การร่วมสร้างต้นแบบศูนย์ฟื้นฟูสภาพทางสังคมช่วยเหลือผู้เสพและผู้ติดสารเสพติด อำเภอบ้านฝาง จังหวัดขอนแก่น
คำสำคัญ:
การฟื้นฟูสภาพทางสังคม , ผู้เสพสารเสพติด , การมีส่วนร่วมของชุมชน , การบำบัดฟื้นฟูโดยชุมชนบทคัดย่อ
การวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษากระบวนการร่วมสร้างต้นแบบและเพื่อวิเคราะห์ปัจจัยที่ส่งผลต่อความสำเร็จและอุปสรรคในการดำเนินงานศูนย์ฟื้นฟูสภาพทางสังคมช่วยเหลือผู้เสพและผู้ติดสารเสพติดในอำเภอบ้านฝาง จังหวัดขอนแก่น ใช้วิธีวิจัยเชิงคุณภาพ เก็บข้อมูลโดยการสัมภาษณ์เชิงลึก การสนทนากลุ่ม และการสังเกตอย่างมีส่วนร่วมกับผู้ให้ข้อมูลหลัก รวมจำนวน 46 คน ประกอบด้วย ผู้นำชุมชน จำนวน 8 คน เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง จำนวน 10 คน อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน จำนวน 25 คน และพยาบาลวิชาชีพ จำนวน 3 คน ส่วนผู้เสพและผู้ติดสารเสพติดที่เข้าร่วมโครงการมีจำนวน 50 คน วิเคราะห์ข้อมูลด้วยการวิเคราะห์เนื้อหาและการตรวจสอบข้อมูลแบบสามเส้า ผลการวิจัยพบว่า กระบวนการร่วมสร้างต้นแบบศูนย์ฟื้นฟูฯ ประกอบด้วย 5 ขั้นตอนหลัก ได้แก่ 1) การสร้างความตระหนักร่วมกันในระดับอำเภอ โดยการจัดประชุมผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกภาคส่วน 2) การค้นหาพื้นที่อาสาเป็นพื้นที่เป้าหมาย ด้วยการคัดเลือกชุมชนที่มีความพร้อมและสมัครใจ 3) การทำประชาคมสร้างการมีส่วนร่วม เพื่อรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากประชาชน 4) การสร้างศักยภาพของชุมชน ผ่านการอบรมให้ความรู้แก่แกนนำชุมชนและอาสาสมัคร และ 5) การบำบัด การเสริมพลัง และการติดตามต่อเนื่อง โดยทีมสหวิชาชีพและเครือข่ายชุมชน
ผลการดำเนินงาน พบว่า ผู้เข้าร่วมโครงการ 50 คน สามารถหยุดเสพได้ต่อเนื่อง 3 เดือน จำนวน 45 คน คิดเป็นร้อยละ 90 โดยใช้เกณฑ์การประเมินจากผลการตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดเป็นลบติดต่อกัน 16 ครั้ง ปัจจัยแห่งความสำเร็จที่สำคัญ คือ การมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในชุมชน การสร้างความตระหนักร่วมกัน และการพัฒนาศักยภาพของชุมชนอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังพบว่าการดำเนินงานส่งผลให้เกิด การลดการตีตราผู้ใช้สารเสพติดในชุมชน และการสร้างเครือข่ายสนับสนุนทางสังคมที่เข้มแข็ง การวิจัยนี้นำเสนอแนวทางการพัฒนาศูนย์ฟื้นฟูสภาพทางสังคมช่วยเหลือผู้เสพและผู้ติดสารเสพติดที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในบริบทที่คล้ายคลึงกันได้ โดยเน้นการมีส่วนร่วมของชุมชนและการบูรณาการความร่วมมือจากทุกภาคส่วน
เอกสารอ้างอิง
กระทรวงสาธารณสุข. (2561). แนวทางการบำบัดฟื้นฟูยาเสพติดโดยใช้ชุมชนเป็นศูนย์กลาง. กรุงเทพฯ: กระทรวงสาธารณสุข.
ณฐพร ผลงาม. (2564). การพัฒนารูปแบบการบำบัดฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ป่วยยาเสพติด โดยการมีส่วนร่วมของชุมชนจังหวัดระยอง. วารสารศาสตร์สาธารณสุขและนวัตกรรม, 1(2), 49-71.
วิระวัติ นักร้อง. (2567). การพัฒนาแนวทางการค้นหาผู้ใช้ยาเสพติดด้วยกระบวนการมีส่วนร่วมในพื้นที่ตำบลบ้านโต้น อำเภอพระยืน จังหวัดขอนแก่น. วารสารสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น, 6(1), 1-15.
ศรีสุดา ลุนพุฒิ และนารีรัตน์ หาญกล้า. (2564). การบำบัดฟื้นฟูผู้ใช้สารเสพติดโดยชุมชนเป็นศูนย์กลาง: กรณีศึกษาชุมชนแห่งหนึ่งจังหวัดขอนแก่น.วารสารการพยาบาลและการดูแลสุขภาพ, 39(2), 107-116.
สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด. (2564). แนวทางการดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดโดยชุมชน. กรุงเทพฯ: สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด.
Cohen, J. M., & Uphoff, N. T. (1980). Participation's place in rural development: Seeking clarity through specificity. World Development, 8(3), 213-235. https://doi.org/10.1016/0305-750X(80)90011-X
United Nations Office on Drugs and Crime. (2022). World Drug Report 2022. United Nations publication.
World Health Organization. (2019). WHO consolidated guidelines on drug use and HIV prevention, treatment and care for people who use drugs. World Health Organization. https://www.who.int/publications/i/item/978924000364-4
Zimmerman, M. A. (2000). Empowerment theory: Psychological, organizational and community levels of analysis. In J. Rappaport & E. Seidman (Eds.), Handbook of community psychology (pp. 43-63). Springer. https://doi.org/10.1007/978-1-4615-4193-6_2
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2024 วารสารวิชาการ วิจัย และนวัตกรรม มสธ. (มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์) (ออนไลน์)

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.