การประยุกต์ใช้ทฤษฎีฐานรากเพื่อศึกษาผู้หนีภัยจากการสู้รบในพื้นที่พักพิงชั่วคราว ประเทศไทย
Main Article Content
บทคัดย่อ
ประเทศไทยเป็นประเทศหนึ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นสังคมพหุลักษณ์
ที่มีพัฒนาการและความเป็นมาทางประวัติศาสตร์วางอยู่บนพื้นฐานของความหลากหลาย
ทางชาติพันธุ์ และความชับข้อนเชิงโครงสร้าง แต่นโยบายที่ละเลยการศึกษาวิจัยในกลุ่ม
ไทยศึกษา ซึ่งเน้นการวิพากษ์วิจารณ์ในเชิงทฤษฎี ทั้งในประเด็นที่เกี่ยวกับชาติพันธุ์และ
อัตลักษณ์ทางวัฒนธรรม ทำให้กลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ ที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก ถูกทำให้กลาย
เป็นเพียง "คนกลุ่มน้อย" หรือ "คนชายขอบ" ความเข้าใจผิดของนักวิทยาศาสตร์สังคม
บางกลุ่ม ทำให้เกิดกระบวนการผลิตซ้ำของวาทกรรมการพัฒนาในยุคสมัยใหม่ ที่ทำให้
บุคคลเหล่านี้กลายเป็น 'คนอื่น' ของสังคมไทย ผู้เขียนประยุกต์ใช้ทฤษฎีฐานราก โดยใช้
การศึกษากรณีตัวอย่าง กับผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่พักพิงชั่วคราวแห่งหนึ่งในประเทศไทย
โดยการสัมภาษณ์เชิงลึกและสังเกตแบบมีส่วนร่วม หลังจากนั้นจึงวิเคราะห์ข้อมูล
ด้วยหลักความสอดคล้องต้องกันของเนื้อหาและเรื่องเล่า แล้วจึงนำเสนอผลการศึกษา
โดยการพรรณนาคุณภาพชีวิตในพื้นที่พักพิงชั่วคราวและนำเสนอโดยใช้แผนที่ทางสังคม
แสดงเส้นทางการขนส่งเหยื่อของกระบวนการค้ามนุษย์ เพื่อเปิดประเด็นโต้แย้งเรื่อง
นโยบายการพัฒนาที่ละเลยประเด็นด้านการค้ามนุษย์ที่เกิดขึ้นกับบุคคลไร้รัฐ
ผลการศึกษาพบว่า ผู้หนีภัยจากการสู้รบจากประเทศพม่าเข้ามาในประเทศไทย
ต้องตกเป็นเหยื่อของการค้ามนุษย์ด้วยมูลเหตุปัจจัยสำคัญคือ 1) การมีคุณภาพชีวิตที่ต่ำ
เนื่องจากข้อจำกัดด้านระบบบริหารจัดการของพื้นที่พักพิง 2) การพัฒนาเศรษฐกิจที่
ขาดการวางแผนและการไม่ยุทธศาสตร์ด้านการค้ามนุษย์ และ 3) การมีสถานภาพเป็น “บุคคลไร้รัฐ” ของผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่พักพิงชั่วคราว ผู้เขียนเสนอว่า ประเทศไทยควรปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์โดยเฉพาะในส่วนของการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่เกิดขึ้นในระหว่างกระบวนการขนย้าย เพราะกระบวนการดังกล่าวทำให้เหยื่อบาดเจ็บถูกบังคับให้สูญหายและตาย นอกจากนี้ รัฐบาลไทยในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของประชาคมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ควรเพิ่มบทบาทเชิงนโยบายในระดับภูมิภาคเพื่อปรับปรุงกฎหมายและแนวปฏิบัติที่เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ โดยประสานความร่วมมือกับหน่วยงานผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ และคณะกรรมการประสานงานบริการแก่ผู้หนีภัยฯ โดยปรับปรุระบบบริหารจัดการของพื้นที่พักพิงให้เอื้อต่อการมีคุณภาพชีวิตที่ดี สะท้อนปัญหาของสถานการณ์ด้านการค้ามนุษย์ที่เกิดขึ้นกับผู้ที่อาศัยหรือเคยอาศัยอยู่ในพื้นที่พักพิงชั่วคราว ร่วมกำหนดนิยามที่ชัดเจนต่อ 'สถานะชั่วคราว' ตลอดจนเปิดโอกาสให้ผู้พักพิงฯในฐานะที่เป็นพลเมืองโลก ได้รับสิทธิเท่าเทียมในการเข้าถึงแหล่งทรัพยากรเพื่อพัฒนาศักยภาพและทักษะด้านการสื่อสาร การทำงาน และทักษะด้านสังคมวัฒนธรรม เพื่อให้ผู้พักพิงเหล่านี้ เป็นพลเมืองโลกที่มีคุณภาพในการร่วมพัฒนาภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ต่อไป