ปัจจัยที่ส่งผลต่อผลสัมฤทธิ์ในการนำนโยบายป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ไปปฏิบัติ ของเทศบาลเมืองกระทุ่มล้ม อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม
คำสำคัญ:
ปัจจัย, ผลสัมฤทธิ์, การนำนโยบายไปปฏิบัติบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาระดับผลสัมฤทธิ์ในการนำนโยบายป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ไปปฏิบัติ ของเทศบาลเมืองกระทุ่มล้ม ศึกษาระดับปัจจัยที่ส่งผลต่อผลสัมฤทธิ์ในการนำนโยบายป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ไปปฏิบัติ ของเทศบาลเมืองกระทุ่มล้ม เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ในการนำนโยบายป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ไปปฏิบัติ ของเทศบาลเมืองกระทุ่มล้ม จำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล และเพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยที่ส่งผลต่อผลสัมฤทธิ์ในการนำนโยบายป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ไปปฏิบัติ กับผลสัมฤทธิ์ในการนำนโยบายไปปฏิบัติ การวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย บุคลากรที่ปฏิบัติงานในเทศบาลเมืองกระทุ่มล้ม อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม จำนวน 182 คน สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ การแจกแจงความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน t-test One-Way ANOVA และการวิเคราะห์ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบ Pearson ผลการศึกษาวิจัย พบว่า 1) ผลสัมฤทธิ์ในการนำนโยบายป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโรนา 2019 (โควิด-19) ไปปฏิบัติ ของเทศบาลเมืองกระทุ่มล้มอยู่ในระดับมาก 2) ปัจจัยที่ส่งผลต่อผลสัมฤทธิ์ในการนำนโยบายป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ไปปฏิบัติ อยู่ในระดับมาก โดยปัจจัยที่ส่งผลต่อผลสัมฤทธิ์ในการนำนโยบายไปปฏิบัติมากที่สุด คือ ด้านมาตรฐานและวัตถุประสงค์ของนโยบาย รองลงมา คือ ด้านความร่วมมือหรือการตอบสนองของผู้นำนโยบาย ไปปฏิบัติ และด้านเงื่อนไขทางเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง ตามลำดับ 3) ปัจจัยส่วนบุคคลด้านประเภทตำแหน่งที่แตกต่างกันมีความคิดเห็นต่อผลสัมฤทธิ์ในการนำนโยบายป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ไปปฏิบัติ แตกต่างกัน 4) ปัจจัยที่ส่งผลต่อผลสัมฤทธิ์ ในการนำนโยบายป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ไปปฏิบัติมีความสัมพันธ์กับผลสัมฤทธิ์ในการนำนโยบายไปปฏิบัติทางบวกในระดับสูง ซึ่งผลการวิจัยนี้สามารถนำไปใช้ประโยชน์สำหรับเป็นข้อมูลในการดำเนินงานป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ของหน่วยงานทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น