การพัฒนารูปแบบกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุด้วยการใช้แนวคิด ขจัดความสิ้นเปลืองและสูญเปล่า (Lean) มาประยุกต์ใช้กรณีศึกษา โรงพยาบาลแม่จัน จังหวัดเชียงราย
คำสำคัญ:
กระบวนการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุ, แนวคิดขจัดความสิ้นเปลืองและสูญเปล่าบทคัดย่อ
งานวิจัยเรื่อง การพัฒนารูปแบบกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุด้วยการใช้แนวคิดขจัดความสิ้นเปลืองและสูญเปล่า (Lean) มาประยุกต์ใช้ กรณีศึกษา โรงพยาบาลแม่จัน จังหวัดเชียงราย มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาปัญหาและอุปสรรคในการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุของโรงพยาบาลแม่จัน จังหวัดเชียงราย 2) พัฒนารูปแบบกระบวนการการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุด้วยการใช้แนวคิดขจัดความสิ้นเปลืองและสูญเปล่า (Lean) ในโรงพยาบาลแม่จัน จังหวัดเชียงรายและ 3) เปรียบเทียบประสิทธิภาพของการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุปัจจุบันและการจัดซื้อแบบใช้แนวคิดขจัดความสิ้นเปลืองและสูญเปล่า (Lean) การวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ ใช้การสัมภาษณ์แบบกึ่งโครงสร้าง และการสนทนากลุ่มในการเก็บรวบรวมข้อมูล โดยผู้ให้ข้อมูลเป็นผู้ปฏิบัติงานด้านการจัดซื้อของโรงพยาบาลแม่จัน มีประสบการณ์ในการปฏิบัติงานด้านการจัดซื้อประมาณ 10 ปี จำนวนผู้ให้ข้อมูลทั้งหมดจำนวน 11 คน ผลการศึกษาพบว่า 1) ปัญหาและอุปสรรคที่เกิดขึ้นในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุของโรงพยาบาลแม่จัน เกิดจากการมีขั้นตอนการปฏิบัติงานเกี่ยวกับเอกสารที่มากเกินไปและสถานที่ในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ฝ่ายจัดซื้อที่ถูกแบ่งส่วน ส่งผลให้การทำงานเกิดความล่าช้าและเสียเวลา 2) การพัฒนารูปแบบกระบวนการการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุโดยการพัฒนาระบบการควบคุมการสั่งซื้อในระบบ Google Drive แทนระบบมือ (Manual) เพื่อช่วยในการและลดระยะเวลาในการเคลื่อนย้ายหรือขนส่ง ช่วยขจัดขั้นตอนที่ไม่ก่อให้เกิดมูลค่าและเกิดความสูญเปล่าภายในกระบวน และ 3) การนำแนวคิดขจัดความสิ้นเปลืองและสูญเปล่า (Lean) มาประยุกต์ใช้ทำให้รูปแบบการจัดซื้อจัดจ้างมีการเปลี่ยนแปลงจากเดิมคือมีการลดกิจกรรมที่ไม่เพิ่มมูลค่าเช่นการตรวจสอบและมีการรวมกิจกรรมการพิจารณาการจัดซื้อและการอนุมัติเข้าด้วยกันสามารถลดความสูญเปล่าในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุลงจากเดิมที่มีอยู่ 41 ขั้นตอน สามารถลดลงเหลือเพียง 31 ขั้นตอน รวมทั้งยังสามารถลดระยะเวลาในการทำงานลงจาก 802 นาที เหลือเพียง 442.50 นาที คิดเป็นร้อยละ 44.83 และสามารถลดค่าใช้จ่ายในการสั่งซื้อกระดาษที่ต้องใช้ในกระบวนการจัดซื้อลงได้ 1,050.00 บาทต่อเดือนหรือ 12,600.00 บาทต่อปี