รูปแบบการจัดการเรียนการสอนที่ส่งเสริมทักษะการคิดโดยใช้แผนผังความคิด สำหรับนักศึกษาคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฎ
Main Article Content
บทคัดย่อ
การจัดการเรียนการสอนในปัจจุบัน พบว่า นักศึกษาไม่สามารถนำความรู้มาเชื่อมโยงกับทักษะการแก้ปัญหาได้ เมื่อ การจัดการเรียนการสอนในปัจจุบัน พบว่า นักศึกษาไม่สามารถนำความรู้มาเชื่อมโยงกับทักษะการแก้ปัญหาได้ เมื่อวิเคราะห์การจัดการเรียนการสอนโดยใช้แผนผังความคิด พบว่า การเรียนการสอนเป็นการส่งเสริมทักษะการคิดพื้นฐานในการเรียนรู้มากกว่าทักษะการคิดระดับสูง เพื่อการแก้ปัญหา ซึ่งทักษะการคิดเหล่านี้นักศึกษามีไม่เพียงพอกับการใช้ชีวิตในสังคมศตวรรษที่ 21 ที่ต้องการทักษะการคิดระดับสูงมากกว่าทักษะการคิดพื้นฐานมาใช้ในแก้ปัญหาที่ซับซ้อนหลายมิติ การนำเสนอ รูปแบบการจัดการเรียนการสอนที่ส่งเสริมทักษะการคิดโดยใช้แผนผังความคิด สำหรับนักศึกษาคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฎ มีวัตถุประสงค์เพื่อ ให้ครูผู้สอนนำเทคนิค วิธีการใช้รูปแบบที่พัฒนาขึ้นมาใช้ในการจัดการเรียนการสอนได้ โดยรูปแบบนี้พัฒนาขึ้นตามแนวคิดที่เกี่ยวข้องกับทักษะการคิด แนวคิดที่เกี่ยวข้องกับแผนผังความคิด และทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับการเรียนรู้ต่าง ๆ เช่น ทฤษฎีการเรียนรู้ตามแนวคิดคอนสตรัคชันนิซึม หลังจากพัฒนารูปแบบขึ้น ผู้เขียนนำไปจัดการเรียนการสอน โดยนำกิจกรรมการเรียนรู้สู่การปฏิบัติจริงมี 5 ขั้นตอน ประกอบด้วย 1) การเตรียมความพร้อมและทบทวนความรู้เดิม 2) การจัดกิจกรรมกระบวนการทางปัญญา 3) การศึกษารวบรวมข้อมูลและการใช้แหล่งเรียนรู้ที่หลากหลาย 4) การสรุปองค์ความรู้ และ 5) การประเมินผลงาน ตามลำดับ โดยมีเทคนิควิธีการจัดการเรียนการสอนเริ่มจากการวิเคราะห์ผู้เรียน เพื่อการเตรียมความพร้อม โดยครูใช้เกม ข้อคำถาม หรือใช้ข้อสอบก่อนเรียน การจัดกิจกรรมกระบวนการทางปัญญา ประกอบด้วย ครูกำหนดปัญหาที่ท้าทายซับซ้อนและให้นักศึกษาทำความเข้าใจกับปัญหา โดยวิธีการสนทนากลุ่ม และการใช้แผนผังความคิด ถือว่าเป็นกระบวนการส่งเสริมทักษะการคิดระดับสูง การศึกษารวบรวมข้อมูลและการใช้แหล่งเรียนรู้ที่หลากหลาย โดยวิธีการให้นักศึกษาสืบค้นและรวบรวมข้อมูลเพิ่มเติมจากแหล่งเรียนรู้ที่หลากหลายร่วมกัน และนำความรู้มาวิเคราะห์เปรียบเทียบหาข้อสรุปโดยใช้แผนผังความคิด การสรุปองค์ความรู้ โดยวิธีการใช้แผนผังความคิดเชื่อมโยงความรู้ เพื่อการส่งเสริมทักษะการคิดเชื่อมโยงผูกต่อความรู้เข้าด้วยกันให้สัมพันธ์ต่อเนื่อง ง่ายต่อการเข้าใจและนำไปใช้หาข้อสรุปในการแก้ปัญหา และการประเมินผลงาน โดยวิธีการสังเกต หรือสอบถามนักศึกษาระหว่างและหลังการปฏิบัติงาน ซึ่งหลังจากการใช้รูปแบบที่พัฒนาขึ้นก่อให้เกิดประโยชน์ต่อนักศึกษา กล่าวคือ นักศึกษามีทักษะการคิดเชื่อมโยงเกี่ยวกับสิ่งที่ได้ศึกษาในหลายมิติ มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และรับฟังความคิดเห็นกันภายในกลุ่ม มีมุมมองสะท้อนคิดที่สัมพันธ์กับแนวทางในแก้ปัญหาที่หลากหลาย ทำให้นักศึกษาเกิดทักษะการคิดที่ละเอียดรอบคอบเป็นลำดับขั้นตอน รู้จักการวางแผนการปฏิบัติงานและประเมินตนเองในแต่ละขั้นตอนภายหลังได้ ซึ่งถือว่าทักษะเหล่านี้เป็นทักษะการคิดระดับสูง อันจะนำมาซึ่งการพัฒนานักศึกษาคณะครุศาสตร์ให้มีทักษะการคิดระดับสูงตามศักยภาพของตนเอง ต่อไป
Article Details
- ผู้เขียนต้องยินยอมปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กองบรรณาธิการวารสารกำหนด และผู้เขียนต้องยินยอมให้บรรณาธิการ แก้ไขความสมบูรณ์ของบทความได้ในขั้นตอนสุดท้ายก่อนเผยแพร่
- ลิขสิทธิ์บทความเป็นของผู้เขียน แต่วารสารเทคโนโลยีภาคใต้คงไว้ซึ่งสิทธิ์ในการตีพิมพ์ครั้งแรก โดยเหตุที่บทความนี้ปรากฏในวารสารที่เข้าถึงได้จึงอนุญาตให้นำบทความไปใช้เพื่อประโยชน์ทางการศึกษา แต่มิใช่เพื่อการพาณิชย์
เอกสารอ้างอิง
Buzan, T. (1991). Use Both Sides of Your Brain. New York: Penguin Group.
Charoenwongsak, K. (2014). Creative Thinking. (10thed.) Bangkok: Success Media. [in Thai]
Flavell, J.H. (1979). Cognitive Developmental. New Jersey: Prentice-Hall.
Joyce, B., & Weil, M. (1972). Models of Teaching. Englewood Cliffs, N.J.: Prentice-Hall.
Kaemmanee, T. (2015). Teaching Pedagogy: Knowledge of Effective Learning Management. (15th ed.). Bangkok: Chulalongkorn University Press. [in Thai]
Piaget, J. (1993). The Child's Conception of Physical Casualty. New Brunswick, N.J.: Adams Co.