แนวทางการพัฒนาการบริหารกิจกรรมลูกเสือในสถานศึกษา สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์
คำสำคัญ:
กิจกรรมลูกเสือไทย, แนวทางการพัฒนา, การบริหารสถานศึกษา, จังหวัดกาฬสินธุ์บทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสภาพปัจจุบัน สภาพที่พึงประสงค์ และแนวทางการพัฒนาการบริหารกิจกรรมลูกเสือในสถานศึกษาสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์ กลุ่มตัวอย่าง คือ ผู้บริหารสถานศึกษา 23 คน และครูผู้สอน 179 คน เครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แบบสัมภาษณ์ แบบสอบถาม และแบบมาตราส่วน นำข้อมูลวิเคราะห์ค่าเฉลี่ยร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน นำเสนอโดยวิธีพรรณนาวิเคราะห์ ผลการวิจัยพบว่า 1. สภาพปัจจุบันการบริหารกิจกรรมลูกเสือในสถานศึกษา จัดแบ่งการบริหารจัดการกิจกรรมออกเป็น 5 หมวดหมู่ ดังนี้ 1) การวางแผนและวิชาการ ผู้บริหารสถานศึกษาว่าอยู่ในระดับมากที่สุด (=4.43) ส่วนครูผู้สอน เห็นว่าอยู่ในระดับมาก (=4.29) 2) กิจกรรมการสอนลูกเสือ ผู้บริหารสถานศึกษาเห็นว่าอยู่ในระดับมาก ( =4.34) ส่วนครูผู้สอน เห็นว่าอยู่ในระดับมาก (=4.19) 3) การบริหารทั่วไปและการเงิน ผู้บริหารสถานศึกษาเห็นว่าอยู่ในระดับมาก(=3.55) ส่วนครูผู้สอนลูกเสือเห็นว่าอยู่ในระดับมาก (=3.60) 4) บุคลากร ผู้บริหารสถานศึกษาเห็นว่าอยู่ในระดับมาก (=4.02) ส่วนครูผู้สอนเห็นว่าอยู่ในระดับมาก (=3.68) 5) การนิเทศ ติดตาม ประเมินผล และรายงานผล ผู้บริหารสถานศึกษาเห็นว่าอยู่ในระดับมาก (=3.72) ส่วนครูผู้สอนเห็นว่าอยู่ในระดับปานกลาง (=3.38) 2. การบริหารกิจกรรมลูกเสือในสถานศึกษา มีแนวทางการพัฒนาคือ 1) คณะทำงานควรมีการวางแผนงานร่วมกันและแผนสอดคล้องกับบริบทของชุมชน 2) คณะทำงานคำนึงถึงประโยชน์ของกิจกรรมตามศักยภาพของผู้เรียนและชุมชน 3) งบประมาณควรมีระบบเบิกจ่ายที่เป็นปัจจุบัน คุ้มค่าและตรวจสอบได้ 4) คณะทำงานควรมีการพัฒนาทักษะเป็นครูผู้สอนลูกเสือเชี่ยวชาญตามศักยภาพ เพื่อให้สอดคล้องต่อคุณลักษณะของกิจกรรมค่ายลูกเสือ 5) ปรับแผนการดำเนินงานเป็นรายปีเพื่อคุณภาพของกิจกรรมค่ายลูกเสือ