทความนี้ปรากฏในวารสารที่เข้าถึงได้จึงอนุญาตให้นำบทความไปใช้เพื่อประโยชน์ทางการศึกษา แต่มิใช่เพื่อการพาณิชย์
เอกสารอ้างอิง
Charutwinyo, P., & Charutwinyo, C. (2018). Farmer’s problem and solution model in Thailand. Journal of Community Development and Life Quality, 6(1), 153-162. [in Thai]
Committee on Agricultural and Cooperative of Senate. (2008). Guidelines for Sustainable Thai Fruit Development: Case Study of Durian, Rambutan, Mangosteen and Southern Langsat. Committee 1: The Secretarial of The Senate. [in Thai]
Janthong, N., & Sakkatat, P. (2016). Good agricultural practices adoption of mango’s farmer at Samko District, Angthong Province. Journal of Agriculture, 32(1), 19-27. [in Thai]
Kanta, T., Funkhiaw. A., Onched, P., Prewkoo, C., Buadee, N., Gindapat, K., Yotweerapong, P., Wongnoi, R., & Chaikaew, O. (2014). Agribusiness development in the borderdistricts in Tak. Journal of Graduate Studies in Northern Rajabhat Universities, 4(7), 1-10. [in Thai]
Khermkhan, J., & Mankeb, P. (2017). A comparison of cost and return between fruit farm only and agro tourism. Burapha Journal of Business Management, 6(2), 43-55. [in Thai]
Kumbon, P. (2011). Management of Mangosteen in Eastern: Case Study: Trok Nong’s Mangosteen Quality Improvement Group, Trok Nong District in Chantaburi. Bangkok: Bank for Agriculture and Agricultural Cooperatives Research Center. [in Thai]
Office of Agricultural Economics. (2017). Agricultural Statistics, Rambutan, Durian and Mangosteen. Retrieved June 15, 2018, from https:/www.edoae.doae.go.th/ data%20fruit%20210617_1.pdf. [in Thai]
Rattanakhantichai, C. (2012). Farmers’ Opinions on Solving the Problem of Product Prices Decline of Trat Province Office of Agriculture and Cooperatives. M.P.A. Independent Study, Burapha University. [in Thai]
Wasusirikul, P., & Stasiewski, R. (2016). Growing of china online shopping markets. Rajamangala University of Technology Krungthep Research Journal, 10(2), 9-20. [in Thai]
Yossuk, P., & Kawichai, P. (2017). Problems and appropriate approaches to implementing organic agriculture policy in Thailand. Journal of Community Development and Life Quality, 5(1), 129-141. [in Thai]