การท่องเที่ยวเพื่อ (คุณภาพ) ชีวิต
Main Article Content
บทคัดย่อ
การท่องเที่ยวเป็นการเดินทางจากที่อยู่อาศัยปกติไปยังที่อื่นเป็นการชั่วคราว เดินทางด้วยความสมัครใจและไม่ใช่เดินทางเพื่อไปประกอบอาชีพและหารายได้ ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยวประเภทใด ถ้านักท่องเที่ยวเกิดความพึงพอใจในการไปเที่ยวแต่ละครั้ง ก็จะส่งผลต่อคุณภาพชีวิตทางบวกทั้งสิ้น ความพึงพอใจในชีวิต การมีความสุขโดยรวมในชีวิต เป็นความพึงพอใจประเภทหนึ่งซึ่งครอบคลุมถึงการมีคุณภาพชีวิตที่ดีหรือมีความรู้สึกโดยรวมของสุขภาวะ ความผาสุกโดยรวมของปัจเจกบุคคล ความพึงพอใจในชีวิตเชิงบวกจะนำไปสู่คุณภาพชีวิตที่ดี คุณภาพชีวิต (QOL) สามารถศึกษาได้ทุกระดับตั้งแต่ปัจเจกบุคคลไปจนถึงประเทศ และแบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่ Objective QOL ใช้เป็นตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจ (รายได้ครัวเรือน ค่าครองชีพ สุขภาพ ฯลฯ) และ Subjective QOL ใช้เป็นตัวชี้วัดทางสังคมศาสตร์ (ความพึงพอใจในชีวิต ความสุข ภาวะสุขกาย สบายใจ คุณภาพชีวิตที่ได้รับ ฯลฯ) คุณภาพชีวิตเป็นผลลัพธ์ที่เกิดจากการบูรณาการด้านกายภาพ จิตใจ และจิตวิญญาณ การใช้ทฤษฎีคุณภาพชีวิตของความพึงพอใจในการเดินทางท่องเที่ยวเพื่อการพักผ่อน ผนวกกับทฤษฎีสุขภาวะ ทฤษฎีความพึงพอใจ และการจำแนกความพึงพอใจของนักท่องเที่ยวจะเป็นประโยชน์ต่อภาพรวมของการท่องเที่ยวในด้านความภักดีของนักท่องเที่ยว การกลับมาเที่ยวซ้ำและการสื่อสารแบบปากต่อปาก คุณภาพชีวิตที่ได้นำเสนอประกอบด้วย 8 มิติ มีความเหมาะสมที่จะใช้ในการพัฒนาต้นแบบการท่องเที่ยวและคุณภาพชีวิต หรือ ถ้าจำเป็นอาจต้องสร้างมิติใหม่ เพื่อการวิจัยการท่องเที่ยวไปในทิศทางการสร้างนวัตกรรมและการสร้างสรรค์ การท่องเที่ยวเป็นการเดินทางจากที่อยู่อาศัยปกติไปยังที่อื่นเป็นการชั่วคราว เดินทางด้วยความสมัครใจและไม่ใช่เดินทางเพื่อไปประกอบอาชีพและหารายได้ ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยวประเภทใด ถ้านักท่องเที่ยวเกิดความพึงพอใจในการไปเที่ยวแต่ละครั้ง ก็จะส่งผลต่อคุณภาพชีวิตทางบวกทั้งสิ้น ความพึงพอใจในชีวิต การมีความสุขโดยรวมในชีวิต เป็นความพึงพอใจประเภทหนึ่งซึ่งครอบคลุมถึงการมีคุณภาพชีวิตที่ดีหรือมีความรู้สึกโดยรวมของสุขภาวะ ความผาสุกโดยรวมของปัจเจกบุคคล ความพึงพอใจในชีวิตเชิงบวกจะนำไปสู่คุณภาพชีวิตที่ดี คุณภาพชีวิต (QOL) สามารถศึกษาได้ทุกระดับตั้งแต่ปัจเจกบุคคลไปจนถึงประเทศ และแบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่ Objective QOL ใช้เป็นตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจ (รายได้ครัวเรือน ค่าครองชีพ สุขภาพ ฯลฯ) และ Subjective QOL ใช้เป็นตัวชี้วัดทางสังคมศาสตร์ (ความพึงพอใจในชีวิต ความสุข ภาวะสุขกาย สบายใจ คุณภาพชีวิตที่ได้รับ ฯลฯ) คุณภาพชีวิตเป็นผลลัพธ์ที่เกิดจากการบูรณาการด้านกายภาพ จิตใจ และจิตวิญญาณ การใช้ทฤษฎีคุณภาพชีวิตของความพึงพอใจในการเดินทางท่องเที่ยวเพื่อการพักผ่อน ผนวกกับทฤษฎีสุขภาวะ ทฤษฎีความพึงพอใจ และการจำแนกความพึงพอใจของนักท่องเที่ยวจะเป็นประโยชน์ต่อภาพรวมของการท่องเที่ยวในด้านความภักดีของนักท่องเที่ยว การกลับมาเที่ยวซ้ำและการสื่อสารแบบปากต่อปาก คุณภาพชีวิตที่ได้นำเสนอประกอบด้วย 8 มิติ มีความเหมาะสมที่จะใช้ในการพัฒนาต้นแบบการท่องเที่ยวและคุณภาพชีวิต หรือ ถ้าจำเป็นอาจต้องสร้างมิติใหม่ เพื่อการวิจัยการท่องเที่ยวไปในทิศทางการสร้างนวัตกรรมและการสร้างสรรค์ บทความนี้มีวัตถุประสงค์ที่จะนำเสนอแนวคิดของการท่องเที่ยวว่า มีความสัมพันธ์และมีผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตและชีวิตโดยรวม การท่องเที่ยวเพื่อคนทั้งมวล ทุกเพศ ทุกวัย ล้วนส่งเสริมให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีและชีวิตที่ดีขึ้น โดยอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว มีจุดหมายไปที่ความต้องการที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ สุขภาวะ เน้นการสร้างผลิตภัณฑ์และการบริการการท่องเที่ยวเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต ดังนั้น การท่องเที่ยวซึ่งเปรียบเสมือนเป็นยาอายุวัฒนะ แค่ได้เปลี่ยนสถานที่ก็ผ่อนคลาย ลดความเครียด มีความพึงพอใจ สบายใจ และมีความสุข ความพึงพอใจในชีวิตเชิงบวกจะนำไปสู่คุณภาพชีวิตที่ดีและมีชีวิตโดยรวมดีเช่นเดียวกัน สอดคล้องกับแนวคิด “การท่องเที่ยวเพื่อ (คุณภาพ) ชีวิต” ได้อย่างแท้จริง
Article Details
- ผู้เขียนต้องยินยอมปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กองบรรณาธิการวารสารกำหนด และผู้เขียนต้องยินยอมให้บรรณาธิการ แก้ไขความสมบูรณ์ของบทความได้ในขั้นตอนสุดท้ายก่อนเผยแพร่
- ลิขสิทธิ์บทความเป็นของผู้เขียน แต่วารสารเทคโนโลยีภาคใต้คงไว้ซึ่งสิทธิ์ในการตีพิมพ์ครั้งแรก โดยเหตุที่บทความนี้ปรากฏในวารสารที่เข้าถึงได้จึงอนุญาตให้นำบทความไปใช้เพื่อประโยชน์ทางการศึกษา แต่มิใช่เพื่อการพาณิชย์
เอกสารอ้างอิง
Cummins, R.A. (1997). The Comprehensive Quality of Life Scale-Adult (Com QOL-A5). (5th ed.). Melbourne: School of Psychology, Deakin University.
Dunn, H. L. (1959). High-level wellness for man and society. American Journal of Public Health (Nations Health), 49(6), 786-792.
Filep, S. (2014). Moving beyond subjective well-being: A tourism critique. Journal of Hospitality Tourism Research, 38, 266-274.
Flanagan, J.C. (1978). A research approach to improving our quality of life. American Psychologist, 33, 138-147.
Future Foundation. (2007). Future Foundation. Retrieved April 20, 2019, from https://www.futurefoundation.org
Hunthayung, C., & Panthong, K. (2019). A comparison of concurrent validity and divergent validity happiness scale of PERMA theory. Journal of Southern Technology, 12(1), 67-75.
Komchadluek. (2017). รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รับนักท่องเที่ยวคนที่ 35 ล้าน ที่สุวรรณภูมิ. Retrieve December 29, 2018, from https://www.komchadluek.net/ news/regional/307533
Krupinski, J. (1980). Health and quality of life. Social Science and Medicine, 14A, 203-211.
Layard, R. (2006). Happiness: Lessons from a New Science. Oxford: Penguin.
Liang, J., Yamashita, T., & Brown, J.S. (2013). Leisure Satisfaction and quality of life in China, Japan and South Korea: a comparative study using Asia Barometer 2006. Journal of Happiness Studies, 14 (3), 753-769.
Lyubonirsky, S., & Leppper, H.S. (1999). A measure of subjective happiness: Preliminary reliability and construct validation. Social Indicators Research, 46, 137-155.
Mc.Cabe, S., & Johnson, S. (2013). The happiness factor in tourism: subjective well-being and social tourism. Annals of Tourism Research, 41, 42-65.
Müller, H., & Kaufmann, E.L. (2001). Wellness tourism: Market analysis of a special health tourism segment and implications for the hotel industry. Journal of Vacation Marketing, 7(1), 5-17.
Matichon. (2019). นักเดินทางต้องรู้! 3 เทรนด์มาแรง ท่องเที่ยว 2019 และ เมืองยอดฮิตประจำปี. Retrieve January 7, 2019, from https://www.matichon.co.th/lifestyle/news_1306213
National Wellness Institute. (2007). Retrieved April 20, 2019, from https://www. nationalwellness.org
Neal, J.D., Sirgy, M.J., & Uysal, M. (1999). The role of satisfaction with leisure travel/tourism services and expenditure in satisfaction with leisure life and quarrel life. Journal of Business Research, 44, 153-163.
New Ecomics Foundation. (NEF). (2004). Retrieved November 5, 2007, from NEF web site: https:// www.wekkveubgnabufesti. net/uk_manifesto.pdf
Nonsiri, P., & Narongrit, C. (2018). The key success factors of collaborative network for enhancing green tourism in Khao Kho District, Phetchaboon Province. Journal of Southern Technology, 11(2), 15-26.
Puczkó, L., & Smith, M. (2012). An Analysis of Tourism QOL Domains from the Demand Side. In M. Uysal, R. R. Perdue, & J. M. Sirgy (Eds.), The Handbook of Tourism and Quality of Life Research (pp.263-278). Dordrecht: Springer.
Rahman, T., Mittelhammer, R. C., & Wandschneider, P. (2005). Measuring the Quality of life Across Countries. A sensitivity Analysis of Well-Being Indeces. (Research Paper No. 2005/06). Helsinki: World Institute for Development Economies Research (WIDER) established by United Nation University (UNU).
Sirgy, M. J. (2010). Toward a quality of life theory of leisure travel satisfaction. Journal of Travel Research, 49(2), 246-260.
Seligman, M.E.P. (2011). Flourishing: A Visionary New Understanding of Happiness and Well-being (1st Free Press Hardcover ed.). New York: Free Press.
The Global Wellness Institute. (2017). Empowering Wellness Worldwide. Global Wellness Economy Monitor-January 2017. Retrieved July 20, 2017 from https: llwww.globalwellnessinstitute.org/industry-research/
Veenhoven, R. (2002). Why social policy needs subjective indicators. Social Indicators Research, 58, 33-45.
World Tourism Organization. (2015). UNWTO Annual Report 2014. Madrid.
Waldinger, R. (2015). What makes a good life? Lessons from the longest study on happiness. Retrieve December 29, 2018, from https://www.ted.com/talks/robert_waldinger_what_makes_a_good_life_lessons_from_the_longest_study_on_happiness