การจัดการไฟป่าและหมอกควัน: บทเรียนจากการจัดการอย่างมีส่วนร่วมของพหุภาคีในจังหวัดเชียงใหม่
Main Article Content
บทคัดย่อ
ปัญหาไฟป่าและหมอกควันสามารถลดลงได้ หากมีการจัดการอย่างมีส่วนร่วมจากผู้ที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนในระดับท้องถิ่น บทความนี้นำเสนอบทเรียนของการจัดการไฟป่าในพื้นที่ ป่าเต็งรังที่มีไฟป่าเกิดขึ้นทุกปี ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องสำคัญ คือชาวบ้าน เจ้าหน้าที่สถานีควบคุมไฟป่า อำเภอจอมทอง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและนักวิจัย ได้ทดลองทำงานลดไฟป่าร่วมกันระหว่าง พ.ศ.2555-2558 ในอำเภอจอมทอง หลังจากการทบทวนสาเหตุของไฟป่าและอุปสรรคของการควบคุมไฟป่าในอดีต ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องได้ปรับการควบคุมไฟป่าจากวิธีการแบบเดิมมาเป็นการชิงเผาเพื่อลดปริมาณเชื้อเพลิง วิธีการนี้ได้รับการยอมรับจากทุกฝ่ายเพราะมีความเหมาะสมกับบริบทของสภาพภูมิประเทศ ชนิดป่าไม้ ภูมิอากาศ และลักษณะทางสังคมและเศรษฐกิจของคนในพื้นที่ การชิงเผาเพื่อลดปริมาณเชื้อเพลิงสามารถลดจํานวนไฟป่าและหมอกควันได้เมื่อเปรียบเทียบกับในอดีต ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องยังได้ร่วมกันสร้างวิธีการจัดการไฟป่าอย่างเป็นระบบที่เหมาะกับบริบทของพื้นที่ ปัจจัยของความสาเร็จ คือหมู่บ้านสามารถเลือกวิธีจัดการไฟป่าที่เหมาะสมที่ช่วยลดเวลาทํางาน แรงงาน และค่าใช้จ่ายในการควบคุมไฟป่า ในขณะเดียวกันการชิงเผาในบริเวณนี้ยังมีผลกระทบต่อคุณภาพอากาศน้อย ในขณะที่ความรุนแรงของไฟในระหว่างการชิงเผายังอยู่ในระดับต่ำ จึงมีผลกระทบต่อไม่หนุ่มและลูกไม้ไม่มากวิธีการชิงเผาจึงได้รับการยอมรับมากขึ้นมาโดยตลอด จนมีการนำไปขยายผล ในพื้นที่ป่าเต็งรังอื่นในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่
Article Details
ข้อเขียนทั้งหมดทีปรากฏในวารสารสังคมศาสตร์ เป็นความคิดเห็นของผู้เขียนโดยเฉพาะ มิใช่ทัศนคติของคณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ หรือกองบรรณาธิการวารสารสังคมศาสตร์
เอกสารอ้างอิง
ฉลาดชาย รมิตานนท์. 2527. “สภาพทางเศรษฐกิจ การเมือง สังคม และวัฒนธรรมของสังคมหมู่บ้านชนบทกับการมีส่วนร่วมของประชาชน: วิเคราะห์กรณีหมู่บ้านภาคเหนือ”.ใน ทวีทอง หงษ์วิวัฒน์ (บรรณาธิการ), การมีส่วนร่วมของประชาชนในการพัฒนา,หน้า 115-163. กรุงเทพฯ: ศูนย์ศึกษานโยบายสาธารณสุข มหาวิทยาลัยมหิดล.
ชฎา ณรงค์ฤทธิ์ และชนินทร์ อัมพรสถิร. 2552. การพัฒนาระบบเตือนภัยไฟป่าและมลพิษทางอากาศจากไฟป่าในจังหวัดแม่ฮ่องสอนบนระบบภูมิสารสนเทศเครือข่ายสาธารณะ. พิษณุโลก: คณะเกษตรศาสตร์ ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมมหาวิทยาลัยนเรศวร.
ศุทธินี ดนตรี ชาคริต โชติอมรศักดิ์ นุชิต จันทาพูน พัชรี เพ็ชรเจริญ ปรัชญา ปิ่น ขันธะยงค์และศุภลักษณ์ หน้อยสุยะ. 2557ก. การลดปริมาณเชื้อเพลิงด้วยการจัดการเชิงปฏิบัติการอย่างมีส่วนร่วมเพื่อลดจำนวนไฟป่า: กรณีศึกษาตำบลสบเตี๊ยะอำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่. เชียงใหม่: ภาควิชาภูมิศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
ศุทธินี ดนตรี สัญญา ทุมตะขบ พิภพ ชำนิวิกัยพงศ์ และศุภลักษณ์ หน้อยสุยะ. 2554.การจัดลำดับความสำคัญของพื้นที่เผาจากข้อมูลเชิงพื้นที่หลายแหล่ง เพื่อการเฝ้าระวัง
และการป้องกันการเผาในที่โล่งในจังหวัดเชียงใหม่. เชียงใหม่: ภาควิชาภูมิศาสตร์คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
ศุทธินี ดนตรี อภิรดี สรวิสูตร พจนา พิชิตปัจจา ปรัชญา ปิ่นขันธะยงค์ และศุภลักษณ์หน้อยสุยะ. 2557ข. การจำแนกเชิงพื้นที่ของพื้นที่เผาไหม้ เพื่อการเฝ้าระวังและการป้องกันการเผาในที่โล่ง: กรณีศึกษาจังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน และแม่ฮ่องสอน.เชียงใหม่: ภาควิชาภูมิศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
สมศักดิ์ สุขวงศ์. 2550. การจัดการป่าชุมชนเพื่อคนและเพื่อป่า. กรุงเทพฯ: บริษัททวีวัฒน์การพิมพ์.
สรณรัชฎ์ กาญจนะวณิชย์. 2537. “ไฟป่า เจ้าแม่กาลีแห่งพงไพร,” สารคดี ปีที่ 9 ฉบับที่ 108,หน้า 110-128.
สันต์ เกตุปราณีต. 2530. นิเวศวิทยาไฟป่า. กรุงเทพฯ: ภาควิชาวนวัฒนวิทยา คณะวนศาสตร์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.
สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. 2550. รายงานสรุปการประยุกต์ใช้ข้อมูลดาวเทียม Landsat 5เพื่อหาพื้นที่เกิดไฟป่าปี พ.ศ.2550. กรุงเทพฯ: สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน).
อริศรา เจริญปัญญาเนตร. 2552. ระบบข้อมูลแบบใกล้เวลาจริงสำหรับการวิเคราะห์พื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดไฟป่า ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยภูคา จังหวัดน่าน. เชียงใหม่:โครงการจัดการพื้นที่คุ้มครองอย่างมีส่วนร่วม อุทยานแห่งชาติดอยภูคา สถาบันทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมแม่โขง.
อรุณี เวียงแสง ตุลวัตร พานิชเจริญ วราลักษณ์ ไชยทัพ และนัยนา หวายคำ. 2548.การติดตามและประเมินผลแบบมีส่วนร่วม. กรุงเทพฯ: โครงการเสริมสร้างการเรียนรู้เพื่อชุมชนเป็นสุข (สรส.).
ภาษาอังกฤษ
Epting, J.; Verbyla, D. and Sorbel B. 2005. “Evaluation of Remotely Sensed Indicesfor Assessing Burn Severity in Interior Alaska Using Landsat TM and ETM+”,Remote Sensing of Environment 96(2005): 328-339.
Fisher, R. J., Durst, P. B., Enters, T. and Victor, M. 2000. “Overview of Themes and Issues in Devolution and Decentralization of Forest Management in Asia and the Pacific”. In T. Enters, P. B. Durst and M. Victor (eds.), Decentralizationand Devolution of Forest Management in Asia and the Pacific. Bangkok:Regional Community Forestry Training Center; FAO Regional Office for Asia and the Pacific.
Ganz, D., Moore, P. and Shields, B. 2000. International Workshop on Community Based Fire Management. Bangkok: RECOFTC.
Hewitt, K. 1997. Regions of Risk, A Geographical Introduction to Disasters. Harlow: Longman.
Karki, Sameer. 2002. Community Involvement in and Management of Forest Fires in South East Asia. Jakarta: Project FireFight South East Asia.
Saglam, B., Bilgili E., Durmaz, B. D., Kadiogullari, A. I. and Kucuk, O. 2008.“Spatio-temporal Analysis of Forest Fire Risk and Danger Using LandsatImagery”, Sensors 8: 3970-3987.
Smith, K. 2001. Environmental Hazard Assessing Risk and Reducing Disaster.London and New York: Routledge.
Tobin, G. A. and Montz, B. E. 2004. “Natural Hazards and Technology: Vulnerability, Risk and Community Response in Hazardous Environments”. In S. D. Brunn, S. L. Cutter and J. W. Harrington (eds.), Geography and Technology, pp. 547-570. Dordretch: Kluwer Academic Publishers