แนวทางการพัฒนาการท่องเที่ยวภายใต้โครงการอาร์มี่ แลนด์ มณฑลทหารบกที่ 210 ค่ายพระยอดเมืองขวาง จังหวัดนครพนม
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาศักยภาพของแหล่งท่องเที่ยวของมณฑลทหารบกที่ 210 ค่ายพระยอดเมืองขวาง จังหวัดนครพนม (2) วิเคราะห์สถานการณ์การท่องเที่ยวภายใต้โครงการอาร์มี่ แลนด์ ของมณฑลทหารบกที่ 210 ค่ายพระยอดเมืองขวาง จังหวัดนครพนม และ (3) เสนอแนวทางในการพัฒนาการท่องเที่ยวภายใต้โครงการอาร์มี่ แลนด์ ในมณฑลทหารบกที่ 210 ค่ายพระยอดเมืองขวาง จังหวัดนครพนม โดยใช้วิธีการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย แบบสังเกตอย่างไม่มีส่วนร่วมและแบบสัมภาษณ์เชิงลึกแบบกึ่งโครงสร้าง ใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง (Purposive sampling) ซึ่งพิจารณาจากการเป็นผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการพัฒนาการท่องเที่ยวในพื้นที่ จำนวน 15 คน ได้แก่ ผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และชุมชน ใช้แนวคิดศักยภาพทางการท่องเที่ยว (5As) ในการดำเนินการวิจัย
ผลการศึกษาพบว่า ศักยภาพแหล่งท่องเที่ยวมณฑลทหารบกที่ 210 ค่ายพระยอดเมืองขวาง จังหวัดนครพนม โดยรวมทั้ง 5 ด้าน มีศักยภาพในการรองรับนักท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็น (1) ด้านสิ่งดึงดูดใจ (2) ด้านความสามารถในการเข้าถึง (3) ด้านสิ่งอำนวยความสะดวก (4) ด้านที่พัก และ (5) ด้านกิจกรรมการท่องเที่ยว
ผลการวิเคราะห์สถานการณ์การท่องเที่ยวของมณฑลทหารบกที่ 210 ค่ายพระยอดเมืองขวาง จังหวัดนครพนม พบว่า จุดแข็ง ได้แก่ (1) มีกิจกรรมการท่องเที่ยวที่หลากหลายและมีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว (2) เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีองค์ความรู้เพื่อให้นักท่องเที่ยวมีส่วนร่วม (3) เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีความปลอดภัยสูง จุดอ่อน ได้แก่ (1) ขาดการจัดประชาสัมพันธ์ร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ (2) ขาดบุคลากรหรือเจ้าหน้าที่อยู่ประจำแหล่งท่องเที่ยว (3) ขาดการสร้างเครือข่ายเชื่อมโยงกับแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ และชุมชน โอกาส ได้แก่ (1) พื้นที่ภายนอกค่ายพระยอดเมืองขวาง มีสาธารณูปโภคเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยว (2) จังหวัดนครพนมมีระบบคมนาคมขนส่งเพื่อการท่องเที่ยวที่หลากหลายรูปแบบสำหรับนักท่องเที่ยว (3) หน่วยงานกองทัพบกและส่วนราชการจังหวัดนครพนมได้จัดสรรงบประมาณสนับสนุนรวมถึงส่งเสริมการท่องเที่ยวภายใต้โครงการอาร์มี่ แลนด์ อุปสรรค ได้แก่ (1) ข้อจำกัดในเรื่องของกฎระเบียบ ข้อบังคับของมณฑลทหารบกที่ 210 ค่ายพระยอดเมืองขวาง (2) งบประมาณจากรัฐบาลที่จัดสรรคให้มาไม่เพียงพอต่อการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว (3) ระบบขนส่งสาธารณะของจังหวัดนครพนม เช่น รถโดยสารประจำทางมีจำนวนจำกัดและไม่เพียงพอต่อความต้องการของนักท่องเที่ยว
แนวทางในการพัฒนาการท่องเที่ยวภายใต้โครงการอาร์มี่ แลนด์ ในมณฑลทหารบกที่ 210 ค่ายพระยอดเมืองขวาง จังหวัดนครพนม ประกอบด้วย (1) ควรมีการพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกทางการท่องเที่ยวให้มีความพร้อมในการให้บริการแก่นักท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น เช่น ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ร้านขายของที่ระลึก ร้านอาหารครัวแม่บ้าน 210 ควรมีการเปิดบริการอย่างต่อเนื่อง รวมถึงห้องน้ำและที่จอดรถควรมีการปรับปรุงให้ได้มาตรฐานและเพียงพอต่อความต้องการของนักท่องเที่ยว (2) ควรมีการจัดกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงผจญภัยให้มีความทันสมัยมากขึ้น เช่น กิจกรรมการยิงปืน BB GUN การยิงหนังสติ๊กปลูกป่า การขับรถ ATV หรือ Go Kart รอบมณฑลทหารบกที่ 210 เป็นต้น (3) ควรเพิ่มการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวในพื้นที่ให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น การจัดโปรแกรมนำเที่ยวเชื่อมโยงเครือข่ายสถานที่ท่องเที่ยวภายในจังหวัดร่วมกับหน่วยงานภาครัฐบาล ภาคเอกชน และภาคชุมชนรวมถึงการมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการแหล่งท่องเที่ยว จะสามารถช่วยพัฒนาให้มณฑลทหารบกที่ 210 ค่ายพระยอดเมืองขวาง กลายเป็นสถานท่องเที่ยวภายใต้โครงการอาร์มี่ แลนด์ ที่มีชื่อเสียงนำไปสู่การขยายตัวทางเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของจังหวัดนครพนม
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารเป็นความคิดเห็นของผู้เขียน มิใช่ความคิดเห็นของกองบรรณาธิการและคณะผู้จัดทำวารสาร และบทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารบริหารธุรกิจและการบัญชี มหาวิทยาลัยขอนแก่น
เอกสารอ้างอิง
Arjnarong Tansuwannarat. (2011). The management of tourism development in the area of Air Force 5th Royal Flying Prachuap Khiri Khan Province. Bangkok: National Research Council of Thailand (NRCT).
Chutikan Kantha-Oo. (2017). Community based tourism: A case study of Baan Rong Fong, Rong Fong Sub-District, Mueang Phrae District, Phrae Province. Bangkok: Chulalongkorn University. (In Thai)
Cooper, C. & Hall, C.M. (2008). Contemporary tourism: an international approach. New York: Routledge.
Creswell, J.W. & Miller, D.L. (2000). Determining validity in qualitative inquiry. Theory into practice, 39(3), 124-130.
Danai Winairat. (2019). Guidelines for the management of cultural tourism market in Phetchaburi Province to integrate into the West Coast tourism development zone. Bangkok: Rajamanggala University of Technology Rattanakosin. (In Thai)
Department of Civil Affairs 201th Military Circle. (2020). The tourism location in 201th Military Circle. Retrieved January 9, 2020, from https://210mc.rta.mi.th/site/แหล่งท่องเที่ยว. (In Thai)
Department of Tourism Nakhon Phanom Province. (2017). Statistics of tourists in Nakhon Phanom Province 2017. Retrieved November 7, 2019, from https://nakhonphanom.mots.go.th/graph_views.php?graph_id=41. (In Thai)
Department of Tourism, Tourism Authority of Thailand. (2015). Tourism management standards. Bangkok: Chulalongkorn University Press. (In Thai)
Jackson, S.E., Joshi, A. & Erhardt, N.L. (2003). Recent research on team and organizational diversity: SWOT analysis and implications. Journal of Management, 29(6), 801-830.
Marigar Palagawong Na Ayuthya. (2010). A determination of evaluation criteria for the Royal Thai Army Tourism Sites. Bangkok: Srinakharinwirot University. (In Thai)
Tourism Authority of Thailand. (2018). The Signing Ceremony of a Cooperation Agreement for The Promotion and Development of Tourism in The Royal Thai Army, The "Army Land" Project. Retrieved November 5, 2019, from https://www.mots.go.th/News-view.php?nid=11094. (In Thai)
Tourism Western Australia. (2008). 5A’s of Tourism. Retrieved January 3, 2020, from http://www.tourism.wa.gov.au/jumpstartguide/totb_5Asoftourism.
Tussanawalai Tuntiekaratana. (2017). The development guidelines for eco-tourism management participation of the local people: Case study of Libong Island, Kantang District, Trang Province. Bangkok: Suan Dusit Rajabhat University. (In Thai)