Factors Associated with Health Promotion Behaviors of Diabetes Risk Groups in Phak Than Subdistrict
คำสำคัญ:
พฤติกรรมการสร้างเสริมสุขภาพ, กลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวาน, การรับรู้อุปสรรค, สมรรถนะของตนเองบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ มีจุดมุ่งหมายในการอธิบายและบรรยายความสัมพันธ์ของปัจจัยด้านอารมณ์ ความคิด กับพฤติกรรมสร้างเสริมสุขภาพของกลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวานต่อพฤติกรรมสร้างเสริมสุขภาพ กลุ่มตัวอย่างเป็นกลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวานที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไป จำนวน 120 คน เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสอบถามการรับรู้เกี่ยวกับพฤติกรรมการสร้างเสริมสุขภาพ และแบบสอบถามพฤติกรรมการสร้างเสริมสุขภาพ การวิเคราะห์ข้อมูลใช้จำนวน ร้อยละ ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน
ผลการศึกษา พบว่า 1) การรับรู้ประโยชน์ของการสร้างเสริมสุขภาพ (M = 3.62, S.D. = .318) การรับรู้สมรรถนะของตนเองต่อพฤติกรรมสร้างเสริมสุขภาพ (M = 2.88, S.D. = .427) และแรงสนับสนุนทางสังคมต่อพฤติกรรมสร้างเสริมสุขภาพ (M = 3.37, S.D. = .398) อยู่ในระดับมาก และการรับรู้อุปสรรคของพฤติกรรมสร้างเสริมสุขภาพ (M = 2.08, S.D. = .462) และพฤติกรรมสร้างเสริมสุขภาพ (3อ.2ส.) (M = 2.29, S.D. = .327) อยู่ในระดับปานกลาง 2) ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมสร้างเสริมสุขภาพของกลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวาน ได้แก่ การรับรู้อุปสรรคของพฤติกรรมสร้างเสริมสุขภาพ (r = .-294, p = < 0.001) การรับรู้สมรรถนะของตนเองต่อพฤติกรรมสร้างเสริมสุขภาพ (r = .312, p = < 0.001)
เอกสารอ้างอิง
กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข. (2563). 3 อ. 2 ส. รหัสป้องกันโรค. เข้าถึงจาก https://multimedia.anamai.moph.go.th/
กฤติยา แสวงทรัพย์. (2562). การรับรู้สมรรถนะแห่งตนต่อพฤติกรรมการดูแลสุขภาพกายและสุขภาพจิตชุมชนของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน. วารสารศรีนครินทรวิโรฒวิจัยและพัฒนา (สาขามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์), 11(22), 1-12.
ชาญยุทธ พรหมประพัฒน์. (3 มีนาคม 2561). ห่างไกลโรค NCD ด้วยหลัก 3อ. 2ส. ในมหกรรมสุขภาพโรคไม่ติดต่อ (NCD Forum 2017). กระทรวงสาธารณสุข. ThaiHealth Official.
นิธินันท์ เจริญบัณฑิตย์. (2559). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการสร้างเสริมสุขภาพของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.). (วิทยานิพนธ์ปริญญาพยาบาลศาสตรมหาบัญฑิต). มหาวิทยาลัยบูรพา, ชลบุรี.
ประกาย วิโรจน์กุล. (2556). แนวคิด ทฤษฎี การสร้างเสริมสุขภาพและการนำมาใช้. นนทบุรี: โครงการสวัสดิการวิชาการ สถาบันพระบรมราชชนก.
ประคอง อินทรสมบัติ. (2553). พยาบาลผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ. (พิมพ์ครั้งที่ 10). นนทบุรี :โรงพิมพ์แห่งมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.
สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์กระทรวงสาธารณสุข. (2557). สถิติการตายปี 2552. เข้าถึงได้จาก http://bps.ops.moph.go.th/Statistic/.pdf.
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสิงห์บุรี. (2566). ระบบคลังข้อมูลสุขภาพ Health Data Center (HDC) ระดับจังหวัด. เข้าถึงจาก https://sbr.hdc.moph.go.th/hdc/main/index_pk.php.
สำนักงานสาธารณสุขอำเภอบางระจัน. (2565). สรุปผลการคัดกรองสุขภาพประชาชนอำเภอบางระจันปี 2564. สิงห์บุรี.
วิไลวรรณ คมขำ, กมลทิพย์ ขลังธรรมเนียม และนพนัฐ จำปาเทศ. (2565). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมสร้างเสริมสุขภาพเพื่อป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือดในผู้ป่วยโรคเบาหวานร่วมกับโรคความดันโลหิตสูงที่มีระดับความเสี่ยงสูงในเขตอําเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรี. วารสารวิทยาลัยพยาบาลพระจอมเกล้า จังหวัดเพชรบุรี, 5(2), 44-56.
อารยา เชียงของ. (2561). ผลการพัฒนาความรอบรู้ด้านสุขภาพด้วยการจัดการเรียนรู้เพื่อการเปลี่ยนแปลงที่มี
ต่อพฤติกรรมการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยโรคเบาหวาน. (ปริญญานิพนธ์). มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ, กรุงเทพฯ.
Bandura, Albert. (1986). Social foundations of thought and action: A social cognitive theory. Englewood Cliffs, New Jersey: Prentice-Hall. Bandura, Albert.
Bloom, Benjamin S.J. (ed). (1975). Taxonomy of Education Objective, Hand Book 1: Cognitive Domain. New York: David Mckay.
Pender, N. J., Murdaugh C. L., & Parsons M. A. (2011). Health promotion in nursing practice. (6th ed.). New Jersey: Pearson/ Prentice Hall.
Pender, N.J. (1987). Health promotion in Nursing Paractice. (2nd ed.). Stamford, CT: Appleton & Lange.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2023 วารสารวิชาการ วิจัย และนวัตกรรม มสธ. (มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์) (ออนไลน์)

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.