การพัฒนารูปแบบการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ในเขตเมืองมรดกโลก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
คำสำคัญ:
การท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์, การพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์, การท่องเที่ยวอยุธยาบทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ พัฒนารูปแบบการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ ที่สอดคล้องกับความพึงพอใจและความต้องการของนักท่องเที่ยว เป็นการวิจัยแบบผสมผสาน ใช้วิธีวิจัยเชิงคุณภาพและการวิจัยเชิงปริมาณ รวบรวมข้อมูลจากเอกสารที่เกี่ยวข้อง การสัมภาษณ์ผู้แทนภาครัฐ ผู้นำชุมชน ผู้มีความรู้/เจ้าของภูมิปัญญาท้องถิ่น แบบสอบถามความพึงพอใจและความต้องการของนักท่องเที่ยวชาวไทย ที่มาท่องเที่ยวในเขตเมืองมรดกโลก พระนครศรีอยุธยา จำนวน 410 คน ผลการศึกษาพบว่า ทรัพยากรการท่องเที่ยวเชิงสรรค์ทางด้านมรดกวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่นของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่สามารถนำมาใช้เป็นกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ได้ 36 กิจกรรม จำแนกเป็น 6 ประเภท ได้แก่ 1) มรดกวัฒนธรรม 2) ศิลปหัตถกรรม 3) วิถีชีวิต 4) อาหาร 5) สุขภาพ 6) กีฬาและนันทนาการ กิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ที่นักท่องเที่ยวพึงพอใจมากที่สุดคือ การเที่ยวชม การจัดบริการที่นักท่องเที่ยวต้องการมากตามลำดับ ได้แก่ การเยี่ยมชม การซื้อ การฝึกปฏิบัติ และการเรียนรู้ ประสบการณ์ท่องเที่ยวที่ต้องการในระดับมาก ได้แก่ ความรู้สึกประทับใจ ความรู้ วิถีชีวิตชุมชน และทักษะความสามารถ ต้องการสถานที่จัดกิจกรรมเรียนรู้ที่เป็นพื้นที่เปิด ใช้ระยะเวลาท่องเที่ยว 1 วัน นำผลการศึกษามาพัฒนารูปแบบการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ได้ 2 รูปแบบ ได้แก่ 1) รูปแบบที่ใช้การสร้างสรรค์เป็นฉากหลัง เรื่อง ”ตามล่าหาขุมทรัพย์อโยธยา” 2) รูปแบบที่ใช้การสร้างสรรค์เป็นกิจกรรม เรื่อง “ตามรอยแม่มะลิ”การพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ในเมืองมรดกโลกพระนครศรีอยุธยา ควรดำเนินการดังนี้ 1) สร้างการรับรู้การท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ 2) พัฒนารูปแบบการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ที่หลากหลาย 3) สร้างประสบการณ์ท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ที่ประทับใจ 4) การพัฒนาเส้นทางเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวกับชุมชนท้องถิ่น 5) การพัฒนาบุคลากร 6) การสร้างเครือข่ายความร่วมมือ