การพัฒนารูปแบบการบริหารจัดประสบการณ์เรียนรู้ เพื่อพัฒนาทักษะทางสมองส่วนหน้า (Executive Function : EF) โดยใช้ม้าของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กองค์การบริหารส่วนตำบลศรีเมืองชุม อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยและพัฒนา (R&D) นี้มีวัตถุประสงค์ 1) ศึกษาสภาพปัจจุบันปัญหา 2)สร้างรูปแบบ 3) นำรูปแบบไปทดลองใช้ และ4)สรุปผลการประเมิน สร้างคู่มือ ผู้ให้ข้อมูลได้แก่ ผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ ครูผู้ปฏิบัติการสอน ผู้ทรงคุณวุฒิ และประชาชน จำนวน 30 คน เครื่องมือ ได้แก่ แบบประเมินและแบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลเชิงเนื้อหาและการใช้สถิติเบื้องต้น
ผลการวิจัยพบว่า
1) สภาพปัจจุบันปัญหา พบว่า ทุกภาคส่วนรวมทั้ง ชุมชน ผู้ปกครองมีส่วนร่วมและให้ความร่วมมือในการจัดการศึกษาเป็นอย่างดีและดำเนินการมีการวิเคราะห์จุดเด่น จุดด้อย โอกาส ปัญหาอุปสรรค และแนวทางในการพัฒนาสถานศึกษาในทุกมิติ
2) การสร้างรูปแบบการบริหารจัดประสบการณ์เรียนรู้ พบว่า มีจำนวน 7 รูปแบบ ได้แก่ 1.หลักสูตรและกำหนดมาตรฐานคุณลักษณะอันพึงประสงค์ 2.การวิเคราะห์กลุ่มผู้เรียนรู้ 3.การออกแบบกิจกรรม 4.การปฏิบัติตามสถานีกิจกรรม 5.การประเมินผลโดยใช้DSPM และประเมินพึงพอใจการใช้รูปแบบ 6.การปรับปรุงพัฒนารูปแบบ และ7.การสรุปรายงานผล
3) การนำรูปแบบไปทดลองใช้ พบว่า มีทักษะ EF 3 ด้านที่เหมาะสมสำหรับเด็กปฐมวัย ได้แก่1) ทักษะการจำเพื่อใช้งาน 2) ทักษะยั้งคิดไตร่ตรอง และ3) ทักษะยืดหยุ่นความคิด
4) การประเมินกระบวนการใช้รูปแบบเฉลี่ยร้อยละ 84.39 ความพึงพอใจต่อรูปแบบ อยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.05 ด้านผลการประเมินกิจกรรมเฉลี่ยรวมผ่าน 2.74 และของเด็กกลุ่มที่มีพัฒนาการล่าช้าเฉลี่ยรวมผ่าน 2.41 และด้าน เด็กมีทักษะทางสมองส่วนหน้า (EF) คือ ผ่านเกณฑ์ทุกคน ด้านการจัดทำคู่มือการออกแบบกิจกรรมรูปแบบ ประกอบด้วยข้อมูลเกี่ยวกับการใช้รูปแบบ สรุปขั้นตอนการใช้รูปแบบ การวัดผลประเมินผลพัฒนาการเด็กตามหลักสูตรและ ทักษะทางสมองส่วนหน้า
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เอกสารอ้างอิง
กระทรวงศึกษาธิการ. (2560). หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช 2560. (พิมพ์ครั้งที่ 1). กรุงเทพมหานคร : สำนัก วิชาการและมาตรฐานการศึกษา สำนักงานคณะกรรมการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ.
กมลรัตน์ คะนองเดชและคณะ. (2563). ผลการจัดประสบการณ์โดยใช้สื่อและของเล่นที่มีต่อทักษะ EF (Executive Functions) ของเด็กปฐมวัยในโรงเรียนร่วมพัฒนาวิชาชีพครู เขตพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้. คณะครุศาสตร์มหาวิทยาลัยราฃภัฏยะลา.
ชุติมณฑน์ ขวัญกิจบวรกุลและปิยะนันท์ หิรัณย์ชโลทร.(2559). การศึกษาทักษะสังคมในเด็กออทิสติกปฐมวัยโดยการอาชาบำบัด. วารสารวิทยบริการ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์. 27 (2), 51-60.
คันธรส ภาผล. (2560). ผลการจัดกิจกรรมนิทานหุ่นเงาที่ส่งผลต่อส่งเสริม การคิดเชิงบริหารสมองสำหรับเด็กปฐมวัย. วารสารครุศาสตร์สาร. 14 (1) (มกราคม – มิถุนายน),
ทวีศักดิ์ สิริรัตน์เรขา. (2550). การบำบัดทางเลือก ในเด็กพิเศษ. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว.
นวรัตน์ หัสดี.(2559). ผลของการใช้อาชาบำบัดที่มีต่อพัฒนาการด้านพฤติกรรมของนักเรียนที่มีความต้องการพิเศษ. โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ฝ่ายประถม ภาควิชาวิจัยและจิตวิทยาการศึกษา คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ผ่องพรรณ ตรัยมงคลกูล, สุภาพ ฉัตราภรณ์· การออกแบบการวิจัย. กรุงเทพมหานคร : สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, 2543.
ไพรัช ถิตย์ผาด. (2544). การประเมินผลการปฏิบัติงานเชิงยุทธศาสตร์ในหน่วยงานทางการศึกษาและสถานศึกษา. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์การศาสนา.
ราชกิจจานุเบกษา. (2562 ). พระราชบัญญัติ การพัฒนาเด็กปฐมวัย พ.ศ. 2562. เล่ม 136 ตอนที่ 57 ก.30เมษายน 2562.
ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กองค์การบริหารส่วนตำบลศรีเมืองชุม. (2567). ระบุในรายงานประเมินตนเอง.เอกสารอัดสำเนา.
สุภาวดี หาญเมธี. ( 2559 ). EFทักษะสมองเพื่อชีวิตที่สำเร็จ. กรุงเทพมหานคร : สถาบันอาร์ แอล จี(ลูกรัก เลิร์นนิ่ง กรุ๊ป).
Keeves, P.J. (1988). Educationalresearch, Methodology. Andmeasurement : Aninternationalhandbook. Oxford : Pergamon Press.