การเข้าถึงบริการและการใช้ประโยชน์ของบริการอนามัยการเจริญพันธุ์ของวัยรุ่น
คำสำคัญ:
การจัดบริการอนามัยการเจริญพันธุ์, การเข้าถึงบริการ, การใช้ประโยชน์, วัยรุ่นบทคัดย่อ
การศึกษานี้เป็นการวิจัยแบบผสมวิธี มีวัตถุประสงค์การวิจัยเพื่อศึกษาการจัดบริการ การเข้าถึงบริการ การใช้ประโยชน์ ประสบการณ์และความพึงพอใจในการรับบริการอนามัยการเจริญพันธุ์ของวัยรุ่น เก็บรวมรวมข้อมูลโดยการสัมภาษณ์เชิงลึกผู้บริหาร จำนวน 12 คน สนทนากลุ่มผู้ปฏิบัติงาน เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ผู้ปกครอง และวัยรุ่น จำนวน 40 คน รวมทั้งใช้แบบสอบถามเก็บข้อมูลวัยรุ่นที่รับบริการ จำนวน 206 คน วิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณ โดยใช้สถิติเชิงพรรณนา และข้อมูลเชิงคุณภาพ โดยการวิเคราะห์เชิงเนื้อหา
ผลการศึกษา พบว่า โรงพยาบาลจัดบริการอนามัยการเจริญพันธุ์ในรูปแบบคลินิกวัยรุ่น โดย บูรณาการกับศูนย์พึ่งได้ โรงพยาบาลบางแห่งจัดบริการยุติการตั้งครรภ์ที่ปลอดภัย จัดกิจกรรมเชิงรุกในโรงเรียน โดยให้ความรู้เกี่ยวกับอนามัยการเจริญพันธุ์ และการให้คำปรึกษาเรื่องเพศศึกษา ปัจจัยที่เอื้อต่อการเข้าถึงบริการและการใช้ประโยชน์ของวัยรุ่น คือ กฎหมาย นโยบาย ความรู้ความสามารถของผู้ปฎิบัติงาน การรักษาความลับ ไม่ตีตราผู้ใช้บริการ สิ่งที่ท้าทายต่อการเข้าถึงและใช้ประโยชน์ของวัยรุ่น คือ ทัศนคติเชิงลบของผู้บริหาร ผู้ปฎิบัติงาน และผู้ปกครอง ความพึงพอใจต่อบริการที่ได้รับ คือ ส่วนใหญ่มีความพึงพอใจในระดับมาก ช่องทางที่รู้จักโรงพยาบาลมากที่สุดคือ รู้จากพ่อแม่/ผู้ปกครอง ทราบว่าโรงพยาบาล มีการให้บริการมากที่สุดคือ บริการฝังยาคุมกำเนิด ส่วนใหญ่คิดว่าความสะดวกและระยะเวลาที่รับบริการ มีความเหมาะสม จุดประสงค์ที่วัยรุ่นมารับบริการ ได้แก่ ขอรับคำปรึกษา และขอรับบริการคุมกำเนิดและฝากครรภ์ วัยรุ่นส่วนใหญ่ได้รับบริการที่ตนเองต้องการ และวัยรุ่นทุกคนได้รับบริการแบบเป็นส่วนตัวกับเจ้าหน้าที่ โดยผลการวิจัยสามารถนำไปใช้ในการพัฒนาระบบบริการแบบเบ็ดเสร็จในจุดเดียว การส่งต่อ การสร้างเครือข่าย เสริมสร้างทัศนคติเชิงบวกเกี่ยวกับการยุติการตั้งครรภ์และเรื่องเพศ การสร้างความรอบรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับอนามัยการเจริญพันธุ์และสิทธิประโยชน์ให้แก่วัยรุ่น
เอกสารอ้างอิง
ราชกิจจานุเบกษา. (2559). พระราชบัญญัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น พ.ศ. 2559.
สํานักนายกรัฐมนตรี; เล่ม ๑๓๓ ตอนที่ ๓๐ ก; ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๙.
เรณู ชูนิล และวรรณภา นาราเวช. (2559). โครงการวิจัยรูปแบบการจัดระบบบริการและการยอมรับการยุติการตั้งครรภ์ โดยใช้ยาในประเทศไทย. วารสารการส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อม, 39(1), 35-43.
ศูนย์วิจัยร่วมองค์การอนามัยโลกด้านการเจริญพันธุ์ในมนุษย์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และสมาคมพัฒนาเครือข่ายอาสา RSA (ARSA). (2565). บริการยุติการตั้งครรภ์ที่ปลอดภัยแบบองค์รวมในประเทศไทย. นนทบุรี: โครงการอาสาพัฒนาเครือข่ายบริการที่ปลอดภัยเพื่อเสริมสร้างสุขภาวะทางเพศให้วัยรุ่นและผู้หญิงท้องไม่พร้อม และสมาคมพัฒนาเครือข่ายอาสา RSA.
ศิริลักษณ์ ขณะฤกษ์ และรัชนี ลักษิตานนท์. (2564). รูปแบบการพัฒนาโรงพยาบาลที่ยังไม่เคยขอรับรองมาตรฐานบริการสุขภาพที่เป็นมิตรสำหรับวัยรุ่นและเยาวชน ฉบับ พ.ศ.2563 เขตสุขภาพที่ 5. วารสารการส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อม, 45(1), 53-67.
สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ. (2562). การสนับสนุนค่าบริการป้องกันและควบคุมการตั้งครรภ์ใน
วัยรุ่น ป้องกันการยุติการตั้งครรภ์ที่ไม่ปลอดภัย และป้องกันและควบคุมการตั้งครรภ์ไม่พึง
ประสงค์ ภายใต้ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ. สืบค้นจาก https://rh.anamai.moph.go.th/
web- upload /7x027006c2abe84e89b5c85b44a692da94/202011/m_news/31982/ 192762/file_ download/e84f4cbb4860b15768c6b035386c0747.pdf
สำนักอนามัยการเจริญพันธุ์ กรมอนามัย. (2563). มาตรฐานบริการสุขภาพที่เป็นมิตรสำหรับวัยรุ่นและเยาวชน
ฉบับ พ.ศ. 2563. กรุงเทพฯ: ศูนย์สื่อและสิ่งพิมพ์แก้วเจ้าจอม มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา.
สำนักอนามัยการเจริญพันธุ์ กรมอนามัย. (2563). สถานการณ์อนามัยการเจริญพันธุ์ในวัยรุ่น และเยาวชน ปี 2563. สืบค้นจาก https://rh.anamai.moph.go.th
สำนักอนามัยการเจริญพันธุ์ กรมอนามัย. (2563). รายงานประจำปี 2563 สำนักอนามัยการเจริญพันธุ์. สืบค้นจาก https://rh.anamai.moph.go.th/web-upload/7x027006c2abe84e89b5c85b44a 692da94/202101/m_news/32053/200929/file_download/5499b750564075b590cc442f64caae41.pdf
Huaynoca, S., Svanemyr, J., Chandra-Mouli, V. C. & Moreno Lopez, D. J. (2015). Documenting good practices: Scaling up the youth friendly health service model in Colombia. Reproductive Health, 12, 90.
World Health Organization South-East Asia Region. (2019). Access and Utilisation of Sexual
Reproductive Health Services among Adolescents. (An Assessment Toolkit.) World Health Organization.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2023 วารสารวิชาการ วิจัย และนวัตกรรม มสธ. (มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์) (ออนไลน์)

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.