ภาวะผู้นำของผู้นำคริสตจักรตามทัศนะของคริสเตียนในจังหวัดนครศรีธรรมราช

Main Article Content

ธำมรงค์ สัญจร
วิรัตน์ ธรรมาภรณ์
สุภัทรา ภูษิตรัตนาวลี

บทคัดย่อ

         การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาภาวะผู้นำของผู้นำทางศาสนาคริสต์ตามทัศนะของคริสเตียนในจังหวัดนครศรีธรรมราช 4 ด้าน คือ ด้านความศรัทธาต่อพระเจ้า ด้านการบริหารจัดการการเงิน ด้านการบริหารทีมงานคริสตจักร และด้านการสร้างความสัมพันธ์ 2) เปรียบเทียบภาวะผู้นำของผู้นำทางศาสนาคริสต์ตามทัศนะของคริสเตียน ตามตัวแปร เพศ อายุ จำนวนปีที่เป็นคริสเตียน และ 3) ศึกษาปัญหาและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับภาวะผู้นำของผู้นำทางศาสนาคริสต์ตามทัศนะของ
คริสเตียน กลุ่มตัวอย่าง คือ คริสตชนในคริสตจักรนิกายโปรเตสแตนท์ จังหวัดนครศรีธรรมราช จำนวน 324 คน โดยการสุ่มแบบแบ่งชั้น เก็บข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามและแบบสัมภาษณ์เกี่ยวกับภาวะผู้นำของผู้นำคริสตจักรทางศาสนาคริสต์ซึ่งมีค่าสัมประสิทธิ์ความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ .98 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว การวิเคราะห์ความแตกต่างของค่าเฉลี่ยเป็นรายคู่และการวิเคราะห์เนื้อหา
            ผลการวิจัย พบว่า 1) ภาวะผู้นำของผู้นำคริสตจักรทางศาสนาคริสต์ตามทัศนะของคริสเตียน โดยภาพรวมอยู่ในระดับสูงและเมื่อพิจารณาในแต่ละด้าน พบว่า อยู่ในระดับสูงทุกด้าน 2) ภาวะผู้นำของผู้นำคริสตจักรทางศาสนาคริสต์ตามทัศนะของคริสเตียนที่มีเพศแตกต่างกัน โดยภาพรวมไม่แตกต่างกัน แต่เพศหญิงมีทัศนะสูงกว่าเพศชายอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ในด้านความศรัทธาต่อพระเจ้าและด้านการสร้างความสัมพันธ์ ส่วนคริสเตียนที่มีอายุ และจำนวนปีที่เป็นคริสเตียนแตกต่างกันมีทัศนะต่อภาวะผู้นำโดยภาพรวมและในแต่ละด้านไม่แตกต่างกัน 3) ปัญหาข้อเสนอแนะ คือ ศิษยาภิบาลไม่มีคุณสมบัติที่จะทำให้เป้าหมายในคริสตจักรประสบความสำเร็จได้ มีเป้าหมายไม่ชัดเจน ไม่ได้เน้นการสอนพระวจนะ มีความรู้ความเข้าในในศาสนศาสตร์ไม่เพียงพอ ไม่มีชีวิตที่เป็นแบบอย่างที่ดีในความเชื่อ ดำเนินชีวิตอยู่ในความบาป ไม่สามารถให้คำปรึกษาแก่ทีมงานและสมาชิกในคริสตจักรได้ ซึ่งมีข้อเสนอแนะ คือ ศิษยาภิบาลต้องรู้บทบาทหน้าที่ตามที่พระเจ้ากำหนด ต้องเป็นนักบริหารจัดการที่ดี ดำเนินชีวิตที่เป็นแบบอย่างในทุกด้านและรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับพระเจ้า

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
สัญจร ธ., ธรรมาภรณ์ ว. ., & ภูษิตรัตนาวลี ส. . (2020). ภาวะผู้นำของผู้นำคริสตจักรตามทัศนะของคริสเตียนในจังหวัดนครศรีธรรมราช. วารสารเทคโนโลยีภาคใต้, 13(2), 54–62. สืบค้น จาก https://so04.tci-thaijo.org/index.php/journal_sct/article/view/220984
ประเภทบทความ
บทความวิจัย
ประวัติผู้แต่ง

ธำมรงค์ สัญจร, สาขาวิชาบริหารการศึกษา วิทยาลัยเทคโนโลยีภาคใต้

          การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาภาวะผู้นำของผู้นำทางศาสนาคริสต์ตามทัศนะของคริสเตียนในจังหวัดนครศรีธรรมราช 4 ด้าน คือ ด้านความศรัทธาต่อพระเจ้า ด้านการบริหารจัดการการเงิน ด้านการบริหารทีมงานคริสตจักร และด้านการสร้างความสัมพันธ์ 2) เปรียบเทียบภาวะผู้นำของผู้นำทางศาสนาคริสต์ตามทัศนะของคริสเตียน ตามตัวแปร เพศ อายุ จำนวนปีที่เป็นคริสเตียน และ 3) ศึกษาปัญหาและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับภาวะผู้นำของผู้นำทางศาสนาคริสต์ตามทัศนะของคริสเตียน กลุ่มตัวอย่าง คือ คริสตชนในคริสตจักรนิกายโปรเตสแตนท์ จังหวัดนครศรีธรรมราช จำนวน 324 คน โดยการสุ่มแบบแบ่งชั้น เก็บข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามและแบบสัมภาษณ์เกี่ยวกับภาวะผู้นำของผู้นำคริสตจักรทางศาสนาคริสต์ซึ่งมีค่าสัมประสิทธิ์ความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ .98 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว การวิเคราะห์ความแตกต่างของค่าเฉลี่ยเป็นรายคู่และการวิเคราะห์เนื้อหา
            ผลการวิจัย พบว่า 1) ภาวะผู้นำของผู้นำคริสตจักรทางศาสนาคริสต์ตามทัศนะของคริสเตียน โดยภาพรวมอยู่ในระดับสูงและเมื่อพิจารณาในแต่ละด้าน พบว่า อยู่ในระดับสูงทุกด้าน 2) ภาวะผู้นำของผู้นำคริสตจักรทางศาสนาคริสต์ตามทัศนะของคริสเตียนที่มีเพศแตกต่างกัน โดยภาพรวมไม่แตกต่างกัน แต่เพศหญิงมีทัศนะสูงกว่าเพศชายอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ในด้านความศรัทธาต่อพระเจ้าและด้านการสร้างความสัมพันธ์ ส่วนคริสเตียนที่มีอายุ และจำนวนปีที่เป็นคริสเตียนแตกต่างกันมีทัศนะต่อภาวะผู้นำโดยภาพรวมและในแต่ละด้านไม่แตกต่างกัน 3) ปัญหาข้อเสนอแนะ คือ ศิษยาภิบาลไม่มีคุณสมบัติที่จะทำให้เป้าหมายในคริสตจักรประสบความสำเร็จได้ มีเป้าหมายไม่ชัดเจน ไม่ได้เน้นการสอนพระวจนะ มีความรู้ความเข้าในในศาสนศาสตร์ไม่เพียงพอ ไม่มีชีวิตที่เป็นแบบอย่างที่ดีในความเชื่อ ดำเนินชีวิตอยู่ในความบาป ไม่สามารถให้คำปรึกษาแก่ทีมงานและสมาชิกในคริสตจักรได้ ซึ่งมีข้อเสนอแนะ คือ ศิษยาภิบาลต้องรู้บทบาทหน้าที่ตามที่พระเจ้ากำหนด ต้องเป็นนักบริหารจัดการที่ดี ดำเนินชีวิตที่เป็นแบบอย่างในทุกด้านและรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับพระเจ้า

เอกสารอ้างอิง

Boonprasert, M., Wallin, J., Huabdee, K., Konnakan, S., & Wirotyakul, P. (2006). Development of Leadership in Higher Education (Research Report). Bangkok: Office of the Education Council Rajamangala University of Technology. [in Thai].

Chanseng, Y., & Vivatananukul, M. (2018). Communication Competence and Leadership Style of Christian Leaders Expected by Christians in Thai Society (Master’s Thesis). Faculty of Communication Arts, Dhurakij Pundit university. [in Thai]

McCall, M. W. J., & Lombardo, M. M. (1983). Off the Track: Why and how Successful Executives Get Derailed. Greensboro: Center for Creative Leadership Report No. 21

Piyakasin, S. (2003). Personal Finance (3rd ed.). Bangkok: Chulalongkorn University Publisher. [in Thai].

Ramasoot, P., & Dungsuwan, J. (2002). Human Behavior and Self Development (3rd ed.). Bangkok: Dhonburi Rajabhat University. [in Thai].

Thong-oon, P., Suriyathanapas, T., Chalakbang, W., & Lothonhkum, P. (1999). Human Behavior and Self Development. Bangkok: Third Wave Education. [in Thai].

Yamane, T. (1973). Statistics: An Introductory Analysis (3rd ed.). New York: Harper and Row Publication.