การศึกษาเปรียบเทียบอัตราผลตอบแทนจากการลงทุน ในกองทรัสต์ และ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์
คำสำคัญ:
การลงทุน, กองทรัสต์, กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์, ผลตอบแทน, นักลงทุนไทยบทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา และเปรียบเทียบอัตราผลตอบแทนที่ได้จากการลงทุนในหลักทรัพย์ของกลุ่มกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ (กอง 1) จากการดำเนินงานตั้งแต่ 1 เมษายน 2552 ถึง 31 ธันวาคม 2558 จำนวน 18 กองทุน และกองทรัสต์ (กองรีท) ที่ดำเนินงานตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2557 จำนวน 5 กอง โดยใช้ข้อมูลราคาหน่วยลงทุนเฉลี่ยต่อไตรมาส และมูลค่าสินทรัพย์สุทธิต่อหน่วยเฉลี่ยต่อไตรมาส เพื่อประเมินอัตราผลตอบแทนจากการลงทุนตลอดอายุโครงการของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ผลการศึกษาพบว่า ตลอดระยะเวลา 7 ปี กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ส่วนใหญ่มีอัตราผลตอบแทนเฉลี่ยต่ำกว่าตลาดและกลุ่มอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง ซึ่งเกิดจากการมีสภาพคล่องต่ำ (Price) และมูลค่าสินทรัพย์ที่ลดลง (NAV) และมีความเสี่ยงต่ำกว่าตลาดและกลุ่มอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง ส่วนกองทรัสต์ พบว่า อัตราผลตอบแทนเฉลี่ยตลอดปี 2558 ทุกกองให้ผลตอบแทนสูงกว่าตลาดและกลุ่มอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง ด้านความเสี่ยงเมื่อพิจารณาจากส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานพบว่า กองทรัสต์ส่วนใหญ่ต่ำกว่าตลาดและกลุ่มอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง แต่เมื่อพิจารณาความเสี่ยงจากค่าสัมประสิทธิ์การแปรผันพบว่า กองทรัสต์ส่วนใหญ่สูงกว่าตลาดและกลุ่มอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง และสำหรับการประเมินอัตราผลตอบแทนการลงทุนตลอดอายุโครงการของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์พบว่า กองทุนรวมที่ลงทุนในที่พักอาศัยส่วนใหญ่จะมีอัตราผลตอบแทนสูงที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับกองทุนรวมประเภทอื่น
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ข้อความ ข้อคิดเห็น ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ แผนภูมิ แผนผัง เป็นต้น ที่ปรากฏและแสดงในบทความต่างๆ ในวารสารบริหารธุรกิจเทคโนโลยีมหานคร ถือเป็นความรับผิดชอบโดยตรงของผู้เขียนบทความนั้นๆ มิใช่เป็นความรับผิดชอบใดๆ ของวารสารบริหารธุรกิจเทคโนโลยีมหานคร และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร
บทความที่ตีพิมพ์ในวารสารบริหารธุรกิจเทคโนโลยีมหานคร ถือเป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดหรือส่วนใดส่วนหนึ่งไปเผยแพร่ต่อหรือเพื่อกระทำการใดๆ จะต้องได้รับการอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานครก่อนเท่านั้น