แนวทางการพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์และการประเมินคุณค่าในวิชากฎหมายภาษีอากร 2
คำสำคัญ:
วิจัยในชั้นเรียน, นักศึกษากฎหมาย, ทฤษฎีการเรียนรู้, กระบวนการเรียนรู้, ทักษะการคิดวิเคราะห์บทคัดย่อ
บทความวิจัยฉบับนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาวิเคราะห์แนวคิดการเรียนรู้ในยุคใหม่ของนักศึกษา และผลการเรียนรู้ที่คาดหวังในวิชากฎหมายภาษีอากร 2 ของหลักสูตรนิติศาสตรบัณฑิต และเพื่อเสนอแนวทางการพัฒนาทักษะการวิเคราะห์และการประเมินคุณค่าโดยใช้ปัญหาเป็นฐานการเรียนรู้ ด้วยวิธีการวิจัยเอกสาร วิจัยเชิงคุณภาพและวิจัยเชิงปริมาณ ประกอบกับการวิเคราะห์ผลการสัมภาษณ์เชิงลึก การวิเคราะห์สมุดคำตอบการสอบปลายภาค ผลการทดสอบย่อยในชั้นเรียนและรายงานผลการศึกษา
ผลการศึกษาพบว่า การทำให้ผู้เรียนเกิดองค์ความรู้ใหม่ เกิดทักษะความชำนาญจนส่งผลทำให้มีการเปลี่ยนแปลงทัศนคติ การตัดสินใจและการกระทำนั้น ประกอบด้วยวิธีการอย่างหลากหลายขึ้นอยู่กับแนวคิดหรือทฤษฎีการเรียนรู้ที่นำมาปรับใช้ ในวิจัยฉบับนี้ได้เลือกศึกษาทฤษฎีการเรียนรู้ของ Benjamin Bloom เฉพาะทักษะการคิดวิเคราะห์และการประเมินคุณค่า โดยนำมาปรับใช้กับการจัดการเรียนการสอนในวิชากฎหมายภาษีอากร 2 ของคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
ผู้วิจัยได้เสนอแนะกระบวนการและขั้นตอนการพัฒนาทักษะการวิเคราะห์และการประเมินคุณค่า โดยการใช้ปัญหาเป็นฐานการเรียนรู้ ประกอบด้วยกระบวนการหลักการสามขั้นตอนดังนี้ 1) การเตรียมการจัดการเรียนการสอนประกอบด้วยการจัดทำแผน การสอน การกำหนดวัตถุประสงค์การเรียนรู้ การออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้และการวัดผลการเรียนรู้ 2) การดำเนินการจัดการเรียนการสอนประกอบด้วยการปฏิบัติตามแผนการสอน การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ รูปแบบการวัดผลการเรียนรู้ และกำหนดเวลาวัดผล การเรียนรู้ และ 3) การสรุปผลและวิเคราะห์การจัดการเรียนการสอน ประกอบด้วยการสรุปผลการเรียนรู้และการวิเคราะห์การจัดการเรียนการสอน
เอกสารอ้างอิง
IGI Global. “What is Learning Process.” https://www.igi-global.com/dictionary/analyzing-farmers-learning-process-in-sustainable-development/16939 (accessed April 13, 2020).
Vanderbilt University. “Bloom’s Taxonomy.” https://cft.vanderbilt.edu/guides-sub-pages/blooms-taxonomy/ (accessed April 13, 2020).
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารนิติศาสตร์และสังคมท้องถิ่น คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสาร ทั้งนี้ ข้อมูล เนื้อหา และข้อคิดเห็นที่ปรากฏในบทความเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนแต่เพียงผู้เดียว กองบรรณาธิการไม่มีความจำเป็นต้องเห็นด้วยหรือร่วมรับผิดชอบใด ๆ
เนื้อหา ข้อมูล รูปภาพ และองค์ประกอบอื่น ๆ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารฯ อยู่ภายใต้ลิขสิทธิ์ของวารสารนิติศาสตร์และสังคมท้องถิ่น การนำไปเผยแพร่ ดัดแปลง หรือใช้ประโยชน์ในลักษณะใด ๆ ไม่ว่าเป็นบางส่วนหรือทั้งหมด ต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากวารสารก่อน