บทบาทของอุดมการณ์ "พุทธศาสนา-ชาตินิยมสุดโต่ง" กับความขัดแย้งระหว่างชาวพุทธยะไข่กับชาวมุสลิมโรฮิงญา

บทคัดย่อ

บทความนี้มุ่งศึกษาและวิเคราะห์บทบาทของอุดมการณ์พุทธศาสนาชาตินิยม

สุดโต่งต่อสถานการณ์ความขัดแย้งทางชาติพันธุ์ที่ลุกลามกลายเป็นความขัดแย้ง

ทางศาสนาในรัฐยะไข่เมื่อ ค.ศ. 2012 จนนำไปสู่การประท้วงและการก่อการจลาจล

ระหว่างชาวพุทธและชาวมุสลิม ซึ่งแตกต่างจากประวัติศาสตร์ร่วมสมัยของการ

เคลื่อนไหวภาคประชาชนในพม่าโดยเฉพาะเมื่อเปรียบเทียบกับการประท้วงในค.ศ. 1988

และ ค.ศ. 2007 ที่เป็นการต่อสู้ระหว่างรัฐบาลทหารกับประชาชน อย่างไรก็ดีพระสงฆ์

นำโดยพระวีระรูและขบวนการ 969 ได้กลายมาเป็นกำลังสำคัญของตัวแทนของแนวคิด

พุทธศาสนา-ชาตินิยมสุดโต่งเพื่อต่อต้านชาวมุสลิมในพม่า ทำให้ชาวมุสลิมโรฮิงญาและ

ชุมชนมุสลิมชาติพันธุ์อื่นๆในรัฐยะไข่ตกเป็นเป้าของการถูกโจมตีการก่อเหตุจลาจลสังหาร

รวมถึงเผาทำลายเคหะสถานจากชาวยะไข่ที่นับถือศาสนาพุทธ ทั้งนี้ การเคลื่อนไหว

ดังกล่าวยังอาจเป็นการดำเนินการในลักษณะความสัมพันธ์ระหว่างกองทัพกับศาสนา

กล่าวคือ มีความพยายามสร้างการจลาจลระหว่างศาสนาขึ้นเพื่อให้ชาวพม่าเห็นความ

สำคัญของกองทัพในการรักษาความสงบเรียบร้อยของสังคมภายใต้การเปลี่ยนผ่านพม่า

ไปสู่ความเป็นประชาธิปไตย ยังรวมถึงการนำไปสู่ข้อถกเถียงเรื่องการแย่งชิงทรัพยากร

ระหว่างรัฐบาลพม่ากับชาวโรฮิงญาในรัฐยะไข่ด้วย อนึ่ง นอกจากความขัดแย้งดังกล่าว

จะขยายวงกว้างไปทั่วประเทศพม่าแล้วยังได้ลุกลามกลายเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อ

ประเทศเพื่อนบ้าน และความความมั่นคงระดับภูมิภาค ได้แก่ ปัญหาการขยายวงกว้าง

ของความขัดแย้งทางศาสนาไปทั่วภูมิภาค และปัญหาการโยกย้ายถิ่นฐานแบบไม่ปกติ

ในมหาสมุทรอินเดีย