การวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) กับสมรรถนะสำคัญของผู้เรียนระดับชั้นประถมศึกษาตอนปลาย ในสถานศึกษาเอกชน จังหวัดนนทบุรี

ผู้แต่ง

  • สุรีย์ ใหญ่แก้ว นักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา สาขาวิชาหลักสูตรและการจัดการเรียนรู้ คณะศึกษาศาสตร์และศิลปศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีแห่งสุวรรณภูมิ
  • มนูญพงศ์ ชัยพันธุ์ อาจารย์ประจำ หลักสูตรสาขาวิชาหลักสูตรและการจัดการเรียนรู้ คณะศึกษาศาสตร์และศิลปศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีแห่งสุวรรณภูมิ

คำสำคัญ:

การจัดการเรียนรู้เชิงรุก, สมรรถนะสำคัญ, จังหวัดนนทบุรี

บทคัดย่อ

   บทความนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาการจัดการเรียนรู้เชิงรุก สมรรถนะสำคัญ และวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) กับสมรรถนะสำคัญของผู้เรียนระดับชั้นประถมศึกษาตอนปลายในสถานศึกษาเอกชน จังหวัดนนทบุรี โดยการสุ่มกลุ่มตัวอย่างอย่างง่ายจากผู้สอนระดับชั้นประถมศึกษาในสถานศึกษาเอกชน จังหวัดนนทบุรี จำนวน 210 คน จากประชากรจำนวน 460 คน ทำการเก็บรวบรวมข้อมูล โดยใช้ในแบบสอบถามแบบมาตราส่วนประมาณค่าชนิด 5 ระดับ มีค่า
ความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหาเท่ากับ 0.67-1.00 และความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.91 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน กำหนดระดับนัยสำคัญทางสถิติที่ .01 ผลการวิจัยพบว่า 1) การจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูผู้สอนระดับชั้นประถมศึกษาตอนปลาย
ในสถานศึกษาเอกชน จังหวัดนนทบุรี อยู่ในภาพรวมอยู่ระดับมาก เรียงตามลำดับค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อยคือ การเรียนรู้เชิงประสบการณ์ การเรียนรู้ที่เน้นทักษะกระบวนการคิด การเรียนรู้โดยใช้โครงงานเป็นฐาน และการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน 2) สมรรถนะสำคัญของผู้เรียนชั้นประถมศึกษาตอนปลาย ในสถานศึกษาเอกชน จังหวัดนนทบุรี ในภาพรวมอยู่ระดับมาก เรียงตามลำดับค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อยคือ
ด้านความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต ด้านความสามารถในการสื่อสาร ด้านความสามารถในการใช้เทคโนโลยี และด้านความสามารถในการคิดมีค่าเฉลี่ย เท่ากับ ด้านความสามารถในการแก้ปัญหา 3) ความสัมพันธ์ระหว่างการเรียนรู้เชิงรุกกับสมรรถนะสำคัญของผู้เรียนระดับชั้นประถมศึกษาตอนปลาย ในสถานศึกษาเอกชน จังหวัดนนทบุรี โดยภาพรวมมีความสัมพันธ์กันทางบวกอยู่ในระดับมาก อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

เอกสารอ้างอิง

กมล โพธิเย็น. (2564). Active Learning: การจัดการเรียนรู้ที่ตอบโจทย์การจัดการศึกษาในศตวรรษที่ 21. วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร, 19(1), 11-28.

เขมภพ นพคุณ, วัลลยา ธรรมอภิบาล อินทนิน และเรวดี กระโหมวงศ์. (2559). การประเมินการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ของโรงเรียนระดับมัธยมศึกษา อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส. วารสารมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์, 3(1), 1-11.

นัยนา ดอรมาน, ประสาร มาลากุล ณ อยุธยา และผ่องพรรณ เกิดพิทักษ์. (2563). การเรียนรู้เชิงประสบการณ์และการสะท้อนคิดเชิงวิพากษ์. วารสารจิตวิทยา มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต, 10, 20-28.

บังอร เสรีรัตน์. (2565). ครูกับการพัฒนาสมรรถนะสำคัญผู้เรียน. วารสารศิลปากรศึกษาศาสตร์วิจัย, 14(1), 1-11.

ปัณฑิตา อินทรักษา. (2562). การจัดการเรียนรู้ด้วย Active Learning เพื่อการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์. วารสารคุรุศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี, 1(1), 35-43.

พัฒนกร บุตรราช. (2566). การพัฒนากระบวนการจัดการเรียนรู้แบบกิจกรรม WPCES พร้อมด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ทัศนศิลป์ ฮูปติดิต ไทหล่ม ด้วยเศษวัสดุท้องถิ่นอย่างสร้างสรรค์เพื่อเพิ่มขีดความสามารถหลักให้กับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเทศบาลบ้านสักน้อย กองศึกษาธิการ กระทรวงมหาดไทย. วารสารบัณฑิตศึกษา, 16(2), 41-61.

ภูวสิษฏ์ บุญศรี. (2561). การพัฒนากระบวนการจัดการเรียนรู้โดยใช้โครงงานเป็นฐานเพื่อส่งเสริมการคิดอย่างมีวิจารณญาณและการคิดแก้ปัญหาของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านโป่ง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 1. กรุงเทพฯ: สำนักงาน คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน.

วารินท์พร ฟันเฟื่องฟู. (2562). การจัดการเรียนรู้ Active learning ให้สำเร็จ. วารสารวไลยอลงกรณ์ปริทัศน์(มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์), 9(1), 135-145.

สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2560). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. สืบค้นจาก http://academic.obec.go.th/images/document/1559878925_d_1.pdf

อริยา คูหา, สรินฎา ปุติ และฮานานมูฮิบบะตุดดีน นอจิ. (2562). โลกที่เปลี่ยนแปลง การเรียนรู้ที่ผ่านสู่ Active Learning. วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี, 30(2), 1-13.

อัญชลี ทองเอม. (2561). การเรียนรู้โดยใช้โครงงานเพื่อพัฒนาผู้เรียนในศตวรรษที่ 21. วารสารวไลยอลงกรณ์ปริทัศน์ (มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์), 8(3), 185-199.

Best, J. W. (1981). Research in education (4th ed.). Englewood Cliffs, NJ: Prentice-Hall.

Krejcie, R. V., & Morgan, D. W. (1970). Determining sample size for research activities. Educational and Psychological Measurement, 30(3), 607-610. https://doi.org/10.1177/001316447003000308

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2025-06-30

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย