Announcements

วารสารสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ขอแจ้งเปลี่ยนแปลงเลขมาตรฐานสากลประจำวารสาร ISSN (Print) และ ISSN (Online)

2023-11-21

วารสารสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ขอแจ้งเปลี่ยนแปลงเลขมาตรฐานสากลประจำวารสาร ISSN (Print) และ ISSN (Online) เพื่อให้สอดคล้องกับเกณฑ์ของ TCI เกี่ยวกับวารสารมีการจดทะเบียน ISSN ที่ถูกต้องกับชื่อภาษาอังกฤษของวารสาร

Call For Papers!! วารสารสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร เปิดรับบทความในธีมประวัติศาสตร์และการเมืองจากเบื้องล่าง (History and politics from below)

2023-04-05

บทความที่ผ่านการพิจารณาจากกองบรรณาธิการและผู้ทรงคุณวุฒิ จะได้รับการตีพิมพ์ลงในวารสารสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ปีที่ 20 ฉบับที่ 2 (กรกฎาคม-ธันวาคม 2567) บนฐานข้อมูล TCI กลุ่ม 1 ตีพิมพ์ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย

Temporary Suspension of the JSSNU Submission System

2022-08-15

วารสารสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ขอปิดระบบรับบทความชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคม 2565 เป็นต้นไป เนื่องจากมีผู้สนใจส่งบทความเพื่อเข้ารับการพิจารณาตีพิมพ์เป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ สำหรับท่านที่ส่งบทความมาก่อนวันที่ 15 สิงหาคม 2565 สามารถใช้งานระบบได้ตามปกติ วารสารจะเปิดรับบทความในธีม (วารสารจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง) ในฉบับต่อ ๆ ไป
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่หน่วยวารสาร คณะสังคมศาสตร์ : 055-96-1912

Period of the Accreditation of Journal Quality

2021-07-02

According to TCI’s announcement on June 30, 2021, regarding the Announcement of Journal Quality Assessment Results submitted for Tier Adjustment in the TCI Database, Round 4, 2020-2024, No. 2 (2021-2024), JSSNU has been promoted into the first tier of journals. The JSSNU first tier quality accreditation period is from January 1, 2021, to December 31, 2024. Therefore, the journal would like to inform readers that any articles published in the JSSNU, Year 17, Issue 1 (January–June 2021), are considered as being published in the first tier of journals in the TCI database.

เปิดรับบทความในธีม “สิ่งแวดล้อมและโรคระบาด ในยุคมนุษย์คุกคามระบบนิเวศ (Anthropocene)”

2020-04-07

วารสารสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ขอประชาสัมพันธ์

การเปิดรับบทความในธีม “สิ่งแวดล้อมและโรคระบาด ในยุคมนุษย์คุกคามระบบนิเวศ (Anthropocene)”