พลวัตและการต่อรอง “สิทธิ” ในการจัดการทรัพยากร: กรณีศึกษาชุมชนกะเหรี่ยงโปว์บ้านหนองหลัก อ.ทุ่งหัวช้าง จ.ลำพูน
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความชิ้นนี้มุ่งที่จะเปิดพื้นที่และกระตุ้นความสนใจในวงวิชาการการศึกษาเรื่องสิทธิในการเข้าถึงและจัดการทรัพยากร โดยเฉพาะอย่างยิ่งการยอมรับสิทธิชุมชนในฐานะที่เป็นทางออกในการจัดการทรัพยากรอย่างยั่งยืน เนื้อหาของบทความย้อนให้เห็นถึงความไม่ลงรอยกันของรูปแบบสิทธิที่มีอยู่ในชุมชนอย่างน้อย 3 รูปแบบได้แก่สิทธิแบบรัฐ สิทธิแบบปัจเจกบุคคล และสิทธิชุมชนการปะทะประสานของสิทธิทั้ง 3 รูปแบบนี้นำไปสู่การสร้างกฎเกณฑ์และข้อตกลงใหม่ด้วยการอ้างสิทธิปัจเจกแบบไม่เต็มรูป สิทธิปัจเจกแบบไม่เต็มรูปดังกล่าวถูกสร้างขึ้น เพื่อให้เกิดการจัดสรรทรัพยากรอย่างเป็นธรรม ภายใต้กระบวนการสร้างกฎเกณฑ์และข้อตกลงต่างๆ ร่วมกันโดยให้ความสำาคัญกับสิทธิเชิงซ้อนที่ผนวกเอาสิทธิในการใช้ประโยชน์ สิทธิในการจัดการ และสิทธิในการควบคุมหลายระนาบเข้าด้วยกัน
นอกเหนือไปจากการสร้างรูปแบบการจัดการทรัพยากรที่วางอยู่บนพื้นฐานของระบบสิทธิเชิงซ้อนแล้ว ชุมชนกะเหรี่ยงโปว์บ้านหนองหลักได้นิยามความหมายใหม่และยืนยันการมีตัวตนของชุมชนและกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงด้วยการสร้างภาพลักษณ์ในหลายระดับ กล่าวคือในระดับชุมชน มีการใช้ประโยชน์จากความหลากหลายของคนกลุ่มต่างๆที่มีทั้งความคิดเห็นสอดคล้องและขัดแย้งกันมาแปรเปลี่ยนเป็นพลังขับเคลื่อน จนทำให้ชุมชนมีภาพลักษณ์เป็นชุมชนอนุรักษ์ หรือชุมชนกะเหรี่ยงพัฒนา ซึ่งมีฐานะเป็นอำนาจเชิงสัญลักษณ์ส่งผลให้ชุมชนสามารถแปลงเป็นทุนเพื่อร่วมเคลื่อนไหวทางสังคมด้วยการแสดงออกทางวัฒนธรรมในระดับต่างๆ ตลอดจนร่วมชุมนุมเรียกร้องให้รัฐดำเนินการตามข้อเสนอในระดับนโยบาย ส่วนในระดับปัจเจกหรือในระดับครัวเรือนพบว่า มีความพยายามคิดค้นรูปแบบการทำเกษตรในเชิงอนุรักษ์ในระดับบุคคล ไปจนถึงความพยายามในการลดแรงกดดันการใช้พื้นที่ป่าในระดับครัวเรือน ด้วยการแบ่งสมาชิกออกไปรับจ้างทั้งในประเทศและต่างประเทศ
Article Details
ข้อเขียนทั้งหมดทีปรากฏในวารสารสังคมศาสตร์ เป็นความคิดเห็นของผู้เขียนโดยเฉพาะ มิใช่ทัศนคติของคณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ หรือกองบรรณาธิการวารสารสังคมศาสตร์
เอกสารอ้างอิง
กำธร ธิฉลาด (บก.). 2536. “ข้อมูลทั่วไปจังหวัดลำพูนด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม” เอกสารชุดสิ่งแวดล้อมลำาดับที่ 5 สำานักงานพัฒนาชุมชน จังหวัดลำพูน.
เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง และคณะ. 2533 .วิวัฒนาการของการบุกเบิกที่ดินทำกินในเขตป่า.กรุงเทพฯ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย.
ฉลาดชาย รมิตานนท์. 2528. ป่าไม้กับสังคมกับการพัฒนาชนบท. กรุงเทพฯ: โครงการศึกษานโยบายสาธารณะ สมาคมสังคมศาสตร์แห่งประเทศไทย.
ประเสริฐ ตระการศุภกร. 2540. “การสืบทอดองค์ความรู้เกี่ยวกับระบบการทำาไร่หมุนเวียนของชนเผ่ากะเหรี่ยง” วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการศึกษานอกระบบ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
ปิ่นแก้ว เหลืองอร่ามศรี. 2539. ภูมิปัญญานิเวศวิทยาชนพื้นเมือง: ศึกษากรณีชุมชนกะเหรี่ยงทุ่งใหญ่นเรศวร. กรุงเทพฯ: สำานักพิมพ์โลกดุลยภาพ.
สหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือและเครือข่ายองค์กรประชาชนภาคเหนือ. 2545. “เอกสารประกอบการประชุมสรุปผลการดำาเนินการแก้ไขปัญหาที่ดิน-ป่าไม้ตามมติคณะรัฐมนตรี” วันที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2545 ณ มูลนิธิพัฒนาภาคเหนือ.
เสน่ห์ จามริก และ ยศ สันตสมบัติ (บก.) 2536. ป่าชุมชนในประเทศไทย:แนวทางการพัฒนา กรุงเทพฯ: สถาบันชุมชนท้องถิ่นพัฒนา
อานันท์ กาญจนพันธุ์. 2543. “สถานภาพการวิจัยชุมชนกับการจัดการทรัพยากร: บทสังเคราะห์การศึกษา” ใน อานันท์ กาญจนพันธุ์ (บก.) พลวัตชุมชนในการจัดการทรัพยากร: กระบวนทัศน์และนโยบาย. กรุงเทพฯ: สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย.
อานันท์ กาญจนพันธุ์. 2544ก. มิติชุมชน: วิธีคิดท้องถิ่นว่าด้วย สิทธิ อำนาจและการจัดการทรัพยากร. กรุงเทพฯ: สำานักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย.
อานันท์ กาญจนพันธุ์. 2544ข. วิธีคิดเชิงซ้อนในการวิจัยชุมชน: พลวัตและศักยภาพของชุมชนในการพัฒนา. กรุงเทพฯ: สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย.
อานันท์ กาญจนพันธุ์ และคณะ. 2547. “ระบบการเกษตรแบบไร่หมุนเวียน: สถานภาพและความเปลี่ยนแปลง เล่ม 1” รายงานการวิจัยประกอบการประชุมสัมมนาระดับชาติเรื่องไร่หมุนเวียนและนโยบายบนที่สูง วันที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2547 ณ หอประชุมมหาวิทยาลัย เชียงใหม่.
Anan Ganjanapan. 2003. “Complexity of Right and Legal Pluralism in Participatory Watershed Development in Thailand” Proceeding of MMSEAIII, Lijiang Yunnan, China
Fortmann,Louise. 1995. “Talking Claim: Discursive Strategies in Contesting Property” World Development 23(6): 1053-1063.
Hinton, Peter. 1975. “Karen Subsistence: The Limits of a Swidden Economy in Thailand” Unpublished Ph.D. Thesis,University of Sydney.
Hyndman, D. and Levita Duhaylungsod. 1996. “Reclaiming T boli Land: An Ancestral Domain Claim in the Outern Phillippines” in Richard Howitt et. al (eds.) Resources, Nations and Indigenous People. (pp.104-120), Melbourne: Oxford University Press
Kunstadter, Peter; E.C Chapman and Sanga Sabhasri ( ed. ).1978. Farmers in the Forest: Economic Development and Marginal Agriculture in Northern Thailand. Honololo:TheEast-West Center, University of Hawaii Press.
Leach, Melissa; Mearns, Robin and Scoones, Ian. 1999. “Environmental Entitlement: Dynamics and Institution in Community – Based Natural Resource Management” World Development 27(2): 225-247.
Lund, Christian. 2000. “Negotiating Property Institution: On the Symbiosis of Property and Authority in Africa” in Kristine Juul and Christian Lund (eds.) Negotiating Property in Africa. (pp.11-44) Portsmouth, NH: Heinemann.
Moore, Donald. 1994. “Contesting Terrain in Zimbubwe Eastern Highland: Political Ecology Ethnography and Peasant Resource Struggles,” Economic Geography 69(4): 380-401.
Peluso, Nancy Lee. 1996. “Fruit Trees and Family Trees in an Anthropogenic Forest: Ethics of Access, Property Zone and Environment Change in Indonesia,” Comparative Studies in Society and History 38(3): 510-548.
Ribot, Jesse C. and Peluso Nancy Lee. 2003. “A Theory of Access,” Rural Sociology. 68:2.
Rocheleau, Dianne and David Edmunds. 1997. “Woman, Man and Trees: Gender, Power and Property in Forest and Agraian Landscapes,” World Development 25 (8): 1351-1371
Vandergeest,Peter. 1997. “Rethinking Property,” The Common Property Resource Digest 41-46.