ปัญหาการแสดงความคิดเห็นในการตรากฎหมายของสาธารณะ
คำสำคัญ:
การตรากฎหมาย, ประชาชน, การแสดงความคิดเห็นบทคัดย่อ
วิจัยเรื่องปัญหาปัญหาการแสดงความคิดเห็นของสาธารณะต่อการตรากฎหมาย มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาที่มาของสภาพปัญหาของหลักเกณฑ์ ทฤษฎี กฎ ระเบียบ ข้อบังคับในวิธีปฏิบัติการด้านการดำเนินงานตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญที่กำหนดให้ประชาชนมีส่วนร่วมเพื่อการตรากฎหมายหรือการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายก่อนจะมีการออกประกาศในราชกิจจานุเบกษาใช้บังคับกฎหมายทุกฉบับ ซึ่งรัฐต้องจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นจากผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำมาวิเคราะห์ผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของประชาชน ที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้มารการทางกฎหมายอย่างรอบด้านและเป็นระบบเกี่ยวกับหลักความได้สัดส่วนในบรรดามาตรการที่กฎหมายให้อำนาจฝ่ายปกครองออกมาใช้บังคับแก่ประชาชน โดยการรับฟังความคิดเห็นจากผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เกิดความสอดคล้องและเกิดความเหมาะสมกับบริบทต่าง ๆ ของประชาชนที่เปลี่ยนแปลงไปตามสังคม เศรษฐกิจ อุตสาหกรรม และการเมือง ผลการวิจัยในการรับฟังความคิดเห็น และการวิเคราะห์ของประชาชนเพื่อนำมาประกอบ การพิจารณาในกระบวนการตรากฎหมายทุกขั้นตอนพบว่า ตั้งแต่มีการออกประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ประชาชนส่วนใหญ่ยังไม่เข้าใจและเข้าไม่ถึงกระบวนการในวิธีการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการตรากฎหมายหรือการออกกฎหมาย อันเนื่องมาจากรัฐธรรมนูญยังไม่มีความชัดเจนในเนื้อหาบทบัญญัติของกฎหมายเกี่ยวกับการกำหนดวิธีการปฏิบัติเพื่อให้ประชาชนดำเนินงานในวิธีการแสดงความคิดเห็นเพื่อการตรากฎหมายหรือการออกกฎหมายในแต่ละฉบับไว้โดยตรง ที่ผ่านมาเป็นหน้าที่ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาแต่งตั้งคณะกรรมการรับฟังความคิดเห็นในการวิเคราะห์ผลกระทบที่เกิดจากกฎหมายตามวิธีการของคำสั่งสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร อันทำให้ประชาชนขาดโอกาสในการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการตรากฎหมายหรือการออกกฎหมาย ข้อเสนแนะ ควรมีการปรับปรุงและแก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 โดยการกำหนดวิธีปฏิบัติเพื่อการดำเนินงานของประชาชนที่รัฐต้องจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นจากผู้เกี่ยวข้องเพื่อนำมาวิเคราะห์ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากกฎหมายอย่างรอบด้านและเป็นระบบเพื่อการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของประชาชน ซึ่งจะนำไปสู่การเปิดเผยข้อมูลจากผลการรับฟังความคิดเห็นและการวิเคราะห์ผลกระทบจากการตรากฎหมายหรือการออกกฎหมายแก่ประชาชนได้โดยตรง เช่น การให้ประชาชนใช้วิธีการใช้สิทธิออกเสียงทางอินเทอร์เน็ตหรือวิธีการใช้บัตรออกเสียงในภูมิลำเนาหรือวิธีการอื่น ๆ ที่เหมาะสม ต่อไป